ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
ท่าทีล่าสุดของ เมธีธรรมาจารย์หรือเจ้าคุณประสาร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยยังห้าวเหมือนเดิม โดยยืนยันจะระดมพระในเครือข่ายออกมาเคลื่อนไหวปกป้อง “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์หรือสมเด็จช่วง”
เครือข่ายชายโกนหัวห่มเหลืองในความหมายของเมธีธรรมจารย์หมายถึงพระในสายธรรมกาย สายสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ สายพระครูปลัดสิทธิวัฒน์หรือหลวงพี่น้ำฝน และพระเสื้อแดงทั้งหลาย
เมธีธรรมาจารย์เคยปฏิบัติการปลุกระดม นำม็อบพระมาชุมนุมที่พุทธมณฑลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเคยประกาศขู่จะนำม็อบพระออกมาอีก แต่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตวาด จนถอยหลับเข้าวัดไปถึง 2 ครั้ง 2 ครา
คราวนี้ประกาศจะขนคนโล้นห่มเหลืองเครือข่ายพระเสื้อแดงออกมาอีก โดยอ้างว่าพระถูกย่ำยี ถูกต้อนจนมุมและมีขบวนการโยนผิดให้พระ เพื่อปฏิรูปวงการสงฆ์
สงฆ์ที่อ้างว่าถูกย่ำยีและถูกต้อนให้จนมุมไม่ใช่ใครอื่น นอกจากสมเด็จช่วง ซึ่งเมธีธรรมาจารย์แหกปากตะโกนเชียร์ให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช และหลวงพี่น้ำฝน พระในเครือข่ายเดียวกันที่ฝักใฝ่ระบอบทักษิณ
สมเด็จช่วงและหลวงพี่น้ำฝนถูกตั้งข้อหาครอบครองรถหรูโบราณผิด กฎหมาย ซึ่งดีเอสไอต้องแจ้งข้อหาและหากไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จะถูกออกหมายจับ เช่นเดียวกับธัมมชโยแห่งวัดธรรมกาย
จะผิดไม่ผิด สองพระดังจะต้องต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แต่เมธีธรรมาจารย์กำลังอาศัยผ้าเหลือง ใช้ความเป็นพระเพื่ออยู่นอกกฎหมาย โดยจะระดมพระในเครือข่ายเพื่อสร้างกฎหมู่ต่อต้านรัฐบาล
พระในเครือข่ายสมเด็จช่วงหรือพระเครือข่ายเสื้อแดง ร่วงเป็นใบไม้ตามกรรมเวรมาอย่างต่อเนื่อง ธัมมชโยก็ไม่รู้มุดหัวหนีหมายจับอยู่ที่ไหน
สมเด็จช่วงคงหมดโอกาสเป็นสมเด็จพระสังฆราชแล้ว เพราะมีคดีรถหรู เช่นเดียวกับหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นพระกร่าง
ส่วนเมธีธรรมาจารย์เพิ่งถูกหลวงปู่พุทธอิสระแจ้งความ ฐานเป็นอังยี่หรือซ่องโจร หลังจากหลวงปู่พุทธอิสระปราบเจ้าคุณพิพิธหรือพระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามจนอยู่หมัด ยอมขออภัยและยอมจ่ายค่าเสียหาย 30,000 บาท และยอมเซ็นข้อตกลง จะไม่กล่าวร้ายหลวงปู่พุทธอิสระอีก
ตอนนี้ก็เหลือแต่ชะตากรรมของเมธีธรรมาจารย์ ซึ่งมีบทบาทเป็นหัวโจกพระเสื้อแดง และกลายเป็น “ตัวมาร” ที่ทำให้พุทธศาสนิกชนเสื่อศรัทธาในพระ
การปลุกระดมพระมาล้อมกรอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อช่วยสมเด็จช่วง พ่วงธัมมชโยและหลวงพี่น้ำฝน เป็นการประกาศศักดาครั้งล่าสุดของเมธีธรรมาจารย์ ซึ่งหลายคงหวังว่า จะไม่เป็นเพียงรายการหมาเห่าใบตองแห้ง หลายคนกลัวว่า จะเป็นเพียงแค่ลูกขู่เท่านั้น
เพราะอยากให้เมธีธรรมาจารย์ปลุกระดมชายโกนหัวห่มเหลืองออกมาชุมนุมชนกับรัฐบาลจริงๆ จะได้เข้าทางปืนทหาร ไม่ใช่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ตวาดแล้วหดหัวเหมืองครั้งก่อนๆ
คนที่อาศัยผ้าเหลืองเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำตัวเป็นลูกสมุนรับใช้นายทักษิณ ชินวัตร ถ้าปล่อยให้ลอยนวลต่อไป วงการสงฆ์จะยิ่งเสื่อมหนัก พุทธศาสนาจะถูกทำลาย จึงต้องกำจับเมธีธรรามจารย์ให้พ้นจากบทบาทองค์กรสงฆ์
พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ใช้ ม.44 จัดการกับพระนอกลู่นอกทาง และเมธีธรรมาจารย์ก็เป็นแค่พระไม่มีราคา
แต่ถ้าเมธีธรรมาจารย์ต้องการลองดี ห้าวจริงโดยปลุกระดมม็อบพระในเครือข่ายเสื้อแดงออกมาช่วงสมเด็จช่วง ถือว่าเมธีธรรมาจารย์เดินเข้าสู่ “กับดัก”ด้วยตัวเอง
เพราะงานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เลี้ยงไว้ให้เปลืองข้าวสุกญาติโยมแน่ แต่จะได้ทีหิ้วตัวไปจับสึกยัดเข้าคุกเสียเลย วงการสงฆ์ก็จะสูงขึ้น
และถือเป็นการล้างหัวโจกพระเครือข่ายเสื้อแดงที่ฝักใฝ่ระบอบทักษิณอีกราย
ทนายอลัชชีทั้งหลาย โดยเฉพาะทนายที่รับใช้ใกล้ตัวเมธีธรรมาจารย์ ต้องช่วยให้กำลังใจ ต้องช่วยแนะเมธีธรรมาจารย์หน่อย อย่าเพิ่งถอย ขอให้สู้จริง โดยเดินหน้าปลุกระดมม็อบพระต่อไป
และถึงเวลาต้องออกมาจริง นำขบวนคนห่มเหลืองมาช่วยสมเด็จช่วงตามที่ประกาศไว้ เพราะสมเด็จช่วงไม่เหลือใครแล้ว
มีแต่เมธีธรรมาจารย์เท่านั้นที่จะนำพระมาล้อมกรอบ พล.อ.ประยุทธ์ และประกาศใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ช่วยให้สมเด็จช่วยพ้นผิดจากคดีรถหรู
ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชเอาไว้ว่ากันทีหลัง ตอนนี้ช่วงสมเด็จช่วงให้หลุดคดีก็พอ เพราะสมเด็จช่วงก็อาจไม่แน่ใจในฐานมวลชนพระในเครือข่ายของเมธีธรรมาจารย์เหมือนกัน
ไม่มั่นใจว่าม็อบพระจะสยบรัฐบาลทหารได้
ช่วยกันลุ้นช่วยกันรอดูว่า เมธีธรรมาจารย์จะแน่จริงหรือไม่ เพราะคดีรถหรูงวดเข้ามาทุกที และตามรูปคดีแล้ว สมเด็จช่วงไม่รอดแน่
เมธีธรรมาจารย์จะภักดีสมเด็จช่วงจริงหรือไม่ จะเสี่ยงตายออกมาช่วงสมเด็จช่วงจริงหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์รออยู่