จากกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เรียกกลุ่มผู้สื่อข่าวประจำจ.ขอนแก่น ทั้งจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มติชน ไทยทีวีสีช่อง 3 เนชั่นทีวี และเคเคซี เคเบิลทีวี ที่ไปรอสัมภาษณ์ประเด็นภาพข่าวการแต่งงานกับนักเรียนสาว ชั้น ม.5 จนมีการแชร์ภาพในโลกโซเชียลให้เข้าไปพบในห้องทำงาน แต่กลับสั่งลูกน้องจับนักข่าวแก้ผ้าจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว จนถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจอยู่ในขณะนี้
นายวัฒนาวุฒิ หอวิจิตร ส.ท.บ้านไผ่ เขต 1 เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องราวจนเป็นข่าวใหญ่โต แต่เป็นเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของชาวบ้านไผ่ กรณีภาพคล้ายพิธีแต่งงาน ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กับเด็กสาวนักเรียน ม. 5 ทั้งที่เป็นผู้นำชุมชนตำแหน่งสูงสุด และเป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษา และ กรณีหมอเปรมศักดิ์ จับนักข่าวแก้ผ้า จนกระทั่งปัจจุบันชาวบ้านไผ่ และประชาชนทั่วประเทศยังไม่ได้รับการชี้แจงความจริงจากปากหมอเปรมศักดิ์ มีเพียงการพูดเบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้น
ดังนั้นในวันที่ 9 ส.ค.นี้ ตนกับสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ประมาณ 10 คน จากทั้งหมดมี 17 คน จะร่วมกันแต่งชุดดำ เพื่อไว้อาลัยให้เทศบาลเมืองบ้านไผ่ และไว้อาลัยให้แก่การกระทำของหมอเปรม ที่เสื่อมเสียภาพลักษณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งจะนำเรื่องภาพการแต่งงาน และการจับนักข่าวแก้ผ้า เข้าสู่วาระในการประชุมสภาครั้งนี้ด้วย ซึ่งอาจจะมีการซักถาม หมอเปรมศักดิ์ ว่าเป็นการกระทำผิดศีลธรรม จริยธรรม และใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่
ทั้งนี้ ในวันประชุมจะขอให้เทศบาลออกอากาศสดเสียงตามสายบรรยากาศการประชุม เพื่อให้ประชาชนชาวเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้รับทราบด้วย แต่ไม่ทราบว่า นายกเทศมนตรีจะยอมให้ออกเสียงตามสายหรือไม่
นายวัฒนาวุฒิ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนในฐานะคนคุ้นเคยกัน เนื่องจากมีเพื่อนเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ รวมทั้งส.ท.หลายคน เคยเตือนหมอเปรม ศักดิ์ หลายครั้งแล้วว่าอย่าใช้อำนาจที่มีอยู่เกินขอบเขต และลุแก่อำนาจ เพราะขณะนี้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ทำงานลำบาก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้ เพราะเกรงกลัวอิทธิพล โดยเฉพาะเรื่องการตั้งกองทุน“ชาวบ้านไผ่ไม่ทิ้งกัน”ซึ่งตนเห็นว่า เป็นกองทุนเถื่อนที่หมอเปรมศักดิ์ ตั้งขึ้นมาเพื่อหาเงินใช้ส่วนตัว
สำหรับสาเหตุที่บอกว่า เป็นกองทุนเถื่อนนั้น เนื่องจากเทศบาลเป็นองค์กร จะไม่สามารถตั้งกองทุนขึ้นมาได้ และเทศบาล ก็มีกองสวัสดิการอยู่แล้ว อีกทั้งเงินรายได้ทั้งหมดที่หมอเปรมศักดิ์ จัดคอนเสิร์ต ขายบัตรขึ้นทุกปีไม่เคยนำมาชี้แจงรายได้ รายจ่าย รวมถึงจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ซึ่งทราบจากเพื่อนที่เป็นรองนายกฯ เพียงว่า เงินในกองทุนขณะนี้มีอยู่ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งถูกเบิกนำไปใช้แล้วประมาณ 30,000 บาท แต่ไม่ทราบว่านำใช้จ่ายอะไร หรือไปช่วยใคร ซึ่ง ส.ท.หลายคน เคยสอบถามในการประชุมสภาแล้ว ก็ไม่ได้รับคำตอบ ที่สำคัญหากหมอเปรมศักดิ์ หมดวาระที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ เงินในกองทุนทั้งหมด จะไม่ตกเป็นของแผ่นดิน หรือเป็นของราชการ แต่จะตกเป็นของคนที่ตั้งกอทุน
ดังนั้นในฐานะที่ตนเป็น ส.ท. รวมทั้งพี่น้องประชาชนชาวบ้านไผ่ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้นสังกัด ทั้งสำนักงานท้องถิ่น จ.ขอนแก่น สำนักงาน ป.ป.ช. และ สตง.เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่าเป็นเรื่องที่ผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎระเบียบทันที
ด้านนายวัลลภ วัฒนาคมประทีป ชาวชุมชนศาลเจ้าเทศบาลเมืองบ้านไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านมึนงงไปหมด เนื่องจากหลังเกิดเรื่อง ทั้งเรื่องภาพคล้ายงานแต่งหมอเปรมศักดิ์ กับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 และการจับนักข่าวแก้ผ้า ยังไม่เคยได้ยินหมอเปรมศักดิ์ พูดถึง และอธิบายชี้แจงให้ความจริงกระจ่าง มีแต่ปฏิเสธ อีกทั้งยังประกาศออกเสียงตามสาย ด่าชาวบ้านที่ให้ข้อมูลไปต่างๆ นานา ตลอดจนการออกเสียงตามสายแก้ข่าวบิดเบือนข้อมูลว่า ถูกนักข่าวกลั่นแกล้ง และเป็นเกมการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการใช้สื่อของราชการไปในทางส่วนตัว แทนที่จะประกาศข่าวเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ดังนั้น จึงอยากให้หมอเปรมศักดิ์ ยอมรับความจริง และแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งโดยเร็ว เพราะชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่าย และไม่นับถือแล้ว
นายวัฒนาวุฒิ หอวิจิตร ส.ท.บ้านไผ่ เขต 1 เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องราวจนเป็นข่าวใหญ่โต แต่เป็นเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของชาวบ้านไผ่ กรณีภาพคล้ายพิธีแต่งงาน ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กับเด็กสาวนักเรียน ม. 5 ทั้งที่เป็นผู้นำชุมชนตำแหน่งสูงสุด และเป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษา และ กรณีหมอเปรมศักดิ์ จับนักข่าวแก้ผ้า จนกระทั่งปัจจุบันชาวบ้านไผ่ และประชาชนทั่วประเทศยังไม่ได้รับการชี้แจงความจริงจากปากหมอเปรมศักดิ์ มีเพียงการพูดเบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้น
ดังนั้นในวันที่ 9 ส.ค.นี้ ตนกับสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ประมาณ 10 คน จากทั้งหมดมี 17 คน จะร่วมกันแต่งชุดดำ เพื่อไว้อาลัยให้เทศบาลเมืองบ้านไผ่ และไว้อาลัยให้แก่การกระทำของหมอเปรม ที่เสื่อมเสียภาพลักษณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งจะนำเรื่องภาพการแต่งงาน และการจับนักข่าวแก้ผ้า เข้าสู่วาระในการประชุมสภาครั้งนี้ด้วย ซึ่งอาจจะมีการซักถาม หมอเปรมศักดิ์ ว่าเป็นการกระทำผิดศีลธรรม จริยธรรม และใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่
ทั้งนี้ ในวันประชุมจะขอให้เทศบาลออกอากาศสดเสียงตามสายบรรยากาศการประชุม เพื่อให้ประชาชนชาวเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้รับทราบด้วย แต่ไม่ทราบว่า นายกเทศมนตรีจะยอมให้ออกเสียงตามสายหรือไม่
นายวัฒนาวุฒิ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนในฐานะคนคุ้นเคยกัน เนื่องจากมีเพื่อนเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ รวมทั้งส.ท.หลายคน เคยเตือนหมอเปรม ศักดิ์ หลายครั้งแล้วว่าอย่าใช้อำนาจที่มีอยู่เกินขอบเขต และลุแก่อำนาจ เพราะขณะนี้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ทำงานลำบาก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้ เพราะเกรงกลัวอิทธิพล โดยเฉพาะเรื่องการตั้งกองทุน“ชาวบ้านไผ่ไม่ทิ้งกัน”ซึ่งตนเห็นว่า เป็นกองทุนเถื่อนที่หมอเปรมศักดิ์ ตั้งขึ้นมาเพื่อหาเงินใช้ส่วนตัว
สำหรับสาเหตุที่บอกว่า เป็นกองทุนเถื่อนนั้น เนื่องจากเทศบาลเป็นองค์กร จะไม่สามารถตั้งกองทุนขึ้นมาได้ และเทศบาล ก็มีกองสวัสดิการอยู่แล้ว อีกทั้งเงินรายได้ทั้งหมดที่หมอเปรมศักดิ์ จัดคอนเสิร์ต ขายบัตรขึ้นทุกปีไม่เคยนำมาชี้แจงรายได้ รายจ่าย รวมถึงจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ซึ่งทราบจากเพื่อนที่เป็นรองนายกฯ เพียงว่า เงินในกองทุนขณะนี้มีอยู่ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งถูกเบิกนำไปใช้แล้วประมาณ 30,000 บาท แต่ไม่ทราบว่านำใช้จ่ายอะไร หรือไปช่วยใคร ซึ่ง ส.ท.หลายคน เคยสอบถามในการประชุมสภาแล้ว ก็ไม่ได้รับคำตอบ ที่สำคัญหากหมอเปรมศักดิ์ หมดวาระที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ เงินในกองทุนทั้งหมด จะไม่ตกเป็นของแผ่นดิน หรือเป็นของราชการ แต่จะตกเป็นของคนที่ตั้งกอทุน
ดังนั้นในฐานะที่ตนเป็น ส.ท. รวมทั้งพี่น้องประชาชนชาวบ้านไผ่ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้นสังกัด ทั้งสำนักงานท้องถิ่น จ.ขอนแก่น สำนักงาน ป.ป.ช. และ สตง.เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่าเป็นเรื่องที่ผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎระเบียบทันที
ด้านนายวัลลภ วัฒนาคมประทีป ชาวชุมชนศาลเจ้าเทศบาลเมืองบ้านไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านมึนงงไปหมด เนื่องจากหลังเกิดเรื่อง ทั้งเรื่องภาพคล้ายงานแต่งหมอเปรมศักดิ์ กับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 และการจับนักข่าวแก้ผ้า ยังไม่เคยได้ยินหมอเปรมศักดิ์ พูดถึง และอธิบายชี้แจงให้ความจริงกระจ่าง มีแต่ปฏิเสธ อีกทั้งยังประกาศออกเสียงตามสาย ด่าชาวบ้านที่ให้ข้อมูลไปต่างๆ นานา ตลอดจนการออกเสียงตามสายแก้ข่าวบิดเบือนข้อมูลว่า ถูกนักข่าวกลั่นแกล้ง และเป็นเกมการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการใช้สื่อของราชการไปในทางส่วนตัว แทนที่จะประกาศข่าวเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ดังนั้น จึงอยากให้หมอเปรมศักดิ์ ยอมรับความจริง และแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งโดยเร็ว เพราะชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่าย และไม่นับถือแล้ว