MGR Online - “ทนายสงกานต์” พาเหยื่อคดีถูก “นางไก่” แจ้งความลักทรัพย์ร้อง บช.น. เผยหลักฐานสำคัญอีก 2 เรื่องใหม่ คนขับรถ-เศรษฐีเจ้าของที่ดิน 8 ไร่ จ.อุดรธานี หายตัวลึกลับ ด้าน “พงศพัศ” ให้จเรตำรวจตรวจสอบ สน.ประชาชื่น กรณีรับแจ้งความบังคับให้รับสารภาพ คาดรู้ผลสัปดาห์หน้า
วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผกก.สส.สน.บางโพงพาง พ.ต.ต.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส.สน.บางโพงพาง พ.ต.ต.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา สว.สส.กก.2 บก.สส. บช.น. พ.ต.ต.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส.สน.บางโพงพาง นายสมบูรณ์ เฉยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา และนายภควรรธก์ ศรสำราญ ตัวแทนบริษัทผู้เสียหายภาคเอกชน
โดย พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า สำหรับวันนี้ตนได้มาติดตามความคืบหน้าของคดี 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มอบหมายให้ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบช.น.เป็นหัวหน้าคณะกรรมการ เพราะเป็นประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ากระบวนการทำงานของพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นองค์กรเบื้องต้นของกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจำเป็นต้องทำงานอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา โดยการตรวจสอบของคณะกรรมการจะใช้ระยะเวลาลงไปตรวจสอบสำนวนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ากระบวนการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแต่ละสำนวนคดีดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จะทราบผล หากไม่ถูกต้องหรือมีความบกพร่อง มีการกระทำที่เบี่ยงเบนไม่สุจริตก็ต้องถูกดำเนินการทางอาญาและวินัย
อีกส่วนคือ สำนักงานจเรตำรวจไปประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำงานควบคู่กันไป ตนก็ได้มากำชับกับ ผบช.น.ว่าในเรื่องนี้สังคมกำลังจับตาดูอยู่ โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการปฏิรูปองค์กร การไว้เนื้อเชื่อใจถือว่ามีเป็นเรื่องสำคัญต่อความสำเร็จในการปฏิรูปการทำงานของพนักงานสอบสวน รวมถึงการทำงานการสอบสวนในภาพรวมด้วย สำหรับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการในครั้งนี้ไม่ต้องกังวล ขอขอบคุณที่มาให้ข้อมูลว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างในชั้นพนักงานสอบสวน ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำงานจะชัดเจนมากขึ้น
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า อีกส่วนคือนายสงกานต์ได้ให้ข้อมูลใหม่ที่มีความสำคัญที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และจะนำไปสู่การดำเนินการต่อไป เบื้องต้น ผบช.น.จะพิจารณาข้อมูลหากเห็นว่าเป็นเรื่องที่กองปราบปรามดำเนินการอยู่แล้วก็จะส่งเรื่องให้ไปดำเนินการ แต่ถ้าข้อมูลใดเกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวนในคดี สน.ประชาชื่น ทางนครบาลจะเป็นผู้ดำเนินการ
ด้านสงกานต์กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดคดีอีก 2 เรื่องที่ผู้เสียหายรอวันที่นางไก่ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีมานาน โดยคดีแรกรอความเป็นธรรมมาถึง 5 ปี รายละเอียดคือมีคนขับรถชื่อโก้ เป็นคนขับรถให้นางไก่มาตลอดเวลา และเมื่อปี 2555 นายโก้ได้หายตัวไป ซึ่งนายโก้เป็นคนที่นางไก่ไว้ใจมาก เวลาทำอะไรก็ตามจะไปกับนางไก่ตลอดเพราะเป็นที่ไว้วางใจ จนกระทั่งนำชื่อมาเข้าในทะเบียนบ้านที่บ้านเลขที่ 3/551 ถนนเทศบาลนิมิตเหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ทั้งนี้ สาเหตุที่เด็กๆ ชาวเขากลัวนางไก่มากเนื่องจากนางไก่มีแฟนเป็นนายตำรวจ และเคยอ้างว่านายโก้ถูกตำรวจฝ่ายสืบสวนหิ้วตัวไปจากบ้านพักเมื่อปี 2555 โดย น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา ได้ทราบเรื่องจากเพื่อนเพราะนางไก่เป็นคนบอก ต่อมาบุพการีของนายโก้เสียชีวิตที่ จ.ลพบุรี ปรากฏว่าตามตัวนายโก้ไม่ได้ และพยายามติดตามถามหามาโดยตลอด กระทั่งได้ไปเช็กกับทางทะเบียนราษฎรจึงทราบว่านางไก่คัดชื่อของนายโก้ออกจากทะเบียนบ้านเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2555 โดยนายโก้ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค.เวลา 10.00 น. ผู้ใหญ่บ้านและพี่ชายนายโก้จะมาร้องเรียนที่ บช.น.อีกครั้งหนึ่ง
เรื่องที่ 2 นางไก่ได้ไปขอซื้อที่ดิน 8 ไร่ กับเศรษฐีคนหนึ่งใน จ.อุดรธานี โดยอ้างว่าเป็นลูกของสามีเก่าเจ้าของที่ดินรายนี้ที่ได้เลิกกันไป 40 ปี บอกว่าจะขอซื้อที่จำนวน 8 ไร่ เมื่อปี 2546 เพื่อสร้างคอนโดมิเนียม จากนั้นนางไก่ได้เดินทางไปกับสามีที่เป็นนายตำรวจและได้รับตัวป้าเจ้าของที่ดิน อยู่มาวันหนึ่งได้หายไปกับนางไก่ไม่สามารถติดต่อได้ จนถึงปัจจุบันญาติได้มาถามนางไก่ก็ได้คำตอบว่าป้าเธอตายไปแล้ว ส่วนที่แปลงดังกล่าวได้มีการโอนเป็นชื่อนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล (ชื่อสกุลเดิมนางไก่) ทั้งนี้ ทางญาติที่เป็นครูอยู่ที่ จ.อุดรธานี แต่ขอสงวนชื่อนามสกุลก่อนเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากว่ายังมีพรรคพวกของนางไก่ยังคงลอยนวลอยู่
ทั้งนี้ พฤติการณ์ของนางไก่ เวลาเดินทางไปไหนจะมีรถตำรวจนำ รวมถึงเด็กๆ ชาวเขาเวลาเข้าหาต้องหมอบกราบ และต้องพูดคำราชาศัพท์เสมอ ทั้งนี้นางไก่เคยใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่าคุณหญิงสุชาดาด้วย
ด้าน พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวว่า แนวทางในการตรวจสอบข้อเท็จจริงตนได้ประชุมหาแนวทางกับพนักกานสอบสวน โดยให้ตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติต้องเป็นไปตาม ป.วิอาญา และหลักเกณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงสั่งการให้ชุดพนักงานสอบสวนทุกนายพิจารณาถึงข้อเท็จจริงแห่งสำนวนคดี และพิจารณาการใช้ดุลพินิจอยู่บนพื้นฐานโดยชอบหรือไม่ เมื่อได้ขั้นตอนทั้งหมดแล้วหากพบการกระทำความผิดทางอาญาก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ตนมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำหน้าที่ตำรวจที่ดีต่อประชาชน อยากให้ทุกท่านให้ปากคำโดยละเอียด ตนมั่นใจว่าคดีที่เกิดขึ้นนี้มีเหตุที่ไม่ชอบมาพากลซึ่งอาจจะมีคนอื่นที่ถูกกระทำจากผู้หญิงคนนี้อีก ตนขอให้ความเชื่อมั่น ความปลอดภัย ความยุติธรรมแก่ทุกคน ขอรับปากว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้า โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนได้ส่งทีมสืบสวนไปที่ จ.แม่ฮ่องสอนแล้วน่าจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น