xs
xsm
sm
md
lg

แม้วฟ้องอาทิตย์ รับไม่ได้ถูกด่าชักใยบึ้ม มาเลย์ช่วยแกะรอยคนร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ทักษิณ" มอบอำนาจลูกสาวเสธ.แดง แจ้งความดำเนินคดี "ดร.อาทิตย์" ฐานหมิ่นประมาท อยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ "พล.ต.อ.ศรีวราห์" นำทีมลงพื้นที่หัวหินสืบสวนคดีระเบิด เชื่อผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 10 คน สั่ง ผบก.ภ.จว.นครศรีฯ หาหลักฐานเพิ่มเพื่อขอศาลทหารออกหมายจับ "ศักรินทร์" ข้อหาครอบครองระเบิดแทนหมายจับวางเพลิง ด้าน "บิ๊กตู่" เผยมาเลเซียรับพิสูจน์หลักฐานมือถือบึ้มใต้แล้ว วอนสื่ออย่าถามอีก ยันให้ความเป็นธรรมทุกคน ไม่มีแพะแน่ "บิ๊กป้อม"แย้มคดีมีความคืบหน้าไปมาก "บิ๊กต๊อก" มอบ"วิษณุ" หารือ 6 กระทรวง เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

วานนี้ ( 17 ส.ค.) ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดและเพลิงไหม้ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของคดีก่อนนำทีมสืบสวนเดินทางลงพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานคดีระเบิดและเหตุเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ พบมีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดมากกว่า 10 คน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในระดับใดบ้าง ซึ่งจะได้เร่งขยายผลให้ถึงตัวผู้สั่งการ หากพบผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าระดับใดหรือหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครจะทำการรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับทันที

"ขณะนี้ศาลมณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาคดีระเบิดเพียง 1 รายเท่านั้น ส่วนนายศักรินทร์ หรือเชษฐ์ คฤหัส ที่ถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับ ก่อนหน้านี้ ยังอยู่ในการควบคุมของทหารตามมาตรา 44 และยังไม่มีการส่งตัวให้ตำรวจ ซึ่งจะส่งตัวมาให้ตำรวจเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับทางกองทัพพิจารณา พร้อมยืนยันหลังจากนี้จะเดินทางเข้าตรวจสอบสำนวนทุกคดีและยื่นคำร้องขอหมายจับด้วยตัวเอง" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

ส่วนการประสานทางประเทศมาเลเซีย และตำรวจสากล ในส่วนของเส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องสงสัย พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังคงเป็นการดำเนินการภายในราชอาณาจักรเท่านั้น สำหรับซิมโทรศัพท์ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งพบต้นทางมาจากประเทศมาเลเซีย แต่ปกติทุกคนสามารถหาซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศได้

รายงานแจ้งว่า ผู้ที่ถูกศาลมณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับคือนาย คือนายนายอะหะมะ เลงหะ ชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

*** จ่อแจ้งข้อหาครอบครองวัตถุระเบิด

ที่ ศปก.สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีและกำชับสั่งการการทำสำนวนการสอบสวนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง บช.ภ.7 และ บช.ภ.8

โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ไปดำเนินการขอเพิกถอนหมายจับนายศักรินทร์ คฤหัส ชาว จ.เชียงใหม่ ต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในข้อหาวางเพลิงฯ และให้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อนุญาตไว้ในครอบครอง ก่อนดำเนินการยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 41 ทั้งนี้ ให้รีบดำเนินการและรายงานให้ทราบทันที

*** ตร.มั่นใจจับมือบึ้มได้แน่

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 1 รายที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แต่ยังไม่ยืนยันจะเชื่อมโยงกับคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ เพราะอาจจะกระทบต่อแนวทางการสอบสวนหากเปิดเผยรายละเอียดออกไป แต่มั่นใจจะสามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ เหมือนคดีใหญ่ อย่างเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ในชั้นสอบสวนขณะนี้ยังไม่พบมีกลุ่มการเมืองเข้ามาหนุนหลัง

****ทนไม่ได้! "แม้ว"ฟ้อง"ดร.อาทิตย์" หมิ่น

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อุทัย เหล่าศิล รองผกก.(สอบสวน) กก.3บก.ป. และ ร.ต.อ.อนุชิต ทวีพร้อม รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กใส่ร้าย นายทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ พร้อมนำเอกสารหลักฐานเป็นข้อความมามอบให้เจ้าหน้าที่

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ตนได้รับมอบอำนาจจาก นายทักษิณ มาแจ้งความดำเนินคดีกับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และผู้ใช้สื่อออนไลน์อีก 2-3 ราย หลังมีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กทั้งรูปภาพและข้อความใส่ร้าย นายทักษิณ มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดทางภาคใต้ ตั้งแต่ก่อนวันลงประชามติ ทั้งนี้เพื่อใช้สิทธิปกป้องชื่อเสียงของตัวเองตามกฎหมาย

สำหรับเฟซบุ๊กส่วนตัวของ ดร.อาทิตย์ โพสต์ข้อความว่ากลุ่มของ นายทักษิณ อยู่เบื้องหลังเชื่อมโยงกับทางประเทศสหรัฐอเมิรกา ซึ่งอาจส่งผลเสียเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความมั่นคง อีกทั้ง ในส่วนเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่กลับมีบุคคลภายนอกระบุว่ากลุ่มนายทักษิณเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งตรงนี้เป็นการใส่ร้าย จึงให้เดินทางมาแจ้งความที่ บก.ปอท. เพื่อปกป้องสิทธิ ในข้อหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

*** มาเลฯช่วยพิสูจน์หลักฐานมือถือบึ้มใต้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมประชุม International Conference on Blue Ocean Strategy ครั้งที่ 1 ไม่ได้หารือกับ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียถึงเรื่องเหตุระเบิดหลายจุดในประเทศไทย ซึ่งมีเบอร์โทรศัพท์เชื่อมโยงมาจากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวฝ่ายความมั่นคงมีการพูดคุยประสานกันอยู่แล้ว และมีการรับหลักฐานไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ ดังนั้นบางครั้ง บางเวลาอาจไม่เหมาะที่จะพูดในบางเรื่อง

ส่วนความคืบหน้าของเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ นั้น ฝ่ายความมั่นคงกำลังดำเนินการอยู่ สิ่งสำคัญคือต้องขอร้องสื่อมวลชนจะทำอย่างไรให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ไม่ใช่การปิดบัง แต่เป็นเรื่องการสอบสวน บางคดีต้องใช้เวลาในการจับคนร้าย ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้บ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพ ทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยว จึงขอร้องหยุดถามเรื่องนี้ เพราะอาจทำให้เกิดความสับสน และขอให้เจ้าหน้าที่แถลงเอง ซึ่งจะมีความคืบหน้าเรื่อยๆ แต่ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ใครไม่เดือดร้อนหรือไม่เกี่ยวข้อง ก็อย่าร้อนตัว

ส่วนที่ฝ่ายความมั่นคงระบุในตอนแรกว่า เหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้เกิดจากความไม่พอใจการทำประชามติ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขามองหลายสาเหตุ ไม่ได้ตัดปัจจัยใดทิ้ง ซึ่งขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็สืบสวนจนได้ ตนให้ความเป็นธรรมทุกคน สิ่งสำคัญคือต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่บ้าง อย่าให้ตอบคำถามสื่อทุกวัน เพราะยังมีอีกหลายคดีที่ต้องทำ แต่คดีนี้เป็นทีมพิเศษ ให้ความสำคัญโดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดูแลเอง ฝ่ายความมั่นคงมีการใช้สายข่าว ทั้งตำรวจ ทหาร และต่างประเทศ ก็มีการประสานหมดแล้ว แต่ไม่ใช่จะจับกุมได้ทันที ต้องสืบสวนทั้งสิ้น ไม่ให้มีคนเดือดร้อนจากการบังคับใช้กฎหมาย ยืนยันไม่มีแพะ หรือแกะใดๆ ทั้งสิ้น

**บิ๊กป้อม"แย้มคดีระเบิดคืบหน้า

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าว ถอนหมายจับผู้ต้องสงสัยก่อเหตุไฟไหม้ ระเบิด ห้างสรรพสินค้าโลตัส จ.นครศรีธรรมราช เพราะเป็นการออกหมายจับผิดคน ว่า อย่ามองว่าจับผิดคน เพราะมีภาพในกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูล แล้วนำไปขอหมายจับจากศาล และนำไปสู่การจับกุม และใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ให้ทหารสอบสวน ซึ่งมีระยะเวลา 7 วัน โดยจะเน้นประเด็นความมั่นคง ก่อนส่งตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมข้อมูลการสอบสวน ให้ดำเนินการต่อตามกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่า ไม่ได้ถอนหมายจับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของตำรวจ อย่าบอกว่าผิดตัว มันไม่ใช่ ขณะนี้การสอบสวนในภาพรวม มีความก้าวหน้าไปมาก ใกล้แล้ว รอให้จับตัวคนให้ได้ก่อน ไม่อยากพูดรายละเอียดในตอนนี้ อย่ากดดันให้มาก ขอให้ประชาชนฟังตน รับรองว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงการปรับปรุงงานด้านการข่าว ว่า นายสุวพันธุ์ หมายความว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้น หน่วยข่าวปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ตอนนี้ตนก็สั่งให้ปรับปรุงการทำงานของหน่วยข่าวอยู่แล้ว ขอให้สบายใจว่ารัฐบาลได้ทำงานไปเยอะ สถานการณ์บ้านเรายังไม่ปกติ มีความขัดแย้งกันอยู่ แต่ถ้าทุกคนมีความเข้าใจสถานการณ์ ก็จะดีขึ้น เมื่อถามว่า จากข้อมูลเหมือนจะโยงถึงบุคคลในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ต้องให้ได้ตัวบุคคล และได้ทำการสอบสวนก่อน เพราะถ้ายังไม่ได้คน ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังไม่มีความชัดเจน

** หารือ6กระทรวงเยียวยาเหยื่อบึ้ม

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ว่า ได้รายงานต่อที่ประชุม ถึงแนวทางการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้และระเบิดหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะใช้รูปแบบเดียวกันกับการเยียวยาความเสียหายของเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยนายกฯได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เรียก 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย ยุติธรรม แรงงาน สาธารณสุข ท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ประชุมเพื่อหาทางในการเยียวยาเร็วๆ นี้ โดยตนได้เตรียมรายละเอียดทั้งหมดไว้ให้นายวิษณุ แล้ว

เบื้องต้นคิดว่าการช่วยเหลือจากรัฐบาลจะไม่ล่าช้า แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะต้องใช้งบประมาณทั้งหมดเท่าใด แต่จะมุ่งเน้นการเยียวยาทางอาญา เกี่ยวกับการสูญเสียของเหยื่อ โดยในส่วนของกระทรวงยุติธรรม จะต้องรอให้มีการฟ้องร้อง และจะเข้าไปดูแลผู้เสียหาย เช่น การตั้งทนาย หรือกระบวนการทางศาล ส่วนการเยียวยาทางแพ่ง เช่น เหตุไฟไหม้นั้น พม. จะมีเงินช่วยเหลืออยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น