xs
xsm
sm
md
lg

ตร.บุกคอนโด “ไก่ วันทนีย์” จำลองเหตุการณ์-สอบวงจรปิด ชี้ “ครอบครัวน้องก้อย” มีเวลาไม่พอลักทรัพย์ (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตร.บุกคอนโดมิเนียมย่านประชานิเวศน์ จำลองเหตุการณ์ครอบครัวลูกจ้างลักทรัพย์ “หญิงไก่” ระบุสอบวงจรปิดพบครอบครัว “น้องก้อย” ไม่มีเวลาเหลือพอที่จะเข้าไปเอาทรัพย์สินภายในห้องแน่ ส่วนนายจ้างอ้างว่าถูกลักทอง 400 บาท และเงินอีก 3 ล้านบาท คาดน้ำหนักร่วม 10 กก. แต่ในวันเกิดเหตุสอบพบมีการถือกระเป๋าในลักษณะเบาแทนที่จะลากมากกว่า ด้านผบช.ก. ชี้ภายในสัปดาห์หน้าเรื่องทั้งหมดกระจ่างแน่ ยันจะดำเนินการเอาผิด ขณะที่พนักงารสอบสน.ประชาชื่น ดอดให้ปากคำร่วม 2 ชม.



วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บ้านประชานิเวศน์ 1 ถนนเทศบาลนิมิตรเหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. พ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. และพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เดินทางมายังคอนโดมิเนียมบ้านประชานิเวศน์ 1 เพื่อตรวจสอบและจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุที่นายชูเกียรติ ใจกล้า และนางประภาพร ทองเฟื้อง และ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย ถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง เพื่อประกอบสำนวนคดี

พล.ต.ต.เจริญกล่าวว่า ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.ชาคริต ว่าจะเข้ามาจำลองเหตุการณ์ตามหลักฐานกล้องวงจรปิดที่อดีตนายจ้างนำมาเปิดเผย พร้อมระบุว่าน้องก้อยและครอบครัวลักทรัพย์ของมีค่าไป โดยจะตรวจสอบและจำลองเหตุการณ์ตั้งแต่หน้าลิฟต์มายังประตูห้องที่เกิดเหตุ ก่อนจะกลับมายังลิฟต์อีกครั้งว่ามีพิรุธหรือใช้ระยะเวลาเท่าใด ตรงกับกล้องวงจรปิดหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อครั้งที่นางไก่มาแจ้งความดำเนินคดีต่อลูกจ้างนั้นใช้ชื่อจริงในการแจ้งว่านางมณตา หยกรัตนกาญ

พล.ต.ต.เจริญกล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีที่นางไก่มาร้องทุกข์แจ้งดำเนินคดีต่ออดีตลูกจ้างนั้น ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าพนักงานสอบสวน หรือตำรวจ สน.ประชาชื่นไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือเกื้อหนุนทางคดีกับผู้ใดแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามหน้าที่ความรับผิดชอบซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย มีการสอบปากคำผู้เสียหาย และผู้เสียหายก็นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐานแสดงต่อพนักงานสอบสวน โดยลูกจ้างบางรายก็มายืนยันและรับสารภาพจึงถูกแจ้งข้อหาก่อนนำสำนวนส่งฟ้องอัยการ ขณะที่ลูกจ้างบางรายก็ไม่มาพบหรือให้ข้อมูลแก่พนักงานสอบสวนจึงถูกออกหมายจับ และหลบหนีเช่นกรณีของน้องก้อยและครอบครัว ที่ถูกศาลอาญาออกหมายจับ 2 หมาย และศาลเยาวชน 1 หมาย

พล.ต.ต.เจริญกล่าวต่อว่า ในส่วนคดีของนางสุกัญญา ศิริม่วง ที่อยู่ในเรือนจำและเป็นแม่ของน้องมีนนั้น ผู้เสียหายได้ระบุว่ามีพลเมืองดีโทรศัพท์มาบอกว่าจะคืนทรัพย์สินบางส่วน และเมื่อกลับมาถึงห้องพักพบทรัพย์สินส่วนดังกล่าววางอยู่หน้าห้องพัก โดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำมาคืน และก็ไม่มีภาพกล้องวงจรปิดยืนยันว่าใครนำมาคืนเช่นกัน โดยในส่วนทรัพย์สินที่ถูกนำมาคืนดังกล่าวนั้น ตำรวจได้ตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งศาลไปแล้ว โดยทางอดีตลูกจ้างรับสารภาพและระบุว่าจะพยายามนำทรัพย์สินส่วนที่เหลือมาคืน

ด้าน พ.ต.ชาคริตกล่าวว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่านางไก่ไม่ได้เป็นข้าราชการ และตรวจสอบไปการเข้ารับเครื่องราชฯ ก็ไม่พบแต่อย่างใด จากนั้นตำรวจจึงไปจำลองเหตุการณ์โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังการจำลองเหตุการณ์เพียง 15 นาที พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าระยะเวลาที่ออกจากลิฟต์ไปยังหน้าห้องดังกล่าวและย้อนกลับมาเป็นระยะทางรวม 50 เมตร ใช้เวลา 1.30 นาที ตรงกันกับภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ แสดงให้เห็นว่าทางครอบครัวน้องก้อยไม่มีเวลาเหลือที่จะเข้าไปภายในห้องเพื่อนำเอาทรัพย์สินออกมาแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในส่วนทรัพย์สินที่อดีตนายจ้างอ้างว่าครอบครัวน้องก้อยลักไปนั้นเป็นทองคำแท่ง น้ำหนัก 400 บาท เงินสดอีก 3 ล้านบาท หากรวมเป็นน้ำหนักจะพบว่าหนัก 10 กว่ากิโลกรัม แต่การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าลักษณะการถือกระเป๋าเดินทางนั้นดูมีน้ำหนักเบา จึงไม่น่าเป็นไปได้ เพราะหากมีน้ำหนัก 10 กว่ากิโลกรัมนั้น ผู้ขนน่าจะใช้วิธีลากกระเป๋ามากกว่า อย่างไรก็ตาม รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมเพื่อนำส่งในชั้นศาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ รวมถึงตำรวจเข้าไปจำลองเหตุการณ์นั้น พบหญิงวัยกลาง 2-3 คนนำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพวิดีโอในทุกขั้นตอน พร้อมเดินมาบันทึกภาพผู้สื่อข่าวเป็นรายบุคคลด้วย

อีกฝาก ที่ กองบังคับการปราบปราม เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พร้อมกับวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนกับชุดคลี่คลายคดี ก่อนเปิดเผยว่าสำหรับกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดความจากสับสนทางข้อมูลที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยการร่วมมือกันระหว่าง ตำรวจนครบาลกับตำรวจสอบสวนกลางในการช่วยกันรวบรวมพยานหลักฐาน รวบรวมและรายงานข้อมูลที่มีอยู่เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อเท็จจริงให้ปรากฎ เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว อีกทั้งเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นที่สนใจของสังคมจึงต้องดำเนินการอย่างละเอียดทุกขั้นตอนและพยายามเร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว คาดว่าภายในอาทิตย์หน้าเรื่องราวทั้งหมดจะต้องกระจ่าง และต้องตอบคำถามจากสังคมได้ อีกทั้งเมื่อความจริงทุกอย่างปรากฎก็คงต้องมาตรวจสอบที่ข้อกฎหมายว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นหรือไม่ซึ่งหากพบว่าผิดก็จะดำเนินการในทันที ส่วนคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้องนั้นตนขอยืนยันว่าจะดำเนินการทั้งหมดแต่ตอนนี้ขอดำเนินการเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักก่อน

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.ดวงสิทธิ์ เหง้าสุสิทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สน.ประชาชื่น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดังกล่าวได้เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.และพ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ สารวัตรสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อเข้าให้ปากคำและชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้มีรายงานว่าการเข้าให้ปากคำของ ร.ต.อ.ดวงสิทธิ์ ในครั้งนี้เป็นการให้ปากคำในประเด็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าได้สอบปากคำอดีตลูกจ้างและนายจ้างในประเด็นใดบ้าง ตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆที่พบในขณะทำคดี ซึ่งการเข้าให้ปากคำในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อแนวทางการทำคดีของกองปราบปราม โดยในรายละเอียดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะนัดหมายร.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา รองสว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น มาให้ปากคำในประเด็นเดียวกัน

ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ประสานติดต่อให้ทางพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ผู้รับผิดชอบสำนวนคดี นางไก่ อดีตนายจ้างที่แจ้งความเอาผิดในคดีลักทรัพย์กับน.ส.ประภาวรรณ หรือก้อย ใจกล้า อายุ 19 ปี นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นายชูเกียรติ ใจกล้า และนางประภาพร ทองเฟื้อง สามพ่อแม่ลูก มาเข้าให้ปากคำในช่วงบ่ายของวันนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่าในวันที่นางไก่ไปแจ้งความนั้นมีการระบุจำนวนทรัพย์สินที่สูญหายไปมีจำนวนเท่าไร หายไปในช่วงเวลาใด ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อทำการจำลองเหตุการณ์ขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะมีการกำหนดระยะเวลาในการทดสอบเพื่อนำมาพิสูจน์กับภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าลิฟต์ที่นางไก่ใช้เป็นหลักฐานในการกล่าวหาอดีตลูกจ้างทั้ง 3 คนว่ามีน้ำหนักและความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เจ้าของคดีดังกล่าวจะมีพฤติการณ์กระทำความผิดค้าสำนวนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะวิสัยทัศน์ของตำรวจทุกนายต้องยึดหลักความเที่ยงธรรมมาก่อน ซึ่งในส่วนของกรณีนี้อาจเป็นเพราะไม่ได้มีโอกาสรับฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริงจากทางผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ได้รับหมายเรียกมาเข้าพบก่อนจะมีการออกหมายจับและถูกจับกุมตัวเสียก่อน ส่วนความคืบหน้าในการเอาผิดกับนางไก่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งความเอาผิดกับนางไก่แต่อย่างใดเนื่องจากอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในทันที











กำลังโหลดความคิดเห็น