xs
xsm
sm
md
lg

รอลุ้น “ม็อบประสาร” ชู “สมเด็จช่วง” ท้าทายอำนาจ คสช.-ประยุทธ์!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

แม้ว่า พระเมธีธรรมาจารย์ หรือที่เรียกกันว่า “เจ้าคุณประสาร” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่เป็นเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จะเสียงอ่อยลงมาบ้างหลังจากก่อนหน้านี้ได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียขีดเส้นภายใน 7 วันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องทูลเกล้าฯ ถวายเสนอนาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ “สมเด็จช่วง” ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่

แม้ในข้อความดังกล่าวจะไม่ได้ระบุชื่อสมเด็จช่วงโดยตรง แต่การบอกว่าให้เสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะเพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่ที่ผ่านมามติของมหาเถรสมาคมได้เสนอชื่อสมเด็จช่วงไปแล้ว แต่ถูกผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้มีการตีว่าขัดต่อมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ปี 2505 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2535 ซึ่งในเวลาต่อมาทางกฤษฎีกามีมติว่าไม่ขัด แต่ขณะเดียวกัน สมเด็จช่วงกำลังถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาครอบครองรถยนต์โดยมิชอบ และทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนกำลังสอบสวนอยู่ และต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ย้ำว่าจะยังไม่เสนอทูลเกล้าฯ ถวายนามสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ หากทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย

เจ้าคุณประสารอ้างว่าไม่ได้กดดันหรือข่มขู่ว่านำพระสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ทำตามข้อเรียกร้อง แต่ต้องการพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา

อย่างไรก็ดี คำพูดดังกล่าวของเจ้าคุณประสารก็เกิดขึ้นหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย้ำว่า “ใครออกมาก็จับหมด” หากนับจากวันที่คนทั้งสองพูดก็ยังไม่ครบกำหนด โดยเฉพาะครบกำหนด 7 วันตามที่ฝ่ายเจ้าคุณประสารจะนำพระสงฆ์ออกมาชุมนุม

นาทีนี้หลายคนอยากรู้อยากเห็นเหมือนกันว่าทั้งสองฝ่ายจะจริงจังแค่ไหน ฝ่ายที่อ้างว่าเป็นศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจะออกมาจริงหรือไม่หลังจากพิจารณาจาท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วไม่มีทางเสนอ สมเด็จช่วง ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่แน่นอน เนื่องจากยัง “ไม่เรียบร้อย” นั่นคือยังมีคดีอาญาติดตัวจากคดีครอบครองรถยนต์ผิดกฎหมาย การปลอมแปลงเอกสารการจดทะเบียนรถ คดียังค้างอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนาน หรือหากมีความชัดเจนไม่ถูดสั่งฟ้องแต่ก็ถือว่า “มัวหมอง” ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และในทางกลับกันสิ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คือ สมเด็จช่วงน่าจะถอนตัวจากการเสนอดังกล่าวด้วยซ้ำไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าท่านอยู่กิเลส ลาภยศ ไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องดังกล่าว

แต่สิ่งที่หลายคนกำลังจับตามองก็คือ หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์แล้วมันสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงถึงกันอย่างชัดเจน และกรณีดังกล่าวเป็นเรื่อง “การเมือง” ที่พัวพันกันทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาสที่เป็นฝ่ายการเมือง หากกล่าวตรงๆ ก็คือ เครือข่ายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย นปช.ธัมมชโย วัดพระธรรมกาย เจ้าคุณประสาร ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาอะไรนั่นและสมเด็จช่วง ล้วนเป็นพวกเดียวกัน มีความสอดคล้องกันมีการสนับสนุนเกื้อกูลกันมานาน และที่ผ่านมา เจ้าคุณประสารรูปนี้ก็เคยเคลื่อนไหวสนับสนุนทักษิณ ชินวัตร มาตลอด จะเรียกว่าเป็น “พระเสื้อแดง” ก็พูดแบบนั้นได้เลย

การที่เจ้าคุณประสารอ้างว่า “อย่าเล่นการเมืองกับสมเด็จช่วงเพราะท่านแก่แล้ว” นั้น ก็ต้องมาพิจารณากันว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่เล่นการเมือง โดยเจตนากดดันให้เสนอชื่อสมเด็จช่วงขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชโดยเร็ว

สิ่งที่ต้องพิจารณากันว่าหากครบ 7 วันแล้ว พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร นำม็อบพระสงฆ์ในสังกัดออกมาจริงจะเกิดอะไรขึ้น และในช่วงดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงเข้าพรรษาจะเกิดอะไรขึ้น และเป็นที่เหมาะสมหรือไม่ เชื่อว่าเป็นที่จับตามองแน่นอน โดยเฉพาะพิจารณาว่ามี “เจตนาซ่อนเร้น” อะไรกันแน่ ต้องการให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่

ดังนั้น เชื่อว่าหลายคนคงรอดูว่าเมื่อครบ 7 วันตามที่เจ้าคุณประสารประกาศเอาไว้ว่าเคลื่อนไหวนำพระสงฆ์ออกมากดดันให้เสนอทูลเกล้าฯ ถวายนามพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่หรือไม่ ขณะเดียวกันก็รอดูว่า หากออกมาจะ “จับหมด” ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เตืนเอาไว้แล้วหรือไม่ เพราะนั่นคือการรักษาบรรทัดฐานทางกฎหมาย ซึ่งกำลังถูกสังคมตั้งคำถามจากกรณีของธัมมชโย หรือแม้แต่กรณีของสมเด็จช่วงที่ถูกแจ้งข้อหาครอบครองรถยนต์ผิดกฎหมาย เพราะนี่คือการท้าทายอำนาจรัฐ!
กำลังโหลดความคิดเห็น