อคส.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง คนในเอี่ยวทุจริตมัน-ข้าว หลังพบมันเส้นในสต๊อกล่องหน และเอาข้าวผิดประเภทมาใส่ ลั่นเล่นงานทั้งทางแพ่ง อาญา และวินัย
ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นหลายชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ อคส. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการแทรกแซงราคามันสำปะหลัง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านหรือไม่ หากพบว่า มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตจริง จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เพื่อเอาผิดทางวินัย ซึ่งจะมีตั้งแต่การตักเตือน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน จนถึงขั้นให้ออกและไล่ออก รวมถึงยังต้องมีความผิดทางอาญา และแพ่งด้วย
สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เกิดขึ้นหลังจากที่ อคส.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมันเส้นในสต๊อกของรัฐบาล ที่ได้จากโครงการแทรกแซงตั้งแต่ปี 2551/52 เป็นต้นมา และพบว่า มี 14 คลังสินค้าในหลายจังหวัดที่รัฐเช่าฝากเก็บมีมันเส้นสูญหายมากกว่า 10% ของปริมาณที่ฝากเก็บ โดยบางคลังได้นำเอานั่งร้านมาใส่ตรงกลางแล้วเอากองกระสอบมันเส้นมาปังไว้ เพื่อให้ดูเหมือนว่ามีกระสอบมันเส้นวางอยู่จริง รวมถึงยังมีการปลอมปนแกลบ ซึ่ง อคส.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของคลังสินค้าไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมการอีก 1 ชุด เพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ อคส. มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการปลอมปนมันเส้นกับแกลบ ที่ตรวจสอบพบเมื่อเร็วๆ นี้ ในคลังสินค้าที่ จ.อุบลราชธานีหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ อคส.เช่าเพื่อฝากเก็บมันเส้นกว่า 10,000 ตัน แต่พบว่ามีแกลบปลอมปนมากกว่า 9,700 ตัน มีมันเส้นจริงเก็บอยู่เพียง 263 ตัน ซึ่ง อคส.ได้แจ้งความดำเนินคดีเจ้าของคลังสินค้าแล้ว ขณะเดียวกัน อคส. ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการทุจริตในคลังสินค้าที่เช่าฝากเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำจำนวน 7 คลังสินค้า เพราะพบว่า มีการนำข้าวผิดชนิดมาฝากเก็บแทน
สำหรับมันเส้นในสต๊อกรัฐบาล จากโครงการแทรกแซงราคาตั้งแต่ปี 2551/52 เหลืออยู่อีกประมาณ 31,400 ตัน และเสื่อมสภาพไปมากแล้วนั้น คาดว่า ในอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาการประมูล เพื่อนำไปทำเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเบื้องต้น คณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.ได้เจรจากับโรงไฟฟ้าจ.กระบี่ให้ช่วยรับซื้อแล้ว.
ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นหลายชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ อคส. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการแทรกแซงราคามันสำปะหลัง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านหรือไม่ หากพบว่า มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตจริง จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เพื่อเอาผิดทางวินัย ซึ่งจะมีตั้งแต่การตักเตือน ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน จนถึงขั้นให้ออกและไล่ออก รวมถึงยังต้องมีความผิดทางอาญา และแพ่งด้วย
สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เกิดขึ้นหลังจากที่ อคส.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมันเส้นในสต๊อกของรัฐบาล ที่ได้จากโครงการแทรกแซงตั้งแต่ปี 2551/52 เป็นต้นมา และพบว่า มี 14 คลังสินค้าในหลายจังหวัดที่รัฐเช่าฝากเก็บมีมันเส้นสูญหายมากกว่า 10% ของปริมาณที่ฝากเก็บ โดยบางคลังได้นำเอานั่งร้านมาใส่ตรงกลางแล้วเอากองกระสอบมันเส้นมาปังไว้ เพื่อให้ดูเหมือนว่ามีกระสอบมันเส้นวางอยู่จริง รวมถึงยังมีการปลอมปนแกลบ ซึ่ง อคส.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของคลังสินค้าไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมการอีก 1 ชุด เพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ อคส. มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการปลอมปนมันเส้นกับแกลบ ที่ตรวจสอบพบเมื่อเร็วๆ นี้ ในคลังสินค้าที่ จ.อุบลราชธานีหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ อคส.เช่าเพื่อฝากเก็บมันเส้นกว่า 10,000 ตัน แต่พบว่ามีแกลบปลอมปนมากกว่า 9,700 ตัน มีมันเส้นจริงเก็บอยู่เพียง 263 ตัน ซึ่ง อคส.ได้แจ้งความดำเนินคดีเจ้าของคลังสินค้าแล้ว ขณะเดียวกัน อคส. ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการทุจริตในคลังสินค้าที่เช่าฝากเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำจำนวน 7 คลังสินค้า เพราะพบว่า มีการนำข้าวผิดชนิดมาฝากเก็บแทน
สำหรับมันเส้นในสต๊อกรัฐบาล จากโครงการแทรกแซงราคาตั้งแต่ปี 2551/52 เหลืออยู่อีกประมาณ 31,400 ตัน และเสื่อมสภาพไปมากแล้วนั้น คาดว่า ในอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาการประมูล เพื่อนำไปทำเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งเบื้องต้น คณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.ได้เจรจากับโรงไฟฟ้าจ.กระบี่ให้ช่วยรับซื้อแล้ว.
