MGR Online - ผบช.ก.เผยเตรียมเรียกสอบนายทหาร-รอง ผกก.สามี “นางไก่” หาพยานหลักฐานเชื่อมโยงการตายเศรษฐินีอุดรฯ ด้าน “โก้” คนขับรถถูกกันไว้เป็นพยาน ลุยค้นประวัติเศรษฐินีเสียชีวิตตามธรรมชาติหรือมีเงื่อนงำ
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีนางมณตา หรือไก่ หยกรัตนกาญ ผู้ต้องหาฐานแจ้งความเท็จ ส่อค้ามนุษย์ และกระทำผิดมาตรา 112 ว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมานายสุนทร ขันหิน หรือโก้ อดีตคนขับรถคนสนิทของนางไก่ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาการ ผบช.น.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ นายโก้อาจจะสบายใจจึงมาเข้าพบที่ บช.น.เนื่องจากทางตนและ พล.ต.ท.ศานิตย์ได้ประสานกันตลอดเวลาอยู่แล้ว และถือเป็นเรื่องดีเป็นไปตามที่ทางตนได้สันนิษฐานไว้ว่านายโก้ยังมีชีวิตอยู่ เพียงหลบซ่อนตัวเท่านั้น โดยอาจจะขอสำนวนการสอบปากคำเบื้องต้นทาง บช.น.มารวมกับทาง บช.ก.ได้
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า ขณะนี้นายโก้เกี่ยวข้องกับทางคดีในสถานะเป็นเพียงพยาน ไม่ใช่พัวพันในสถานะผู้ต้องหา หากมีบุคคลอื่นหรือพยานหลักฐานยืนยันได้ว่านายโก้มีส่วนในการร่วมกระทำความผิดกับนางไก่ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
“ในส่วนของกรณีเศรษฐินี จ.อุดรธานีนั้น ได้สั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามร่วมกับตำรวจท้องที่หาข้อมูลเชิงลึกเพื่อระบุตัวบุคคลเศรษฐินีดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ต้องยืนยันให้ได้ว่าเสียชีวิตเพราะเหตุใด หากพบว่าเสียชีวิตด้วยโรคภัยก็ต้องหาหลักฐานยืนยันว่าโรคอะไร และเป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ หรือมีพิรุธ” ผบช.ก.กล่าว
เมื่อถามถึงที่ดินมูลค่า 8 ล้านบาท ที่มีกระแสข่าวว่านางไก่ไปติดต่อขอซื้อจากเศรษฐินีก่อนเสียชีวิตนั้นขณะนี้เป็นซากบ้านพัก ตำรวจทราบหรือไม่ว่าที่ดินดังกล่าวก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นบ้านพักเหล่านั้นได้ซื้อมาจากใคร พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ได้แบ่งหน้าที่เป็นการสอบปากคำพยานบุคคลหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องยอมรับว่าคำให้การของบุคคลนั้นบางคนก็ให้การไม่หมด บางคนก็ไม่พูดความจริง ต้องมีการรวบรวมพยานเอกสารในเชิงลึกซึ่งจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าที่ดินดังกล่าวนั้นอาจจะถูกโอนให้เป็นชื่อนางไก่ก่อนจะขายต่อมาจนกลายเป็นซากบ้านพักดังกล่าว พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ข้อมูลขณะนี้ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น อยู่ระหว่างสืบสวนว่านางไก่มีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด โดยมุ่งเน้นไปยังผู้ที่รู้จักกับนางไก่ในอดีต ไม่ว่าแนวทางการสืบสวนจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดก็ต้องมีการเรียกตัวมาสอบปากคำทุกคน ทั้งนายทหารที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือที่นางไก่นำไปใช้แอบอ้าง น้องสาวของเศรษฐินีคนดังกล่าว รวมถึงนายตำรวจยศ พ.ต.ท.สามีของนางไก่เองก็เช่นกัน โดยจะเรียกสอบปากคำบุคคลใดบ้างนั้นต้องขอให้ตำรวจมีความชัดเจน หรือมีข้อเท็จจริงมากในระดับหนึ่งก่อน
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่กองปราบปราม นายปิติ ตั้งวิริยะกุล อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ซอยบรมราชชนนี 70 ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา เดินทางเข้าให้ปากคำกับพ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป และทีมพนักงานสอบสวนกก.3บก.ป. หลังปรากกฎข่าวการเสียชีวิตของนางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล หรือสุขากันยา เศรษฐีนีที่จ.อุดรธานี ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากพ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป ว่า ชุดสืบสวนได้ทำการเชิญตัวนายปิติ เพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกก.3บก.ป.หลังจากพบความเชื่อมโยงทางคดีเกี่ยวกับการหายตัวไปของนางฉวีวรรณ อดีตภรรยาที่เลิกรากันหลายปีแล้ว โดยการเข้าให้ปากคำดังกล่าวเป็นเพียงการให้ปากคำพยานเท่านั้น อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำนายปิติเบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่รายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย