ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ปกครอง นร.โรงเรียนบ้านไผ่ บุกศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น จี้กระทรวงมหาดไทย มูลนิธิปวีณา และกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบความจริง “หมอเปรม” แต่งงานเด็กสาว ม.5 พร้อมปลดพ้นทุกเก้าอี้ ด้านตัวแทนฝ่ายความมั่นคงชี้แม้พ่อแม่เด็กยินยอมให้แต่ง แต่หากฝ่ายชายมีเมียแล้วเป็นเรื่องไม่สมควร ขัดจริยธรรมอันดีของไทย ด้าน 5 นักข่าว เข้าชี้ตัวและแจ้งความลูกน้อง "พี่หมอ" ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์
วานนี้ (9 ส.ค. ) เวลาประมาณ 10.30 น. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น คณะผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 ประมาณ 50 คน นำโดยนางสุจินดา ชำนาญไพร อายุ 70 ปี เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ มีพฤติกรรมฉันชู้สาวกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 โดยมี น.ส.สุรางรัตน์ ช่วยวงศ์ญาติ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี บก.ควบคุม มทบ.23 และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
นางสุจินดา ชำนาญไพร ตัวแทนคณะผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและองค์กรที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือผู้ปกครองและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 ทั้งที่ นพ.เปรมศักดิ์เป็นประธานกรรมการสถานศึกษาแห่งนี้อยู่
ทั้งนี้ ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต่อองค์กรสตรี เด็ก และเยาวชน ทั้งมูลนิธิปวีณา หงสกุล สมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ที่มีนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เป็นนายกสมาคมฯ ออกมาตรวจสอบพฤติกรรมของน.พ.เปรมศักดิ์ ให้กำลังใจช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงการปกป้องสถาบันครอบครัวของเหยื่อด้วย
พร้อมกันนี้ได้ขอให้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่นายแพทย์ เปรมศักดิ์สังกัด เป็นผู้บริหารท้องถิ่นคือนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ของน.พ.เปรมศักดิ์ ไว้ก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และให้กระทรวงยุติธรรมปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งนี้ หากนายแพทย์ เปรมศักดิ์ทำผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ด้าน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี บก.ควบคุม มทบ.23 ในฐานะตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อกลุ่มผู้ปกครองฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามา ศูนย์ดำรงธรรมจะรับไปดำเนินการตามขั้นตอน ในส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น คณะกรรมการฯ ระดับจังหวัดได้เร่งตรวจสอบอยู่ คาดว่าในวันที่ 10 ส.ค.นี้น่าจะได้คำตอบ ขณะที่ในทางคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการว่ากันตามพยาน หลักฐาน ไม่มีล้วงการทำงานของทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจ
สำหรับกรณีภาพที่ปรากฎ นพ.เปรมศักดิ์นั่งคู่กับเด็กนักเรียนหญิงคล้ายพิธีแต่งงาน นั้น พ.ท.พิทักษ์พล กล่าวว่า หากเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี พ่อแม่อนุโลมเห็นชอบก็สามารถแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันได้ อย่างไรก็ตามต้องดูเรื่องของจริยธรรม วัฒนธรรมไทยที่ดีงามอยู่แล้ว ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้วหรือไม่ หากมีแล้วก็เป็นเรื่องไม่สมควร การจดทะเบียนสมรสซ้อนตามกฎหมายทำไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักในจ.ขอนแก่น ประกอบด้วยผู้สื่อข่าวช่อง 3, เนชั่นทีวี, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, หนังสือพิมพ์ข่าวสด, และเคเบิ้ลท้องถิ่น เคเคซี ที่ถูกน.พ.เปรมศักดิ์ คุกคาม กักขังหน่วงเหนี่ยว และถอดกางเกงผู้สื่อข่าวอาวุโสของสำนักข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ประจำจังหวัดขอนแก่น จนเหลือแต่กางเกงใน เหตุเพราะขอเข้า ทำข่าวกรณีที่มีภาพฉาว หมอเปรมแต่งงานกับลูกศิษย์ตัวเอง
โดยผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนัก ได้เข้าพบพ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ เพื่อชี้ภาพยืนยัน เจ้าหน้าที่พนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมทั้งแจ้งความในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่น กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของผู้ถูกข่มขืนใจ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และร่างกายกระทำให้ผู้อื่น เกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ
พ.ต.อ.จำรัส เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของคดี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบพยานไปแล้วหลายปากมากกว่า 10 คน ซึ่งจะสอบให้ได้มากที่สุด ส่วนหลักฐานฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน กองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด
วานนี้ (9 ส.ค. ) เวลาประมาณ 10.30 น. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น คณะผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 ประมาณ 50 คน นำโดยนางสุจินดา ชำนาญไพร อายุ 70 ปี เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ มีพฤติกรรมฉันชู้สาวกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 โดยมี น.ส.สุรางรัตน์ ช่วยวงศ์ญาติ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี บก.ควบคุม มทบ.23 และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
นางสุจินดา ชำนาญไพร ตัวแทนคณะผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและองค์กรที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และช่วยเหลือผู้ปกครองและเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 ทั้งที่ นพ.เปรมศักดิ์เป็นประธานกรรมการสถานศึกษาแห่งนี้อยู่
ทั้งนี้ ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต่อองค์กรสตรี เด็ก และเยาวชน ทั้งมูลนิธิปวีณา หงสกุล สมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ที่มีนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เป็นนายกสมาคมฯ ออกมาตรวจสอบพฤติกรรมของน.พ.เปรมศักดิ์ ให้กำลังใจช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงการปกป้องสถาบันครอบครัวของเหยื่อด้วย
พร้อมกันนี้ได้ขอให้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่นายแพทย์ เปรมศักดิ์สังกัด เป็นผู้บริหารท้องถิ่นคือนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ของน.พ.เปรมศักดิ์ ไว้ก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย และให้กระทรวงยุติธรรมปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งนี้ หากนายแพทย์ เปรมศักดิ์ทำผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ด้าน พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี บก.ควบคุม มทบ.23 ในฐานะตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อกลุ่มผู้ปกครองฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามา ศูนย์ดำรงธรรมจะรับไปดำเนินการตามขั้นตอน ในส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น คณะกรรมการฯ ระดับจังหวัดได้เร่งตรวจสอบอยู่ คาดว่าในวันที่ 10 ส.ค.นี้น่าจะได้คำตอบ ขณะที่ในทางคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการว่ากันตามพยาน หลักฐาน ไม่มีล้วงการทำงานของทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจ
สำหรับกรณีภาพที่ปรากฎ นพ.เปรมศักดิ์นั่งคู่กับเด็กนักเรียนหญิงคล้ายพิธีแต่งงาน นั้น พ.ท.พิทักษ์พล กล่าวว่า หากเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี พ่อแม่อนุโลมเห็นชอบก็สามารถแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันได้ อย่างไรก็ตามต้องดูเรื่องของจริยธรรม วัฒนธรรมไทยที่ดีงามอยู่แล้ว ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้วหรือไม่ หากมีแล้วก็เป็นเรื่องไม่สมควร การจดทะเบียนสมรสซ้อนตามกฎหมายทำไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักในจ.ขอนแก่น ประกอบด้วยผู้สื่อข่าวช่อง 3, เนชั่นทีวี, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, หนังสือพิมพ์ข่าวสด, และเคเบิ้ลท้องถิ่น เคเคซี ที่ถูกน.พ.เปรมศักดิ์ คุกคาม กักขังหน่วงเหนี่ยว และถอดกางเกงผู้สื่อข่าวอาวุโสของสำนักข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ประจำจังหวัดขอนแก่น จนเหลือแต่กางเกงใน เหตุเพราะขอเข้า ทำข่าวกรณีที่มีภาพฉาว หมอเปรมแต่งงานกับลูกศิษย์ตัวเอง
โดยผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนัก ได้เข้าพบพ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ เพื่อชี้ภาพยืนยัน เจ้าหน้าที่พนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมทั้งแจ้งความในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่น กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของผู้ถูกข่มขืนใจ และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และร่างกายกระทำให้ผู้อื่น เกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ
พ.ต.อ.จำรัส เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของคดี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบพยานไปแล้วหลายปากมากกว่า 10 คน ซึ่งจะสอบให้ได้มากที่สุด ส่วนหลักฐานฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน กองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด
