หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อแจ้งความเอาผิดเจ้าคุณประสาร หลังพระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ ศพศ. โพสต์เฟซบุ๊กให้พระสงฆ์เคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้เสนอชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นสมเด็จพระสังฆราช
โดย พระพุทธะอิสระกล่าวว่า การกระทำของเจ้าคุณประสาร อาจมีความผิดในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และชักชวนปลุกปั่นให้มีการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐ จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ส่งสัญญาณระดมคนและพระภิกษุสงฆ์ เตรียมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพื่อให้เร่งเสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกดดัน และท้าทายอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. อาจมีโทษรุนแรงถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต พร้อมทั้งขอเตือนพระสงฆ์และสามเณร อย่าตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่เคลื่อนไหวกดดันเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพราะแม้คณะสงฆ์จะเป็นสถาบันหนึ่ง แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ การที่เจ้าคุณประสาร อ้างว่ามีบุคคลที่กำลังจะทำลายพระพุทธศาสนา แท้จริงอาจเป็นตัวเจ้าคุณประสารเอง ที่เกาะกินธรรมวินัย ทำร้ายพระพุทธเจ้า พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่มีพระพุทธศาสนามากว่า 2,000 ปี ไม่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชมาก่อน
ขณะเดียวกันสมเด็จช่วงควรตอบคำถามสังคมด้วยว่า พระสงฆ์สมควรที่จะสะสมทรัพย์สมบัติหรือไม่
นอกจากนี้ พระพุทธอิสระ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้เดินทางไปมอบตัวกับอัยการในข้อหากบฏ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับพระภิกษุรูปอื่นที่กำลังมีคดีความด้วยว่า ถึงจะเป็นพระสงฆ์ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
โดย พระพุทธะอิสระกล่าวว่า การกระทำของเจ้าคุณประสาร อาจมีความผิดในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และชักชวนปลุกปั่นให้มีการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐ จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ส่งสัญญาณระดมคนและพระภิกษุสงฆ์ เตรียมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพื่อให้เร่งเสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกดดัน และท้าทายอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. อาจมีโทษรุนแรงถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต พร้อมทั้งขอเตือนพระสงฆ์และสามเณร อย่าตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่เคลื่อนไหวกดดันเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพราะแม้คณะสงฆ์จะเป็นสถาบันหนึ่ง แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ การที่เจ้าคุณประสาร อ้างว่ามีบุคคลที่กำลังจะทำลายพระพุทธศาสนา แท้จริงอาจเป็นตัวเจ้าคุณประสารเอง ที่เกาะกินธรรมวินัย ทำร้ายพระพุทธเจ้า พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่มีพระพุทธศาสนามากว่า 2,000 ปี ไม่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชมาก่อน
ขณะเดียวกันสมเด็จช่วงควรตอบคำถามสังคมด้วยว่า พระสงฆ์สมควรที่จะสะสมทรัพย์สมบัติหรือไม่
นอกจากนี้ พระพุทธอิสระ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้เดินทางไปมอบตัวกับอัยการในข้อหากบฏ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับพระภิกษุรูปอื่นที่กำลังมีคดีความด้วยว่า ถึงจะเป็นพระสงฆ์ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
