xs
xsm
sm
md
lg

โยง “นางไก่” เสื้อแดงสายวัด“ทนายสงกานต์” ลุยจี้คดีเก่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ปูด “เสถียร วิพรมหา” เสื้อแดง-ธรรมกาย ชงเรื่อง “นางไก่” คว้าพาสปอร์ตข้าราชการ ยัดชื่อใส่ทีมหน้าห้อง “สันติ พร้อมพัฒน์ ” อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “รัฐบาลปู” ด้าน “ทนายสงกานต์” ยื่นคำร้อง ศาลอาญา ขอปล่อยตัวชั่วคราว “สุกัลยา ศิริม่วง” พร้อมยื่นเรื่อง สภาทนายความฯ รื้อคดีช่วยเหยื่อทุกราย

ต่อกรณีที่มีการระบุว่า นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ “นางไก่” ที่กำลังตกเป็นข่าวครึกโครมหลังแจ้งความดำเนินคดีลูกจ้างตัวเองในข้อหาลักทรัพย์จำนวนหลายล้านบาทและกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ มีหนังสือเดินทางข้าราชการในครอบครองโดยได้รับการอนุมัติจาก กรมการกงสุล ตามคำขอของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงปี 2557 นั้น แหล่งข่าวระดับสูงใน สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งคำขอหนังสือเดินทางข้าราชการให้แก่นางมณตาจริง ในฐานะคณะทำงานของเลขานุการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเป็นทีมงานของ นายเสถียร วิพรมหา ซึ่งเป็นเลขานุการของนายสันติ ในขณะนั้น

จากการตรวจสอบพบว่า นายเสถียร ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) และมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวสนับสนุนมติมหาเถรสมาคม (มส.) เสนอรายชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ โดยมีความใกล้ชิดกับ พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) และพระมหาโชว์ ทัสฺสนีโย ที่ปรึกษา สนพ. อีกทั้งยังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มพระสงฆ์กับเจ้าหน้าที่ทหารที่พุทธมณฑล เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดกำลังเคลื่อนไหวให้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ ในส่วนของสังฆธรรมเนียมปฎิบัติและโบราณราชประเพณี โดยประกาศจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในช่วงสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ยังพบว่า นายเสถียร แสดงตัวเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาในวัดพระธรรมกายอย่างชัดเจน โดยเมื่อช่วงเดือน มี.ค.58 ได้เคยออกรายการต่างคนต่างคิด ทาง AMARIN TV HD ตอน “มหาเถรสมาคมกับปมธรรมกาย จุดเปลี่ยนแห่งศรัทธา?” ร่วมกับ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ “ส.ศิวรักษ์” โดยมีบางช่วงที่นายเสถียรไม่สามารถตอบคำถามที่นายสุลักษณ์ถามเกี่ยวกับหลักคำสอนของวัดพระธรรมกายได้ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเสถียร ยังเคยขึ้นเวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อกลางปี 2557 ซึ่งมีการชุมนุมที่ ถ.อักษะ จ.นครปฐม ด้วย เช่นเดียวกับเมื่อครั้งการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ นายเสถียร ก็เคยเข้าร่วม และนำพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งขึ้นเวทีด้วย .

“ทนายสงกานต์” เตรียมรื้อคดีช่วยเหยื่อทุกราย

เมื่อเวลา 10.10 น. วานนี้ (5 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์ พร้อมด้วย น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือ “น้องมีน “อายุ 21 ปี และ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ “น้องก้อย” อายุ 19 ปี เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นางสุกัลยา ศิริม่วง อายุ 54 จำเลยในคดีลักทรัพย์เงินสดและทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยนำหลักประกันของ สำนักงานกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม มาเป็นหลักประกันซึ่งขณะนี้นางสุกัญญาถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

นายสงกานต์ กล่าวว่า ในวันนี้ (6 ก.ค.) ตนจะเดินทางไปที่ สภาทนายความแห่งประเทศไทย เพื่อยื่นเรื่องให้ดำเนินการช่วยเหลือเหยื่อทุกราย โดยจะให้พิจารณาฟ้องคดีอาญาและแพ่ง เรียกค่าเสียหายให้เหยื่อแต่ละราย รวมทั้งอาจจะขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาคดีใหม่ในคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้ว เพื่อคืนความเป็นธรรมให้มารดาของ น.ส.วณิชยา ส่วนอีก 5 รายที่ยังไม่พิพากษานั้นก็ได้แจ้ง กองปราบปราบ แล้ว อยู่ระหว่างลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้พยานแต่ละรายถูกโทรศัพท์ข่มขู่เป็นระยะ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้แจ้งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว ส่วนในวันศุกร์ ที่ 8 ก.ย.ศกนี้ จะเดินทางไปพบ เลขาฯ ปปง.เกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สิน เนื่องจากกรณีนี้พบว่ามีการกระทำกันเป็นขบวนการ

ขุด 9 คดีตั้งแต่ปี 2555

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (5 ก.ค.) ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เดินทางมาตรวจสำนวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับนางมณตรา หยกรัตนกาญ หรือ “นางไก่” พร้อมเปิดเผยว่า ส่วนตัวเห็นว่าคดีนี้ได้ดำเนินการมาพอสมควรแล้ว อีกทั้งยังมีการประสานการปฏิบัติงานร่วมกับ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และทาง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.ป. โดยในวันนี้จะมาตรวจรายละเอียดของสำนวนคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ที่มีทั้งหมด 9 คดี แบ่งเป็นคดียักยอกทรัพย์ 3 คดี ฉ้อโกง 1 คดี ทำให้เสียทรัพย์ 1 คดี และลักทรัพย์ 4 คดี

สำหรับสำนวนทั้ง 9 คดีขณะนี้เหลือเพียงสำนวนคดียักยอกทรัพย์เพียงคดีเดียวที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมสรุปสำนวนส่งให้ทางพนักงานอัยการ ทั้งนี้ ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าในส่วนพนักงานสอบสวนเองมีข้อบกพร่องตรงไหนหรือไม่ รวมไปถึงพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินการต่อผู้กระผิดได้หรือไม่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาเพื่อจะคลี่คลายคดีให้เกิดความกระจ่าง ถูกต้องตามความชอบธรรมและพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
กำลังโหลดความคิดเห็น