xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายสงกานต์” พายายวัย 87 ร้องกองปราบฯ ถูก “นางไก่” หลอกขอเครื่องราชฯ สูญเงิน 2.8 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “ทนายสงกานต์” พายายวัย 87 ปี แจ้งจับ “นางไก่” ฐานหลอกขอเครื่องราชฯ สูญเงิน 2.8 ล้านบาท ขณะที่ บก.หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นจากสุรินทร์แจ้งความฐานกลั่นแกล้ง ส่วนพระจากอยุธยาแจ้งความฐานร่วมมือกับเจ้าอาวาสข่มขู่หลังไปรื้อวัดร้างตามคำสั่งเจ้าคณะ

วันนี้ (21 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้พานางวริศรา แก้วปลัง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ประจำจังหวัดสุรินทร์ และบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งใน จ.สุรินทร์, นางสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี และพระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.เพื่อเป็นพยานและแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา, พยายามค้ามนุษย์ และความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ก่อนแล้ว โดยนำภาพถ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

นายสงกานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางวริศราทราบข่าวทางสื่อมวลชนว่ามีผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อนางไก่หลายคน จึงอยากเข้าให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เนื่องจากนางวริศรารู้จักกับนางมณตามาตั้งแต่สมัยที่นางมณตาอาศัยอยู่กับสามีที่ จ.พิษณุโลก ส่วนรายที่ 2 คือ นางสายใย อาชีพหมอนวดนั้น ถูกกลุ่มหญิงไก่หลอกว่าจะขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเสียเงินไป 2.8 ล้านบาท ส่วนรายสุดท้าย พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี รับมอบหมายจากเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งความดำเนินคดีต่อพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นพระอาจารย์ของนางมณตา หลังจากถูกนางมณตาพาคนมีสีเข้าไปข่มขู่ให้ออกจากวัดยี่ป่า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ด้านนางวริศรากล่าวว่า ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ใน จ.พิษณุโลก ทำธุรกิจร้านอาหาร และเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้ถูกนางไก่ฟ้องหมิ่นประมาท และยังมีการกลั่นแกล้งสร้างความเดือดร้อนให้อีกหลายเรื่อง พอมีคดีกันทำให้ต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ส่วนก่อนหน้านั้นจากที่ตนเป็นประธานสมาพันธ์ธุรกิจบันเทิงก็จะมีการเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนเป็นประจำทุกเดือนๆ ละครั้ง ซึ่งนางไก่ก็เสนอตัวรับอาสาที่จะเป็นคนเลี้ยงเอง และเป็นฝ่ายไปนัดหมายกับทางโรงเรียนเอง แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมจ่ายเงินที่จัดกิจกรรมให้รวม 8 ครั้ง เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2536-2540 ต่อมาได้มีผู้ใหญ่ที่เคารพกันท่านหนึ่งอาสาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเพื่อทวงเงินค่าจัดกิจกรรมดังกล่าวจากนางไก่ แต่นางไก่กลับปฏิเสธและได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์ต่อตนอีก ซึ่งคดีดังกล่าวอัยการสั่งไม่ฟ้อง อย่างไรก็ตามตนยังถูกนางไก่ฟ้องหมิ่นประมาทรวมแล้วกว่า 10 คดี

ส่วนนางสายใยกล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นหมอนวด อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ได้ถูกนางมณตาร่วมมือกับทางเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลอกว่านางไก่เป็นคุณหญิงและมีความสนิทสนมกับท่านผู้หญิงท่านหนึ่งที่สามารถขอเครื่องราชฯ ชั้นสายสะพายให้ได้ ด้วยความที่อยากเป็นคุณหญิงทำให้ตนหลงเชื่อโอนเงินไปให้ 5 ครั้ง รวม 2.8 ล้าน กระทั่งมาทราบเรื่องภายหลังว่าเป็นการหลอกลวงเพราะมีญาติเล่าให้ฟังว่าขณะนี้มีผู้ที่ติดตามทวงเงินจากเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ด้วย จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนต่อเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขณะที่พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ทราบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวจึงได้สั่งให้ตนซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม เข้าไปรื้อวัดดังกล่าวเพราะเป็นวัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ แต่กลับถูกนางไก่และพระที่อ้างตัวเป็นเจ้าอาวาส รวมทั้งชายฉกรรจ์ข่มขู่ โดยนางไก่อ้างตัวว่าเป็นคุณหญิง รู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน จึงเกิดความหวาดกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายและไม่ได้รับความปลอดภัย จึงแจ้งเรื่องต่อนายสงกานต์ ก่อนจะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ในวันเดียวกันนี้เพื่อให้ทางตำรวจช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเอกสารการร้องทุกข์และหลักฐานต่างๆ ไว้ ก่อนมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.สอบปากคำเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป







กำลังโหลดความคิดเห็น