ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สอบ “หมอเปรม” กว่า 3 ชั่วโมง เจ้าตัวเผยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งความกลับนักข่าว 3 ข้อหา ทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว-บังคับข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างอื่นอย่างใด และทำให้ตกใจกลัว ด้านผู้สื่อข่าวคู่กรณีอึ้งหมอเปรมกล้าฟ้องกลับ ยันต่อสู้ให้ถึงที่สุด
วันนี้ (1 ส.ค. 59) ที่ สภ.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังจากที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ หลังตำรวจได้ขอหมายศาลจังหวัดพล เพื่อออกหมายเรียก นพ.เปรมศักดิ์เข้าให้ปากคำหลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหากักขังหน่วงเหนี่ยว และบังคับขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างอื่นอย่างใด โดยมี พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อม พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ และพนักงานสอบสวนอยู่ภายในห้อง
ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง นพ.เปรมศักดิ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งแจ้งความกลับผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สื่อที่อยู่ในที่เกิดเหตุ 3 ข้อหา คือกักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างอื่นอย่างใด และทำให้ตกใจกลัว เมื่อ นพ.เปรมศักดิ์ออกมาจากห้องก็กล่าวแต่เพียงว่ามาตามหน้าที่ และแจ้งความกลับข้อหาเดียวกัน นักข่าวถามว่าข้อหาที่แจ้งไว้ตอนแรกแพ้คดีไปแล้วใช่หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ก็โต้ตอบทันทีว่า ใครว่าแพ้ ไม่มี แล้วก็ขึ้นรถกลับทันที
ด้าน พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ในทางคดีนั้นพนักงานสอบสวนได้สอบพยานฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์อีก 2 ปาก รวมทั้งหมดเป็น 5 ปาก จากทั้งหมดมี 7 ปาก ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดย นพ.เปรมศักดิ์ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนที่เข้าไปในห้องทำงานวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ว่ากักขังหน่วงเหนี่ยว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวที่ถูกแจ้งความกลับทั้ง 5 สำนักเปิดเผยว่า เมื่อทราบว่า นพ.เปรมศักดิ์แจ้งความกลับใน 3 ข้อหาดังกล่าวก็รู้สึกงงว่าทำไมถึงกล้าแจ้งความกลับทั้งที่ตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ โดยผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนัก ที่ถูกแจ้งความยืนยันว่าจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และมั่นใจในความยุติธรรมของกฎหมาย
