ผู้จัดการรายวัน 360 - กรรมซัด “นางไก่” ศาลออกอีก 2 หมายจับ “ค้ามนุษย์-หมิ่นเบื้องสูง” น.1 ประสานกองทุนยุติธรรมช่วย "2 สาวลาว" โดนหมายจับลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 54 เปิดทางเข้าให้ข้อมูลมัด เบะท่าฟัน 16 ตร.ปล่อยสำนวนหลวมจิ๊บจ๊อย “ทนายสงกานต์” พา 3 เหยื่อร้องเพิ่ม มีทั้งพระ-ยายวัย 87 ที่ถูกหลอกขอเครื่องราชฯสูญ 2.8 ล้าน
วานนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ในข้อหาค้ามนุษย์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1411/2559 ลงวันที่ 21 ก.ค. โดยรายละเอียดตนได้ส่งทีมสืบสวนลงไปไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจสอบพบว่า เหตุเกิดปี 51 ถึง ต.ค.53 นางไก่ ไปหลอกหญิงชาวเขา 3 คนมาทำงานรับใช้ เรื่อยมา และเมื่อปี 54-55 ได้หลอกให้ชาวลาวมาทำงานรับใช้ หลังจากนั้นก็มีการบังคับใช้แรงงาน และหาผลประโยชน์โดยมิชอบหลายกรณี การขอออกหมายจับในครั้งนี้ ต้องการชี้ให้เห็นว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีอิทธิพลตามที่เป็นข่าว
** หาลูกจ้างลาวหวังให้ความเป็นธรรม
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังประสาน น.ส.กาบแก้ว และ น.ส.ทำมา หญิงสัญชาติลาวที่เคยทำงานกับนางไก่ ช่วงปี 54 แต่พอออกจากบ้าน ก็ถูกนางไก่แจ้งความว่า ลักทรัพย์ไปจำนวน 12 รายการ 2.9 ล้านบาท จนออกถูกหมายจับ โดยทั้งคู่ยืนยันว่า ไม่ได้ลักทรัพย์ ทั้งนี้ต้องการประสานมาให้ข้อมูลและให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งอยากให้นานาชาติไดด้เห็นว่า ประเทศไทย ทั้งรัฐบาลไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเพิกถอนหมายจับ 2 ลูกจ้างชาวลาว พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ได้ประสานกับกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว เนื่องจากทั้งคู่มีหมายจับและคดีความเกิน 5 ปี ต้องมีหลักประกัน ทาง บช.น. ก็จะช่วยในเรื่องการแสวงหาความยุติธรรม หากไม่มีความผิด ทั้งนี้ตนจะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อให้มีคำสั่งพนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 คนได้รับความเป็นธรรม
** แย้ม 16 ตร.แค่ผิดวินัยไม่ร้ายแรง
เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีนายตำรวจ 16 คน ที่มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นทั้งหมดมีความผิด มีความผิดคือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง สตช.ที่ 419 และและคำสั่ง สตช. ที่ 960 ที่ระบุว่าให้ตรวจสำนวน และเร่งรัดการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวน โดยตอนนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาอีก 1-2 คน แต่ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความกังวลว่า จะมีการช่วยเหลือปกปิด เรายึดหลักความถูกต้อง ตำรวจที่ไม่ได้ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวล แต่ตำรวจคนไหนไปรับใช้จนเกิดเหตุ มีความสนิทสนมจนก่อให้เกิดความไม่เป็นกลาง ก็ต้องรับผิด แต่หากไม่มีการทุจริตอะไร ก็เป็นเรื่องของความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
เมื่อถามว่า หากผลการตรวจสอบออกมาแล้วจะมีการเรียก 16 ตำรวจมาพูดคุยหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ตามขั้นตอนหากผลสอบออกมาแล้ว ตนจะดำเนินการให้ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจเรตำรวจ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อไป ทั้งนี้ยังไม่มีการเรียกตำรวจในกลุ่มนี้มาพูดคุย เพราะบางคนได้ย้ายออกจาก บช.น.ไปแล้ว
** แสบถึงทรวง “พระสงฆ์” ก็ไม่เว้น
อีกด้านที่ กองบังคับการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้พา นางวริศรา แก้วปลัง ตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ประจำจังหวัดสุรินทร์ และบรรณาธิการข่าว น.ส.พ.ท้องถิ่นฉบับหนึ่งใน จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย นางสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี และพระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการตำรวจปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เพื่อเป็นพยานและแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นางไก่ โดยนำภาพถ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
นายสงกานต์ เปิดเผยว่า นางวริศรา ทราบข่าวทางสื่อมวลชนว่ามีผู้แจ้งความดำเนินคดีกับนางไก่ หลายคน จึงอยากเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากนางวริศรารู้จักกับนางมณตา มาตั้งแต่สมัยที่นางมณตา อาศัยอยู่กับสามีที่ จ.พิษณุโลก ส่วนนางสายใยได้ถูกกลุ่มของนางไก่หลอกว่า จะขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ ผู้เสียหายก็หลงเชื่อและเสียเงินไป 2.8 ล้านบาท ส่วน พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี รับมอบหมายจากเจ้าคณะ จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งความดำเนินคดีกับพระรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของนางไก่ หลังจากถูกนางไก่พากลุ่มชายฉกรรจ์เข้าไปข่มขู่ให้ออกจาก วัดยี่ป่า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
** 3 เหยื่อโอดโดนเล่นงานสารพัด
นางวริศรา กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ใน จ.พิษณุโลก ทำธุรกิจร้านอาหาร และเป็นบรรณาธิการ น.ส.พ.ท้องถิ่น ได้ถูก นางไก่ ฟ้องหมิ่นประมาทเป็น 10 คดี และกลั่นแกล้งสร้างความเดือดร้อนอีกหลายเรื่อง ตนจึงต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ โดยช่วงนั้น ตนเป็นประธานสมาพันธ์ธุรกิจบันเทิงใน จ.พิษณุโลก มีการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นประจำทุกเดือนๆ ซึ่ง นางไก่ ก็เสนอตัวรับอาสาที่จะเป็นคนเลี้ยง และเป็นฝ่ายไปนัดหมายกับทางโรงเรียนเอง แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมจ่ายเงินที่จัดกิจกรรมให้ รวม 8 ครั้ง เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2536-2540 ต่อมาได้มีผู้ใหญ่ที่เคารพกันอาสาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย เพื่อทวงเงินค่าจัดกิจกรรมจากนางไก่ แต่ถูกปฏิเสธ และแจ้งความดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์กับตนอีก ซึ่งคดีดังกล่าวอัยการสั่งไม่ฟ้อง
ส่วน นางสายใย กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นหมอนวดอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ได้ถูกนางมณตา ร่วมมือกับทางเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลอกว่านางไก่เป็นคุณหญิง และมีความสนิทสนมกับ ท่านผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถขอเครื่องราชฯชั้นสายสะพายให้ได้ ด้วยความที่อยากเป็น คุณหญิง ทำให้ตนหลงเชื่อ โดยโอนเงินไปให้ 5 ครั้งๆ รวม 2.8 ล้าน กระทั่งมาทราบเรื่องภายหลังว่าเป็นการหลอกลวง เพราะมีญาติเล่าให้ฟังว่าขณะนี้มีผู้ที่ติดตามทวงเงินจากเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ด้วย จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนต่อเจ้าคณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี กล่าวว่า เจ้าคณะ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ทราบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว จึงสั่งการให้เข้าไปทำหารรื้อวัด เพราะเป็นวัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ แต่กลับถูก นางไก่ และพระที่อ้างตัวเป็นเจ้าอาวาส รวมทั้งชายฉกรรจ์ข่มขู่ โดยนางไก่ อ้างตัวว่าเป็นคุณหญิง รู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน จึงเกิดความหวาดกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายและไม่ได้รับความปลอดภัย จึงได้แจ้งเรื่องต่อนายสงกานต์ ก่อนจะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ทางตำรวจช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
** กรรมซัดโดน ม.112 อีกกระทง
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น. พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม(กก.1บก.ป.) ได้เดินทางไปศาลทหาร เพื่อขออนุมัติหมายจับ นางไก่ เพิ่มเติมในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ว่าด้วยการดูหมิ่นเบื้องสูง เพื่อนำไปอายัดตัว นางไก่ และใช้ดำเนินการขั้นตอนทางศาลทหาร โดยมีรายงานว่า พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูงเพิ่มอีก 1 กรรม พร้อมนำหมายจับจากศาลทหารที่จะได้ในวันนี้ยื่นอายัดตัวต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ ส่วนการสรุปสำนวนคดีหมิ่นเบื้องสูงของ นางไก่ ชุดพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสรุปส่งให้ผู้บังคับบัญชาภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบก่อนสรุปส่งพนักงานอัยการในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 15.40 น. ศาลทหารอนุมัติหมายจับนางมณตา ตามหมายจับที่ 40/59 ฐานหมิ่นเบื้องสูงแล้ว
