xs
xsm
sm
md
lg

“พระประสาร” นัดสุมหัวหนุน “สมเด็จช่วง” ม็อบแน่ทั้ง กทม.- ต่างจังหวัด อุบลับ 6 ประเด็นเคลื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) - ภาพจาพเฟซบุ๊ก พระเมธีธรรมาจารย์ - เจ้าคุณประสาร
“เจ้าคุณประสาร” เรียกประชุมเครือข่าย หลังดีเอสไอสรุป “สมเด็จช่วง” ผิดฐานครอบครองรถเบนซ์โบราณผิดกฎหมาย เผยมติเคลื่อนไหวแน่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อ้างเตรียมเคลื่อน 6 ประเด็น แต่ขอเก็บเป็นความลับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางปฏิบัติ และความปลอดภัยของสมาชิก

วันนี้ (23 ก.ค.) มีรายงานว่า กลุ่มองค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายกลุ่มผู้สนับสนุนการแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ได้นัดประชุมกันเพื่อหารือแนวทางการเคลื่อนไหว ภายหลังจากที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีข้อสรุปว่า สมเด็จช่วงมีความผิดฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตามความผิด พ.ร.บ. ศุลกากร มาตรา 27 กรณีการครอบครองรถเบนซ์โบราณ หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร และในวันเดียวกันในเฟซบุ๊ก พระเมธีธรรมาจารย์ - เจ้าคุณประสาร ของพระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) หรือ เจ้าคุณประสาร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้มีการโพสต์ข้อความผลการประชุมดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้

“ผลการประชุมขององค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ (ในช่วงภาวะวิกฤตของคณะสงฆ์ไทยเวลานี้)
การประชุมในวาระสำคัญในวันนี้ (23 กรกฎาคม 2559) ที่ประชุมได้กำหนดกรอบ แนวคิดและหลักปฏิบัติ ดังนี้
กรอบในการปรึกษาหารือภายหลัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้แถลงผลการสอบรถยนต์โบราณในพิพิธภัณฑ์ของวัดปากน้ำภาษีเจริญ ดังนี้

1. ท่าทีของแต่และฝ่าย ซึ่งกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อประเมิน สรุป และยืนยันถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย เช่น ภาครัฐ ผู้มีอำนาจ ฝ่ายคัดค้าน รวมทั้งมวลชนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบถึงจุดยืนที่ชัดเจนของแต่ละฝ่าย

2. สถานะที่แท้จริงของแต่ละฝ่าย ให้มีการวิเคราะห์ถึงสภาพภายในที่แท้จริงของทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวว่าแท้จริง พวกเขามีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน อย่างไร วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่อิงอาศัยและเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ในการดำเนินการของกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งยุทธศาสตร์ว่ามีอะไรบ้าง และเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร

3. ศักยภาพในการดำเนินการ ให้วิเคราะห์ให้ละเอียดว่า ภายในของแต่ละกลุ่มนั้น มีศักยภาพที่แท้จริงเป็นอย่างไร มีคนมากน้อยแค่ไหน เดินเกมอะไร อะไรคือฐานกำลังที่สนับสนุนให้ทำแบบนั้น และเหตุจูงใจในการเดินแต่ละครั้ง และอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่จะนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาให้ได้

4. ปัจจัยทางการเมือง กลุ่มต่าง ๆ มีเหตุปัจจัยอะไรที่เป็นเรื่องทางการเมืองหนุนหลัง ใครเป็นคนของใคร ใครเป็นม้ารับใช้ใคร เพื่อทำลายใคร มีผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างไร ทำลายใครแล้วใครได้ใครเสีย และพระสงฆ์ คณะสงฆ์ พระพุทธศาสนา ถูกนำไปเชื่อมโยงในเรื่องนี้ได้อย่างไร

5. ผลกระทบ วิเคราะห์ถึงผลกระทบของทุกภาคส่วนที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ว่าการกระทำทั้งหลายทั้งปวงนี้จะส่งผลกระทบต่อ คณะสงฆ์ พระพุทธศาสนาและประเทศชาติบ้านเมือง อย่างไร

6. ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว องค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ยืนยันว่า จะมีการเคลื่อนไหวทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด แน่นอน โดยให้มีการข่าวด้านลึกละเอียดรอบคอบ การรวบรวมข้อมูลให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความแม่นยำ ถูกต้อง การกำหนดยุทธศาสตร์ให้ไวและทันต่อเหตุการณ์ การดำเนินการและเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ

ในการนี้ องค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศได้มีมติในการเคลื่อนไหว 6 ข้อ

สำหรับมติสำคัญทั้ง 6 ข้อนั้น ให้ถือเป็นความลับ ห้ามเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาในทางปฏิบัติและเพื่อความปลอดภัยของมวลสมาชิกผู้นำไปปฏิบัติในทุกภาคส่วนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ


พระเมธีธรรมาจารย์
23 กรกฎาคม 2559”

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่า การเสนอชื่อสมเด็จช่วง ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช โดยที่ประชุมมหาเถรสมาคมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2535 เจ้าคุณประสารได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเสนอชื่อสมเด็จช่วงขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 7 วัน ไม่เช่นนั้น จะนำกลุ่มผู้สนับสนุนออกมาเคลื่อนไหว จน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมาปรามว่า หากออกมาเคลื่อนไหวก็จะจับกุมแน่นอน ทำให้เจ้าคุณประสาร มีท่าทีอ่อนลง และกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันนี้
สมเด็จช่วง และรถเบนซ์โบราณที่ครอบครองโดยผิดกฎหมาย
บรรยากาศการชุมนุมของพระสงฆ์ภายใต้การนำของเจ้าคุณประสาร เพื่อเรียกร้องให้มีการแต่งตั้งสมเด็จช่วงเป็นพระสังฆราช เมื่อวันที่ 15 ก.พ.59 ที่พุทธมณฑล

กำลังโหลดความคิดเห็น