วานนี้ (15ส.ค.) ที่ตึกนารีสโมสร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหารือยุทธศาสตร์"ไทยแลนด์ 4.0" ร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยของรัฐ 27 แห่ง และเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาตร์และเทคโนโลยี เข้าร่วม
ภายหลังการประชุม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ แถลงว่า เป็นการประชุมร่วมในลักษณะของการบูรณาการ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยมหาวิทยาลัย ซึ่งไทยแลนด์ 4.0 นั้น เป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ที่จะสามารถทำได้ด้วยการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ พร้อมกับโครงสร้างการวิจัยและพัฒนาไปพร้อมกัน ซึ่งก็คือ การปฏิรูปคนและการคึกษา โดยผ่านบทบาท มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี และนวัตกรรม
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยรัฐ ทั้ง 27 แห่ง ได้นำเสนอที่ประชุม 3 ประเด็น คือ 1. ไทยแลนด์ 4.0 จะเดินหน้าไปได้นั้น ต้องปรับบทบาทมหาวิทยาลัยในการวิจัย และการสร้างคน 2. มหาวิทยาลัยจะตอบโจทย์ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงในเรื่องรากแขนง ที่แต่เดิมเราไม่มีรากแก้วในองค์ความรู้เทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งมหาวิทยาลัย ต้องเป็นตัวหลักในการสร้างรากแก้วของเทคโนโลยีให้ประเทศ โดยมีโรดแมปในการพัฒนาชัดเจน ตั้งแต่ 1 ปี 5 ปี และ 20 ปี จากนี้ไป โดยโรดแมปนี้ จะต้องตอบโจทย์ปัญหาของสังคม อาทิ ปัญหาสังคมผู้สูงวัย ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง หรือปัญหาพลังงาน เป็นต้น และ 3. ทุกมหาวิทยาลัยในประเทศ จะจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆ คือ มหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยเพื่อไปต่อสู้ในการพัฒนาเทคโนโลยีในระดับโลก มหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และสุดท้ายมหาวิทยาลัยชุมชุน ที่ตอบโจทย์ระดับภูมิภาค และชุมชน โดยจะมีการจัดระเบียบ และแบ่งงานกันทำ เพื่อตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้โดยให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเป็นตัวหลัก โดยประสานงานกับ รมว.ศึกษาธิการ รมว.คลัง รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และรมช.พาณิชย์ เพื่อตอบโจทย์จากที่ประชุมครั้งนี้ ให้นำไปขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยว่า งานวิจัยต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศนั้น จะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาค และชุมชน รวมถึงงานวิจัย ที่ให้สามารถให้ขายได้ เพื่อสร้างมูลค่า และสร้างรายได้ให้ประชาชนส่วนใหญ่
ภายหลังการประชุม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ แถลงว่า เป็นการประชุมร่วมในลักษณะของการบูรณาการ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยมหาวิทยาลัย ซึ่งไทยแลนด์ 4.0 นั้น เป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ที่จะสามารถทำได้ด้วยการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ พร้อมกับโครงสร้างการวิจัยและพัฒนาไปพร้อมกัน ซึ่งก็คือ การปฏิรูปคนและการคึกษา โดยผ่านบทบาท มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี และนวัตกรรม
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยรัฐ ทั้ง 27 แห่ง ได้นำเสนอที่ประชุม 3 ประเด็น คือ 1. ไทยแลนด์ 4.0 จะเดินหน้าไปได้นั้น ต้องปรับบทบาทมหาวิทยาลัยในการวิจัย และการสร้างคน 2. มหาวิทยาลัยจะตอบโจทย์ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงในเรื่องรากแขนง ที่แต่เดิมเราไม่มีรากแก้วในองค์ความรู้เทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งมหาวิทยาลัย ต้องเป็นตัวหลักในการสร้างรากแก้วของเทคโนโลยีให้ประเทศ โดยมีโรดแมปในการพัฒนาชัดเจน ตั้งแต่ 1 ปี 5 ปี และ 20 ปี จากนี้ไป โดยโรดแมปนี้ จะต้องตอบโจทย์ปัญหาของสังคม อาทิ ปัญหาสังคมผู้สูงวัย ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง หรือปัญหาพลังงาน เป็นต้น และ 3. ทุกมหาวิทยาลัยในประเทศ จะจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆ คือ มหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยเพื่อไปต่อสู้ในการพัฒนาเทคโนโลยีในระดับโลก มหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และสุดท้ายมหาวิทยาลัยชุมชุน ที่ตอบโจทย์ระดับภูมิภาค และชุมชน โดยจะมีการจัดระเบียบ และแบ่งงานกันทำ เพื่อตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้โดยให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเป็นตัวหลัก โดยประสานงานกับ รมว.ศึกษาธิการ รมว.คลัง รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และรมช.พาณิชย์ เพื่อตอบโจทย์จากที่ประชุมครั้งนี้ ให้นำไปขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยว่า งานวิจัยต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศนั้น จะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาค และชุมชน รวมถึงงานวิจัย ที่ให้สามารถให้ขายได้ เพื่อสร้างมูลค่า และสร้างรายได้ให้ประชาชนส่วนใหญ่