MGR Online - “ศานิตย์” เผยศาลอนุมัติหมายจับ “นางไก่” ข้อหาค้ามนุษย์แล้ว กรณีหลอกสาวลาวมาบังคับใช้แรงงานหาประโยชน์ แล้วแจ้งความข้อหาลักทรัพย์กลั่นแกล้ง รับประสานกองทุนยุติธรรมประกันตัวสองสาวลาว ก่อนเชิญตัวเข้าให้ข้อมูล พบตำรวจมากกว่า 16 นาย มีความผิดไม่ตรวจสำนวน และไม่ปฏิบัติคำสั่ง ตร.
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ในข้อหาค้ามนุษย์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1411/2559 ลงวันที่ 21 ก.ค. โดยรายละเอียดตนได้ส่งทีมสืบสวนลงไปไปที่แม่ฮ่องสอน ตรวจสอบพบว่า เหตุเกิดปี 2551 ถึง ต.ค. 2553 นางไก่ ไปหลอกชาวเขาหญิง 3 คนมาทำงานรับใช้ เรื่อยมาเมื่อปี 2554 ถึง 2555 ได้หลอกให้ชาวลาวมาทำงานรับใช้ หลังจากนั้นก็มีการบังคับใช้แรงงาน หาผลประโยชน์โดยมิชอบ และยังมีข้อเท็จจริงอีกหลายๆ อย่าง แล้วก็สุดท้ายวันนี้ศาลก็ได้อนุมัติหมายจับนางไก่ในข้อหาค้ามนุษย์ เหตุเกิดในท้องที่ประชาชื่น เป็นอีกข้อหาหนึ่งที่ได้ดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำความผิด การขอออกหมายจับเพื่อชี้ให้เห็นว่าไม่มีอิทธิพล
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เมื่อปี 2554 น.ส.กาบแก้ว สัญชาติลาว ได้ออกจากบ้านไปแล้วนางไก่ก็มาแจ้งความว่าถูกลักทรัพย์ไปจำนวน 12 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์ 2.9 ล้านบาท ซึ่ง น.ส.กาบแก้วและ น.ส.ทำมา ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนลักทรัพย์ ตนพยายามประสานมาให้ข้อมูลเพื่อต้องการที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริสุทธิ์ และต้องการที่จะให้ต่างชาติหรือนานาชาติได้เห็นว่าประเทศไทย รัฐบาลไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ทุกเชื้อชาติ
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเพิกถอนหมายจับลูกจ้างชาวลาว พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เรื่องนี้เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2554 ตนได้ประสานกับกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากเขามีหมายจับและคดีความเกิน 5 ปี ต้องมีหลักประกัน ทาง บช.น.ก็จะช่วยในเรื่องการแสวงหาความยุติธรรม หากชาวลาวทั้งสองคนไม่มีความผิด ทั้งนี้ ตนจะส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อให้มีคำสั่งพนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่มเติมซึ่งจะทำให้ทั้งสองคนได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่ากรณีนายตำรวจ 16 นายที่มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวน ขณะนี้ดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาดูว่ามีการสรุปความเห็นมาอย่างไร ตอนนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาอีก 1-2 คน แต่ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความกังวลว่าจะมีการช่วยเหลือปกปิด เรายึดหลักความถูกต้อง ตำรวจที่ไม่ได้ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ไม่ต้องกังวล เบื้องต้นทั้งหมดมีความผิด มีความผิดคือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 419 และคำสั่ง ตร.ที่ 960 ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ในเมื่อคำสั่งระบุว่าให้ตรวจสำนวน ตรวจสอบเร่งรัดการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้หากมีข้อมูลว่ามีตำรวจท่านใดไปรับใช้จนเกิดเหตุ มีความสนิทสนมจนก่อให้เกิดความไม่เป็นกลางก็ต้องรับผิด แต่หากไม่มีการทุจริตก็เป็นเรื่องของความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
เมื่อถามว่าหากผลการตรวจสอบออกมาแล้วจะมีการเรียก 16 ตำรวจมาพูดคุยหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เบื้องต้นยังไมได้เรียกมาคุย เพราะบางคนได้ย้ายออกจากนครบาลไปแล้ว โดยตามขั้นตอนหากผลสอบออกมาแล้ว ตนจะดำเนินการให้ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานจเรตำรวจ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนท้อเท็จจริงต่อไป