ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมา คงทำให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แอบยิ้มกันแก้มปริ ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล พ ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีปี๊บกันสนั่นหวั่นไหว
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนขี้โอ่เหมือนนายทักษิณ ชินวัตรและพวก ชอบอวดเหมือนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและลูกสมุนพรรคเพื่อไทย คะแนนโหวต “รับ” จำนวนกว่า 15 ล้านเสียงคงถูกนำไปคุยโม้อีกนาน
ผลโหวตที่ออกมาน่าจะสรุปได้ว่า ผู้ออกเสียงลงประชามติที่เดินทางมาใช้สิทธิ์ ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอาด้วยกับ “ทักษิณ” และรวมพลังแสดงการต่อต้านแกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์โหวต “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ
แต่ผลโหวตไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปีหน้า พรรคเพื่อไทยจะไม่กลับมา ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า “ทักษิณ” จะไม่มีโอกาสเข้ามากุมอำนาจอีกครั้ง
ผลประชามติครั้งนี้ จึงไม่ควรลิงโลดกระโดดโลดเต้นมากเกินไป เพราะแม้ฝ่าย “ทักษิณ” จะแพ้ยับเยิน แต่ฐานมวลชนที่สนับสนุน “ทักษิณ” ยังอยู่ คนเสื้อแดงที่รัก “ทักษิณ” อย่างงมงายไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้เปลี่ยนทัศนะคติทางการเมืองแต่อย่างใด และพร้อมจะเทเสียงให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่
ภาคเหนือตอนบน อีกสานเกือบทั้งภาค โหวตไปตามการชี้นำของแกนนำคนเสื้อแดงคือ “ไม่รับ”
แม้เป็นเพียงขั้นตอนการลงประชามติ ไม่มีการหาเสียง ไม่มีหัวคะแนน ไม่มีการรณรงค์ ไม่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินเคาะประตูบ้าน และไม่มีท่อน้ำเลี้ยง อัดฉีดเงินซื้อเสียง แต่ยังมีคนโหวตเกือบ 10 ล้านเสียงให้ฝ่าย “ทักษิณ”
ถ้าเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ทุ่มเงินกันได้เต็มที่ รณรงค์หาเสียงได้เต็มพิกัด ผู้สมัครส.ส.และหัวคะแนนเดินสายลงพื้นที่เคาะประตูบ้านได้ และกลไกรัฐเปลี่ยนสี เลือกข้างกลับไปถือหางรับใช้ “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทยจะกวาดชัยชนะเหมือนเดิม
และถ้าทุ่มเงินกว้านซื้อ ส.ว. เป็นขี้ข้าเหมือนที่เคยกว้านซื้อไว้ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยจะกลับเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล การยึดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์จะกลายเป็น “เสียของ” อีกครั้ง
การโค่นล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จะไม่ทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์แต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้ว การเมืองก็กลับสู่วงจรอุบาทว์ นักการเมืองเลวๆ จะคืนสู่อำนาจ กลุ่มคนเสื้อแดงก็จะกลับมากร่างคับบ้านคับเมือง ปัญหาความแตกแยก ปัญหาความวุ่นวายจะกลับมาหลอกหลอนประชาชนอีก
ประชามติที่ออกมา น่าจะเป็นความหดหู่ของประชาชน เพราะมวลชนคนเสื้อแดงที่ชื่นชอบ “ทักษิณ” ยังแน่นปึก สะท้อนให้เห็นว่า มวลชนคนเสื้อแดงยังจงรักภักดีต่อ “ทักษิณ” เหมือนเดิม
เพียงแค่นายจตุพร พรหมพันธุ์และแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นออกมาโบกธงแดง ส่งสัญญาณ โหวต “ไม่รับ” รัฐธรรมนูญเท่านั้น คนเสื้อแดงภาคเหนือและภาคอีสานก็เทเสียงให้
ดังนั้น มีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ถ้าเงินถึง และ “ทักษิณ” เพียงกระดิกนิ้ว เสียงภาคเหนือภาคอีสานจะเทไปกองรวมอยู่ที่พรรคเพื่อไทย
พล.อ.ประยุทธ์อยู่มากว่า 2 ปีแล้ว และไม่รู้ว่าจะอยู่ต่ออีกกี่ปี แต่น่าเศร้าหรือไม่ ถ้าสุดท้าย ประเทศจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างมีนัย ในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจ
น่าสังเวชหรือไม่ที่เครือข่าย “ทักษิณ” ยังอยู่ ไม่ถูกย่อยสลาย และมวลชนคนเสื้อแดงยังฝังหัวอยู่กับ “ทักษิณ” โดยไม่มีใครลงไปปรับทัศนะคติ และรู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี
ไม่มีใครกล้าประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่า “ทักษิณ” ก่อเรื่องเลวร้ายอะไรไว้บาง ไม่มีใครกล้าประณามให้ประชาชนรู้ว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสร้างความเสียหายให้ประเทศไว้หนักหนาขนาดไหน
ทำให้วันนี้ ซาตานอย่าง “ทักษิณ ”และลูกสมุน ยังได้รับการบูชาดุจ “เทพเจ้า” จากมวลชนคนเสื้อแดง
ปลายปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแล้ว แต่ยังไม่มีการปฏิรูปการเมือง การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จึงเป็นไปอย่างไม่บริสุทธิ์ และซื้อเสียงกันตามเดิม
รัฐธรรมนูญที่ลงประชามติ “รับ” กันอย่างท่วมท้น ก็ไม่อาจป้องกันนักการเมืองตัวร้ายหน้าเก่าๆ กลับเข้ามาใหม่ได้
ประชาธิปไตยที่กำลังคืนกลับ จะนำบ้านเมืองไปสู่ความโกลาหลวุ่นวายย้อนรอยช่วงรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”
พล.อ.ประยุทธ์ให้คำสัญญาไว้มากมาย แต่สัญญาได้ไหมว่า จะปิดทางการกลับมาของ “ทักษิณ”
พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรไปหลายอย่าง แต่สิ่งที่ยังไม่ได้ทำเป็นชิ้นเป็นอันคือ การปฏิรูป ทั้งปฏิรูปการเมือง และการปฏิรูปตำรวจที่ประชาชนทวงถามมาตลอด และไม่มีหลักประกันว่า ช่วงเวลาที่เหลือ พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิรูปอะไรบ้างไหม
ประชามติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผลที่ออกมาอาจเป็นตัวตัดสินว่า พล.อ.ประยุทธ์ชนะ แต่ฝ่าย “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทยหรือบรรดาหัวโจกเสื้อแดงทั้งหลาย แม้จะรู้สึกผิดหวังในความพ่ายแพ้ แต่ได้ซ่อนความกระหยิ่มยิ้มย่องไว้ เพราะมวลชนคนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น
เลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยแจ้งเกิดใหม่แน่
อย่าด่วนดีใจในผลประชามติเกินไปนัก แต่ต้องเตรียมตัวร้องไห้ไว้บ้าง ล่วงหน้า เพราะเมื่อพล.อ.ประยุทธ์สะบัดก้นลุกจากไปเมื่อใด “ทักษิณ” จะคืนชีพอีกครั้ง
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมา คงทำให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แอบยิ้มกันแก้มปริ ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล พ ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีปี๊บกันสนั่นหวั่นไหว
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนขี้โอ่เหมือนนายทักษิณ ชินวัตรและพวก ชอบอวดเหมือนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและลูกสมุนพรรคเพื่อไทย คะแนนโหวต “รับ” จำนวนกว่า 15 ล้านเสียงคงถูกนำไปคุยโม้อีกนาน
ผลโหวตที่ออกมาน่าจะสรุปได้ว่า ผู้ออกเสียงลงประชามติที่เดินทางมาใช้สิทธิ์ ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอาด้วยกับ “ทักษิณ” และรวมพลังแสดงการต่อต้านแกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์โหวต “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ
แต่ผลโหวตไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปีหน้า พรรคเพื่อไทยจะไม่กลับมา ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า “ทักษิณ” จะไม่มีโอกาสเข้ามากุมอำนาจอีกครั้ง
ผลประชามติครั้งนี้ จึงไม่ควรลิงโลดกระโดดโลดเต้นมากเกินไป เพราะแม้ฝ่าย “ทักษิณ” จะแพ้ยับเยิน แต่ฐานมวลชนที่สนับสนุน “ทักษิณ” ยังอยู่ คนเสื้อแดงที่รัก “ทักษิณ” อย่างงมงายไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้เปลี่ยนทัศนะคติทางการเมืองแต่อย่างใด และพร้อมจะเทเสียงให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่
ภาคเหนือตอนบน อีกสานเกือบทั้งภาค โหวตไปตามการชี้นำของแกนนำคนเสื้อแดงคือ “ไม่รับ”
แม้เป็นเพียงขั้นตอนการลงประชามติ ไม่มีการหาเสียง ไม่มีหัวคะแนน ไม่มีการรณรงค์ ไม่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินเคาะประตูบ้าน และไม่มีท่อน้ำเลี้ยง อัดฉีดเงินซื้อเสียง แต่ยังมีคนโหวตเกือบ 10 ล้านเสียงให้ฝ่าย “ทักษิณ”
ถ้าเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ทุ่มเงินกันได้เต็มที่ รณรงค์หาเสียงได้เต็มพิกัด ผู้สมัครส.ส.และหัวคะแนนเดินสายลงพื้นที่เคาะประตูบ้านได้ และกลไกรัฐเปลี่ยนสี เลือกข้างกลับไปถือหางรับใช้ “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทยจะกวาดชัยชนะเหมือนเดิม
และถ้าทุ่มเงินกว้านซื้อ ส.ว. เป็นขี้ข้าเหมือนที่เคยกว้านซื้อไว้ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยจะกลับเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล การยึดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์จะกลายเป็น “เสียของ” อีกครั้ง
การโค่นล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จะไม่ทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์แต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้ว การเมืองก็กลับสู่วงจรอุบาทว์ นักการเมืองเลวๆ จะคืนสู่อำนาจ กลุ่มคนเสื้อแดงก็จะกลับมากร่างคับบ้านคับเมือง ปัญหาความแตกแยก ปัญหาความวุ่นวายจะกลับมาหลอกหลอนประชาชนอีก
ประชามติที่ออกมา น่าจะเป็นความหดหู่ของประชาชน เพราะมวลชนคนเสื้อแดงที่ชื่นชอบ “ทักษิณ” ยังแน่นปึก สะท้อนให้เห็นว่า มวลชนคนเสื้อแดงยังจงรักภักดีต่อ “ทักษิณ” เหมือนเดิม
เพียงแค่นายจตุพร พรหมพันธุ์และแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นออกมาโบกธงแดง ส่งสัญญาณ โหวต “ไม่รับ” รัฐธรรมนูญเท่านั้น คนเสื้อแดงภาคเหนือและภาคอีสานก็เทเสียงให้
ดังนั้น มีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ถ้าเงินถึง และ “ทักษิณ” เพียงกระดิกนิ้ว เสียงภาคเหนือภาคอีสานจะเทไปกองรวมอยู่ที่พรรคเพื่อไทย
พล.อ.ประยุทธ์อยู่มากว่า 2 ปีแล้ว และไม่รู้ว่าจะอยู่ต่ออีกกี่ปี แต่น่าเศร้าหรือไม่ ถ้าสุดท้าย ประเทศจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างมีนัย ในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจ
น่าสังเวชหรือไม่ที่เครือข่าย “ทักษิณ” ยังอยู่ ไม่ถูกย่อยสลาย และมวลชนคนเสื้อแดงยังฝังหัวอยู่กับ “ทักษิณ” โดยไม่มีใครลงไปปรับทัศนะคติ และรู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี
ไม่มีใครกล้าประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่า “ทักษิณ” ก่อเรื่องเลวร้ายอะไรไว้บาง ไม่มีใครกล้าประณามให้ประชาชนรู้ว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสร้างความเสียหายให้ประเทศไว้หนักหนาขนาดไหน
ทำให้วันนี้ ซาตานอย่าง “ทักษิณ ”และลูกสมุน ยังได้รับการบูชาดุจ “เทพเจ้า” จากมวลชนคนเสื้อแดง
ปลายปีหน้าจะมีการเลือกตั้งแล้ว แต่ยังไม่มีการปฏิรูปการเมือง การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จึงเป็นไปอย่างไม่บริสุทธิ์ และซื้อเสียงกันตามเดิม
รัฐธรรมนูญที่ลงประชามติ “รับ” กันอย่างท่วมท้น ก็ไม่อาจป้องกันนักการเมืองตัวร้ายหน้าเก่าๆ กลับเข้ามาใหม่ได้
ประชาธิปไตยที่กำลังคืนกลับ จะนำบ้านเมืองไปสู่ความโกลาหลวุ่นวายย้อนรอยช่วงรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”
พล.อ.ประยุทธ์ให้คำสัญญาไว้มากมาย แต่สัญญาได้ไหมว่า จะปิดทางการกลับมาของ “ทักษิณ”
พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรไปหลายอย่าง แต่สิ่งที่ยังไม่ได้ทำเป็นชิ้นเป็นอันคือ การปฏิรูป ทั้งปฏิรูปการเมือง และการปฏิรูปตำรวจที่ประชาชนทวงถามมาตลอด และไม่มีหลักประกันว่า ช่วงเวลาที่เหลือ พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิรูปอะไรบ้างไหม
ประชามติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผลที่ออกมาอาจเป็นตัวตัดสินว่า พล.อ.ประยุทธ์ชนะ แต่ฝ่าย “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทยหรือบรรดาหัวโจกเสื้อแดงทั้งหลาย แม้จะรู้สึกผิดหวังในความพ่ายแพ้ แต่ได้ซ่อนความกระหยิ่มยิ้มย่องไว้ เพราะมวลชนคนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น
เลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยแจ้งเกิดใหม่แน่
อย่าด่วนดีใจในผลประชามติเกินไปนัก แต่ต้องเตรียมตัวร้องไห้ไว้บ้าง ล่วงหน้า เพราะเมื่อพล.อ.ประยุทธ์สะบัดก้นลุกจากไปเมื่อใด “ทักษิณ” จะคืนชีพอีกครั้ง