ชื่อของนายเสถียร วิพรมหา ถูกตีแผ่อีกครั้ง ในฐานะคนที่เป็นเจ้ากี้เจ้าการออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตข้าราชการให้นางวันทนีย์ หยกรัตนกาญหรือ “นางไก่” เมื่อปี 2557
นายเสถียรไม่ใช่คนเด่นคนดังที่สังคมทั่วไปจะรู้จักมักคุ้นเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงสายนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถ้าพูดถึงหัวโจกคนเสื้อแดง ถ้าพูดถึงม็อบสายพระแล้ว นายเสถียรเป็นระดับแกนนำคนหนึ่ง แม้จะเป็นแกนนำในชั้นปลายแถวก็ตาม
ความสัมพันธ์ระหว่างนายเสถียรกับนางไก่เกิดขึ้นอย่างไร ลึกซึ้งขนาดไหน เชื่อมโยงกันถึงขั้นใด ไม่เป็นที่เปิดเผย รู้กันแต่ว่า มีความเกี่ยวพันกันช่วงสั้นๆ ขณะที่นายเสถียรเป็นเลขานุการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
และเป็นธุระจัดการเรื่องพาสปอร์ตข้าราชการให้นางไก่
นางไก่กำลังถูกขุดคุ้ยประวัติอันโชกโชน โดยอยู่ในข่ายเป็นไฮโซ 18 มงกุฎ ก่อกรรมทำเข็ญกับใครต่อใครมามากมาย และบอกไม่ได้ว่า สุดท้ายแล้วจะถูกตั้งข้อหากี่คดี ต้องติดคุกหัวโตกี่ปี
แต่งานนี้นางไก่คงหายบ้าไปแล้ว
ส่วนนายเสถียรยังต้องจับตาดูต่อไปว่า จะเป็นตัวป่วนทางสังคมอีกยาวนานเท่าไหร่ จะมีชะตากรรมอย่างไร จะปิดฉากเหมือนลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรหลายต่อหลายคนที่ต้องติดคุกหรือต้องเตลิดหนีคดีออกไปนอกประเทศหรือไม่
นายเสถียรนอกจากเปิดตัวเป็นคนเสื้อแดง เคยขึ้นเวทีชุมนุมคนเสื้อแดงที่ถนนอักษะแล้ว ยังฝักใฝ่วัดธรรมกาย อยู่ในเครือข่ายพระเสื้อแดง และเคยประกาศให้วัดทุกวัดขึ้นป้ายสนับสนุนมติมหาเถรสมาคมที่เสนอให้ตั้งสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของนายเสถียร คือ อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และรักษาการนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพุทธศาสนา (สนพ.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องวัดธรรมกายและสมเด็จช่วงตลอดมา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่นายเสถียรสังกัด เป็นที่ฝังรากของเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ ซึ่งเปิดตัวเป็นพระแดงตัวเอ้เชียร์ “ทักษิณ” อย่างออกหน้าออกตา เคยปลุกระดมพระให้มาชุมนุมที่พุทธมณฑล จนเกิดรายการม็อบคนโล้นห่มเหลืองไล่อัดทหาร
เมธีธรรมาจารย์เคยประกาศระดมม็อบพระบุกทำเนียบฯ กดดันให้ตั้งสมเด็จช่วงเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่เมื่อรัฐบาลขึงขังเอาจริงกับการปลุกระดมม็อบพระมาเคลื่อนไหวป่วนบ้านป่วนเมือง และนิมนต์ในลักษณะหิ้วปีกเมธีธรรมาจารย์ไปปรับทัศนคติ
ตั้งแต่นั้นมาเมธีธรรมาจารย์ก็เงียบหายไร้การเคลื่อนไหว เพิ่งจะโผล่มาขู่ปลุกระดมม็อบพระมากดดันรัฐบาลให้ตั้งสมเด็จช่วงเป็นสมเด็จพระสังฆราชอีกครั้ง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมธีธรรมาจารย์จะทำหน้าที่เป็นโล้นห่มเหลืองตัวหัวโจกในการเคลื่อนไหวผลักดันสมเด็จช่วง ส่วนนายเสถียรทำตัวเป็นลูกคู่ โดยระดมคนออกมาเคลื่อนไหวคู่ขนาน
บทบาทที่เครือข่ายพระเสื้อแดงจัดวางให้นายเสถียรเคลื่อนไหวนั้น ไม่แตกต่างจากบทที่ “ทักษิณ” วางไว้ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ และไม่แตกต่างจากบทที่ธัมมชโยขีดเส้นให้นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดธรรมกายเดิน
นายจตุพรรับหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ “ทักษิณ” เป็นหัวหอกในการปลุกระดมคนเสื้อแดง และเป็นตัวป่วนทางการเมืองในทุกสถานการณ์
นายองอาจรับบทแก้ต่างให้ธัมมชโยในทุกกรณี
ส่วนนายเสถียรทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของพระเสื้อแดง คอยแก้ตัวแทนมหาเถรสมาคม สมเด็จช่วง และธัมมชโย โดยเคยออกรายการทีวีโต้เรื่องลัทธิธรรมกายกับส.ศิวลักษณ์ แต่ต้องตายคาจอ เพราะตอบคำถามส.ศิวลักษณ์ไม่ได้ว่า ธรรมกายดีหรือชั่ว
ตำแหน่งเลขานุการนายสันติ พร้อมพัฒน์นั้น น่าจะเป็นการตบรางวัลให้นายสันติ เช่นเดียวกับหัวโจกเสื้อแดงนับสิบคนที่แม้จะมีคดีติดตัว แต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ตบรางวัลให้มีตำแหน่งทางการเมือง
นายเสถียรห้อยโหนอยู่ในเครือข่ายของ “ทักษิณ” ฝังตัวหากินในขบวนการพระเสื้อแดง และมีบทบาทความเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมืองหลายครั้ง แต่ยังลอยนวลอยู่ ไม่มีคดีติดตัวเหมือนหัวโจกเสื้อแดงหลายคน
นางไก่ซึ่งเคยสนิทสนมกับนายเสถียรปิดฉากตัวเองแล้ว แต่นายเสถียรยังอยู่สุขสบาย โดยรับหน้าที่ในฐานะตัวแทนเครือข่ายโล้นห่มเหลือง สู้ให้สมเด็จช่วง แก้ต่างแทนวัดธรรมกาย
พฤติกรรมของนางไก่แม้จะอำมหิตผิดมนุษย์ ทำลายชีวิตของคนบริสุทธิ์ไปมากมาย แต่ถ้าเทียบกับพฤติกรรมนายเสถียร อาจแสบกว่า เพราะเป็นหนึ่งในหัวโจกคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมทำให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวาย
เป็นหนึ่งในหัวโจกเครือข่ายพระเสื้อแดงที่สนับสนุนให้นักการเมืองเลวๆ กลับ มามีอำนาจ ใช้คราบความเป็นคนโกนหัวห่มเหลืองปกป้องพวกสมี อลัชชี เที่ยวล้างมลทินให้นักบวชที่ปั้นสวรรค์มาหลอกต้มเงินชาวบ้าน นำสังคมสู่ความวิบัติ
นางไก่ว่าแสบแล้ว แต่ “เสถียร วิพรมหา” แสบกว่า เพราะพฤติกรรมอยู่ในข่ายเป็นภัยต่อคนทั้งชาติ
นายเสถียรไม่ใช่คนเด่นคนดังที่สังคมทั่วไปจะรู้จักมักคุ้นเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงสายนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถ้าพูดถึงหัวโจกคนเสื้อแดง ถ้าพูดถึงม็อบสายพระแล้ว นายเสถียรเป็นระดับแกนนำคนหนึ่ง แม้จะเป็นแกนนำในชั้นปลายแถวก็ตาม
ความสัมพันธ์ระหว่างนายเสถียรกับนางไก่เกิดขึ้นอย่างไร ลึกซึ้งขนาดไหน เชื่อมโยงกันถึงขั้นใด ไม่เป็นที่เปิดเผย รู้กันแต่ว่า มีความเกี่ยวพันกันช่วงสั้นๆ ขณะที่นายเสถียรเป็นเลขานุการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
และเป็นธุระจัดการเรื่องพาสปอร์ตข้าราชการให้นางไก่
นางไก่กำลังถูกขุดคุ้ยประวัติอันโชกโชน โดยอยู่ในข่ายเป็นไฮโซ 18 มงกุฎ ก่อกรรมทำเข็ญกับใครต่อใครมามากมาย และบอกไม่ได้ว่า สุดท้ายแล้วจะถูกตั้งข้อหากี่คดี ต้องติดคุกหัวโตกี่ปี
แต่งานนี้นางไก่คงหายบ้าไปแล้ว
ส่วนนายเสถียรยังต้องจับตาดูต่อไปว่า จะเป็นตัวป่วนทางสังคมอีกยาวนานเท่าไหร่ จะมีชะตากรรมอย่างไร จะปิดฉากเหมือนลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรหลายต่อหลายคนที่ต้องติดคุกหรือต้องเตลิดหนีคดีออกไปนอกประเทศหรือไม่
นายเสถียรนอกจากเปิดตัวเป็นคนเสื้อแดง เคยขึ้นเวทีชุมนุมคนเสื้อแดงที่ถนนอักษะแล้ว ยังฝักใฝ่วัดธรรมกาย อยู่ในเครือข่ายพระเสื้อแดง และเคยประกาศให้วัดทุกวัดขึ้นป้ายสนับสนุนมติมหาเถรสมาคมที่เสนอให้ตั้งสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของนายเสถียร คือ อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และรักษาการนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพุทธศาสนา (สนพ.) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องวัดธรรมกายและสมเด็จช่วงตลอดมา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่นายเสถียรสังกัด เป็นที่ฝังรากของเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ ซึ่งเปิดตัวเป็นพระแดงตัวเอ้เชียร์ “ทักษิณ” อย่างออกหน้าออกตา เคยปลุกระดมพระให้มาชุมนุมที่พุทธมณฑล จนเกิดรายการม็อบคนโล้นห่มเหลืองไล่อัดทหาร
เมธีธรรมาจารย์เคยประกาศระดมม็อบพระบุกทำเนียบฯ กดดันให้ตั้งสมเด็จช่วงเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่เมื่อรัฐบาลขึงขังเอาจริงกับการปลุกระดมม็อบพระมาเคลื่อนไหวป่วนบ้านป่วนเมือง และนิมนต์ในลักษณะหิ้วปีกเมธีธรรมาจารย์ไปปรับทัศนคติ
ตั้งแต่นั้นมาเมธีธรรมาจารย์ก็เงียบหายไร้การเคลื่อนไหว เพิ่งจะโผล่มาขู่ปลุกระดมม็อบพระมากดดันรัฐบาลให้ตั้งสมเด็จช่วงเป็นสมเด็จพระสังฆราชอีกครั้ง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมธีธรรมาจารย์จะทำหน้าที่เป็นโล้นห่มเหลืองตัวหัวโจกในการเคลื่อนไหวผลักดันสมเด็จช่วง ส่วนนายเสถียรทำตัวเป็นลูกคู่ โดยระดมคนออกมาเคลื่อนไหวคู่ขนาน
บทบาทที่เครือข่ายพระเสื้อแดงจัดวางให้นายเสถียรเคลื่อนไหวนั้น ไม่แตกต่างจากบทที่ “ทักษิณ” วางไว้ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ และไม่แตกต่างจากบทที่ธัมมชโยขีดเส้นให้นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดธรรมกายเดิน
นายจตุพรรับหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ “ทักษิณ” เป็นหัวหอกในการปลุกระดมคนเสื้อแดง และเป็นตัวป่วนทางการเมืองในทุกสถานการณ์
นายองอาจรับบทแก้ต่างให้ธัมมชโยในทุกกรณี
ส่วนนายเสถียรทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของพระเสื้อแดง คอยแก้ตัวแทนมหาเถรสมาคม สมเด็จช่วง และธัมมชโย โดยเคยออกรายการทีวีโต้เรื่องลัทธิธรรมกายกับส.ศิวลักษณ์ แต่ต้องตายคาจอ เพราะตอบคำถามส.ศิวลักษณ์ไม่ได้ว่า ธรรมกายดีหรือชั่ว
ตำแหน่งเลขานุการนายสันติ พร้อมพัฒน์นั้น น่าจะเป็นการตบรางวัลให้นายสันติ เช่นเดียวกับหัวโจกเสื้อแดงนับสิบคนที่แม้จะมีคดีติดตัว แต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ตบรางวัลให้มีตำแหน่งทางการเมือง
นายเสถียรห้อยโหนอยู่ในเครือข่ายของ “ทักษิณ” ฝังตัวหากินในขบวนการพระเสื้อแดง และมีบทบาทความเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมืองหลายครั้ง แต่ยังลอยนวลอยู่ ไม่มีคดีติดตัวเหมือนหัวโจกเสื้อแดงหลายคน
นางไก่ซึ่งเคยสนิทสนมกับนายเสถียรปิดฉากตัวเองแล้ว แต่นายเสถียรยังอยู่สุขสบาย โดยรับหน้าที่ในฐานะตัวแทนเครือข่ายโล้นห่มเหลือง สู้ให้สมเด็จช่วง แก้ต่างแทนวัดธรรมกาย
พฤติกรรมของนางไก่แม้จะอำมหิตผิดมนุษย์ ทำลายชีวิตของคนบริสุทธิ์ไปมากมาย แต่ถ้าเทียบกับพฤติกรรมนายเสถียร อาจแสบกว่า เพราะเป็นหนึ่งในหัวโจกคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมทำให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวาย
เป็นหนึ่งในหัวโจกเครือข่ายพระเสื้อแดงที่สนับสนุนให้นักการเมืองเลวๆ กลับ มามีอำนาจ ใช้คราบความเป็นคนโกนหัวห่มเหลืองปกป้องพวกสมี อลัชชี เที่ยวล้างมลทินให้นักบวชที่ปั้นสวรรค์มาหลอกต้มเงินชาวบ้าน นำสังคมสู่ความวิบัติ
นางไก่ว่าแสบแล้ว แต่ “เสถียร วิพรมหา” แสบกว่า เพราะพฤติกรรมอยู่ในข่ายเป็นภัยต่อคนทั้งชาติ
