ผู้จัดการรายวัน360-"สงกรานต์"นำเหยื่อ "นางไก่" เข้าพบนายกสภาทนายความ ร้องขอให้ช่วยเหลือด้านคดี หลังถูกคุกคาม หนึ่งในผู้เสียหายแฉถูกตำรวจบังคับให้สารภาพ เพื่อไม่ให้ครอบครัวโดนหางเลข แฉอีก มีคนระดับ ส.ส. นายพล คอยช่วยเหลือ "ศานิตย์"สั่งตั้งกรรมการสอบตำรวจ สน.ประชาชื่น ลั่นใครมีเอี่ยวต้องรับผิดชอบ พร้อมส่งชุดสืบตามประกบ ผบช.ก.สั่งสอบเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงแล้ว ขณะที่ “นางไก่” โผล่พิษณุโลก แวะไหว้พระพุทธชินราช ขู่ใช้พ.ร.บ.คอมพ์ จัดการพวกชี้นำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (6 ก.ค.) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้พา น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย นายชูเกียรติ ใจกล้า และนางประภาพร ทองเฟื่อง พ่อและแม่ของน้องก้อย น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือน้องมีน นางสุกัญญา ศิริม่วง แม่ของน้องมีน น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา และนายธนาธิป ศรีสิงห์ สองสามีภรรยาชาวแม่ฮ่องสอน ซึ่งทั้ง 3 ครอบครัวเป็นอดีตลูกจ้างของนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ เข้าพบนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของคดี เนื่องจากหญิงไก่ มีพฤติกรรมลักษณะคุกคามผู้เสียหาย และผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูลเบาะแส รวมถึงให้ดูแลสื่อมวลชนในการทำหน้าที่เสนอข่าวด้วย เพื่อไม่ให้ถูกคุกคาม
นางสุกัญญากล่าวว่า ตนเองทำงานกับหญิงไก่มาประมาณ 1 เดือน ได้ค่าจ้างวันละ 600 บาท โดยหญิงไก่ ห้ามไม่ให้ออกจากบ้านพัก จึงรู้สึกอึดอัดและขอลาออก แต่หญิงไก่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น นายหนึ่ง ได้กระทำการข่มขู่และบังคับให้รับสารภาพว่าลักทรัพย์ โดยอ้างว่า มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด และหากไม่รับสารภาพ จะดำเนินคดีทั้งครอบครัว ตนเองซึ่งเกิดความกลัวจึงยอมรับสารภาพ ส่วนตำรวจนายดังกล่าว พบว่าเคยมาที่ห้องพักของหญิงไก่หลายครั้ง แต่ไม่รู้จักชื่อ พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยเห็นทรัพย์สิน จำนวนมากในห้องพักของหญิงไก่มาก่อน
ขณะที่นายเดชอุดม กล่าวว่า จะรับพิจารณารายละเอียดของผู้เสียหายในแต่ละคดี และอาจพิจารณาตั้งเป็นคณะกรรมการหากมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนกรณีเดียวกันเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจะดูเรื่องของประเด็นในรายละเอียดของคดีที่อาจจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอรื้อคดีใหม่ เพราะมีประเด็นข้อเท็จจริงใหม่เกิดขึ้นในคดี และต้องดูว่า คดีนี้มีการกระทำผิดเป็นลักษณะเป็นขบวนการหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่า ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคน ที่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้
ที่กองปราบปราม นายกมลศักดิ์ ศรีประเสริฐ ทนายความพร้อมด้วยน.ส.ประภาวรรณ และพ่อแม่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า ทีมทนายในคดีนี้มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า หญิงไก่ไม่ได้ทำงานเพียงคนเดียว แต่อาจจะมีบุคคลระดับสูง อาทิ สส. นักการเมืองท้องถิ่น นายตำรวจยศนายพล และนายทหาร เข้ามาเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือให้เกิดการกระทำผิดดังกล่าวขึ้น โดยในวันนี้ (7 ก.ค.) ทีมทนายจะพาผู้เสียหายจากจ.พะเยา เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงไก่เพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปราม
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) กล่าวว่า กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ออกหมายเรียกหญิงไก่ให้มาพบวันที่ 11 ก.ค.นี้ แต่ถ้ามา ก็จะพิจารณาออกหมายเรียกอีกครั้ง และถ้าไม่มาอีกก็จะออกหมายจับต่อไป โดยยืนยันว่า ภายในสัปดาห์นี้ คดีจะมีความชัดเจนและจะดำเนินคดีทุกคดีหากพบว่ามีความผิด และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ติดต่อเข้ามา หรือแทรกแซงคดีแต่อย่างใด ส่วนการติดตามตัวหญิงไก่ ได้ส่งชุดสืบสวนทั้ง 3 หน่วยงาน คือ กองบังคับการปราบปราม ตำรวจนครบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คอยตามประกบตัวอยู่ตลอดเวลาแล้ว
ทั้งนี้ ในการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น เจ้าของคดีที่หญิงไก่แจ้งความลูกจ้างลักทรัพย์แล้วว่ามีข้อบกพร่องใดหรือไม่ จากนั้นจะพิจารณาอีกครั้งว่านอกจากเจ้าของสำนวนคดี ผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือผู้ตรวจสำนวน จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ได้สั่งให้มีตรวจสอบกรณีที่หญิงไก่ มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นคุณหญิง ซึ่งเข้าข่ายในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนอีกชุดหนึ่ง ในการสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว
วันเดียวกันนี้ มีกระแสข่าวว่า นางมณตา จะเดินทางไปทำบุญ 9 วัดที่เชียงราย โดยนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่ จ.พิษณุโลก และจะต่อรถยนต์ไปยังจ.เชียงราย แต่ล่าสุดพบว่า ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่ชั้น 2 โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า อ.เมืองพิษณุโลก โดยนางมณตากล่าวเมื่อเจอผู้สื่อข่าวว่า มาไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราช แล้วจะกลับกรุงเทพฯ แม้ว่าจริงๆ ตั้งใจจะไปจ.เชียงราย แต่ร้อนใจ เพราะเขาบอกว่า จะต้องมอบตัวในวันที่ 11 ก.ค. เดี๋ยวจะกลับทันที เพื่อไปให้การ พร้อมยืนยันว่า ถูกชี้นำในเรื่องค้ามนุษย์ ในทางคดีขอปฏิเสธ และจะดำเนินคดีกับทุกคนที่มาด่าตนตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องให้รับสอบสวนคดีของนางมณตาเป็นคดีพิเศษว่า ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนืออยู่ระหว่างประมวลข้อมูลตามที่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษจากปลัดอำเภอแม่สะเรียง เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ทีมกฎหมายของสำนักงานอธิบดีจะตรวจสอบข้อเท็จจริง และมูลเหตุในการกระทำความผิดว่าเข้าเงื่อนไขที่จะรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากไม่เข้าเงื่อนไขจะส่งข้อมูลไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากคดีดังกล่าวตำรวจได้ทำการสอบสวนคดีคืบหน้าไปมากแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (6 ก.ค.) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้พา น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย นายชูเกียรติ ใจกล้า และนางประภาพร ทองเฟื่อง พ่อและแม่ของน้องก้อย น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือน้องมีน นางสุกัญญา ศิริม่วง แม่ของน้องมีน น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา และนายธนาธิป ศรีสิงห์ สองสามีภรรยาชาวแม่ฮ่องสอน ซึ่งทั้ง 3 ครอบครัวเป็นอดีตลูกจ้างของนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ เข้าพบนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของคดี เนื่องจากหญิงไก่ มีพฤติกรรมลักษณะคุกคามผู้เสียหาย และผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูลเบาะแส รวมถึงให้ดูแลสื่อมวลชนในการทำหน้าที่เสนอข่าวด้วย เพื่อไม่ให้ถูกคุกคาม
นางสุกัญญากล่าวว่า ตนเองทำงานกับหญิงไก่มาประมาณ 1 เดือน ได้ค่าจ้างวันละ 600 บาท โดยหญิงไก่ ห้ามไม่ให้ออกจากบ้านพัก จึงรู้สึกอึดอัดและขอลาออก แต่หญิงไก่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น นายหนึ่ง ได้กระทำการข่มขู่และบังคับให้รับสารภาพว่าลักทรัพย์ โดยอ้างว่า มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด และหากไม่รับสารภาพ จะดำเนินคดีทั้งครอบครัว ตนเองซึ่งเกิดความกลัวจึงยอมรับสารภาพ ส่วนตำรวจนายดังกล่าว พบว่าเคยมาที่ห้องพักของหญิงไก่หลายครั้ง แต่ไม่รู้จักชื่อ พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยเห็นทรัพย์สิน จำนวนมากในห้องพักของหญิงไก่มาก่อน
ขณะที่นายเดชอุดม กล่าวว่า จะรับพิจารณารายละเอียดของผู้เสียหายในแต่ละคดี และอาจพิจารณาตั้งเป็นคณะกรรมการหากมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนกรณีเดียวกันเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจะดูเรื่องของประเด็นในรายละเอียดของคดีที่อาจจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอรื้อคดีใหม่ เพราะมีประเด็นข้อเท็จจริงใหม่เกิดขึ้นในคดี และต้องดูว่า คดีนี้มีการกระทำผิดเป็นลักษณะเป็นขบวนการหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่า ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคน ที่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้
ที่กองปราบปราม นายกมลศักดิ์ ศรีประเสริฐ ทนายความพร้อมด้วยน.ส.ประภาวรรณ และพ่อแม่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า ทีมทนายในคดีนี้มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า หญิงไก่ไม่ได้ทำงานเพียงคนเดียว แต่อาจจะมีบุคคลระดับสูง อาทิ สส. นักการเมืองท้องถิ่น นายตำรวจยศนายพล และนายทหาร เข้ามาเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือให้เกิดการกระทำผิดดังกล่าวขึ้น โดยในวันนี้ (7 ก.ค.) ทีมทนายจะพาผู้เสียหายจากจ.พะเยา เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงไก่เพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปราม
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) กล่าวว่า กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ออกหมายเรียกหญิงไก่ให้มาพบวันที่ 11 ก.ค.นี้ แต่ถ้ามา ก็จะพิจารณาออกหมายเรียกอีกครั้ง และถ้าไม่มาอีกก็จะออกหมายจับต่อไป โดยยืนยันว่า ภายในสัปดาห์นี้ คดีจะมีความชัดเจนและจะดำเนินคดีทุกคดีหากพบว่ามีความผิด และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ติดต่อเข้ามา หรือแทรกแซงคดีแต่อย่างใด ส่วนการติดตามตัวหญิงไก่ ได้ส่งชุดสืบสวนทั้ง 3 หน่วยงาน คือ กองบังคับการปราบปราม ตำรวจนครบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คอยตามประกบตัวอยู่ตลอดเวลาแล้ว
ทั้งนี้ ในการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น เจ้าของคดีที่หญิงไก่แจ้งความลูกจ้างลักทรัพย์แล้วว่ามีข้อบกพร่องใดหรือไม่ จากนั้นจะพิจารณาอีกครั้งว่านอกจากเจ้าของสำนวนคดี ผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือผู้ตรวจสำนวน จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ได้สั่งให้มีตรวจสอบกรณีที่หญิงไก่ มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นคุณหญิง ซึ่งเข้าข่ายในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนอีกชุดหนึ่ง ในการสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้ว
วันเดียวกันนี้ มีกระแสข่าวว่า นางมณตา จะเดินทางไปทำบุญ 9 วัดที่เชียงราย โดยนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่ จ.พิษณุโลก และจะต่อรถยนต์ไปยังจ.เชียงราย แต่ล่าสุดพบว่า ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่ชั้น 2 โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า อ.เมืองพิษณุโลก โดยนางมณตากล่าวเมื่อเจอผู้สื่อข่าวว่า มาไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราช แล้วจะกลับกรุงเทพฯ แม้ว่าจริงๆ ตั้งใจจะไปจ.เชียงราย แต่ร้อนใจ เพราะเขาบอกว่า จะต้องมอบตัวในวันที่ 11 ก.ค. เดี๋ยวจะกลับทันที เพื่อไปให้การ พร้อมยืนยันว่า ถูกชี้นำในเรื่องค้ามนุษย์ ในทางคดีขอปฏิเสธ และจะดำเนินคดีกับทุกคนที่มาด่าตนตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องให้รับสอบสวนคดีของนางมณตาเป็นคดีพิเศษว่า ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนืออยู่ระหว่างประมวลข้อมูลตามที่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษจากปลัดอำเภอแม่สะเรียง เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ทีมกฎหมายของสำนักงานอธิบดีจะตรวจสอบข้อเท็จจริง และมูลเหตุในการกระทำความผิดว่าเข้าเงื่อนไขที่จะรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากไม่เข้าเงื่อนไขจะส่งข้อมูลไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากคดีดังกล่าวตำรวจได้ทำการสอบสวนคดีคืบหน้าไปมากแล้ว