ขอนแก่น-สท.เทศบาลเมืองบ้านไผ่ แฉซ้ำ “หมอเปรม” ตั้งกองทุนเถื่อน “ชาวบ้านไผ่ไม่ทิ้งกัน” แต่รายได้ไม่เคยชี้แจง หรือนำไปช่วยเหลือใคร หวั่นนำไปใช้ส่วนตัว เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ เผยเตรียมนำประเด็นภาพฉาวแต่งงาน และการจับนักข่าวแก้ผ้าเข้าสู่วาระประชุมสภา 9 ส.ค.นี้ เพื่อให้เจ้าตัวชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมนัด ส.ท.แต่งชุดดำไว้อาลัยเหตุทำบ้านไผ่เสื่อมเสียชื่อเสียง
จากกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เรียกกลุ่มผู้สื่อข่าวประจำ จ.ขอนแก่น ทั้งจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มติชน ไทยทีวีสีช่อง 3 เนชั่นทีวี และเคเคซี เคเบิลทีวี ที่ไปรอสัมภาษณ์ประเด็นภาพข่าวการแต่งงานกับนักเรียนสาวชั้น ม.5 จนมีการแชร์ภาพในโลกโซเชียลให้เข้าไปพบในห้องทำงาน แต่กลับสั่งลูกน้องจับนักข่าวแก้ผ้าจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว จนถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจอยู่ในขณะนี้
นายวัฒนาวุฒิ หอวิจิตร ส.ท.บ้านไผ่ เขต 1 เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องราวจนเป็นข่าวใหญ่โต แต่เป็นเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของชาวบ้านไผ่ กรณีภาพคล้ายพิธีแต่งงาน ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ กับเด็กสาวนักเรียน ม.5 ทั้งที่เป็นผู้นำชุมชนตำแหน่งสูงสุด และเป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษา และกรณีหมอเปรม จับนักข่าวแก้ผ้า จนกระทั่งปัจจุบันชาวบ้านไผ่ และประชาชนทั่วประเทศยังไม่ได้รับการชี้แจงความจริงจากปากหมอเปรม มีเพียงการพูดเบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้น
ดังนั้น ในวันที่ 9 ส.ค.นี้ ตนกับสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ประมาณ 10 คน จากทั้งหมดมี 17 คน จะร่วมกันแต่งชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้เทศบาลเมืองบ้านไผ่ และไว้อาลัยให้แก่การกระทำของหมอเปรม ที่เสื่อมเสียภาพลักษณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งจะนำเรื่องภาพการแต่งงาน และการจับนักข่าวแก้ผ้าเข้าสู่วาระในการประชุมสภาครั้งนี้ด้วย ซึ่งอาจจะมีการซักถาม หมอเปรม ว่าเป็นการกระทำผิดศีลธรรม จริยธรรม และใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่
โดยในวันประชุมจะขอให้เทศบาลออกอากาศสดเสียงตามสายบรรยากาศการประชุม เพื่อให้ประชาชนชาวเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ได้รับทราบด้วย แต่ไม่ทราบว่านายกเทศมนตรีจะยอมให้ออกเสียงตามสายหรือไม่
นายวัฒนาวุฒิ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนในฐานะคนคุ้นเคยกันเนื่องจากมีเพื่อนเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ รวมทั้ง ส.ท.หลายคนเคยเตือนหมอเปรม หลายครั้งแล้วว่าอย่าใช้อำนาจที่มีอยู่เกินขอบเขต และลุแก่อำนาจ เพราะขณะนี้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ทำงานลำบาก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้ เพราะเกรงกลัวอิทธิพล โดยเฉพาะเรื่องการตั้งกองทุน “ชาวบ้านไผ่ไม่ทิ้งกัน” ซึ่งตนเห็นว่าเป็นกองทุนเถื่อนที่หมอเปรม ตั้งขึ้นมาเพื่อหาเงินใช้ส่วนตัว
สำหรับสาเหตุที่บอกว่า เป็นกองทุนเถื่อนนั้น เนื่องจากเทศบาลเป็นองค์กร จะไม่สามารถตั้งกองทุนขึ้นมาได้ และเทศบาลก็มีกองสวัสดิการอยู่แล้ว อีกทั้งเงินรายได้ทั้งหมดที่หมอเปรม จัดคอนเสิร์ตขายบัตรขึ้นทุกปีไม่เคยนำมาชี้แจงรายได้ รายจ่าย รวมถึงจำนวนเงินที่เหลืออยู่ ซึ่งทราบจากเพื่อนที่เป็นรองนายกฯ เพียงว่า เงินในกองทุนขณะนี้มีอยู่ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งถูกเบิกนำไปใช้แล้วประมาณ 30,000 บาท
แต่ไม่ทราบว่านำใช้จ่ายอะไร หรือไปช่วยใคร ซึ่ง ส.ท.หลายคนเคยสอบถามในการประชุมสภาแล้วก็ไม่ได้รับคำตอบ
ที่สำคัญหากหมอเปรม หมดวาระที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ เงินในกองทุนทั้งหมดจะไม่ตกเป็นของแผ่นดิน หรือเป็นของราชการ แต่จะตกเป็นของคนที่ตั้งกอทุน
ดังนั้น ในฐานะที่ตนเป็น ส.ท.รวมทั้งพี่น้องประชาชนชาวบ้านไผ่ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้นสังกัด ทั้งสำนักงานท้องถิ่น จ.ขอนแก่น สำนักงาน ป.ป.ช. และ สตง.เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่าเป็นเรื่องที่ผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎระเบียบทันที
ด้าน นายวัลลภ วัฒนาคมประทีป ชาวชุมชนศาลเจ้าเทศบาลเมืองบ้านไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านมึนงงไปหมด เนื่องจากหลังเกิดเรื่องทั้งเรื่องภาพคล้ายงานแต่งหมอเปรม กับเด็กนักเรียนชั้นม.5 และการจับนักข่าวแก้ผ้า ยังไม่เคยได้ยินหมอเปรม พูดถึง และอธิบายชี้แจงให้ความจริงกระจ่าง มีแต่ปฏิเสธ อีกทั้งยังประกาศออกเสียงตามสายด่าชาวบ้านที่ให้ข้อมูลไปต่างๆ นานา ตลอดจนการออกเสียงตามสายแก้ข่าวบิดเบือนข้อมูลว่าถูกนักข่าวกลั่นแกล้ง และเป็นเกมการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
เพราะเป็นการใช้สื่อของราชการไปในทางส่วนตัว แทนที่จะประกาศข่าวเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้น จึงอยากให้หมอเปรม ยอมรับความจริง และแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งโดยเร็ว เพราะชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่าย และไม่นับถือแล้ว