MGR Online - ตำรวจกองปราบปรามตามล่าอดีตสามีเศรษฐินี จ.อุดรธานี สอบคดีที่ดิน 2 งาน ถูกขายไปในราคา 8 ล้านบาท “นางไก่” เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการคลี่คลายคดีการหายตัวไปของนางฉวีวรรณ ตั้งวิริยะกุล เศรษฐินีที่ จ.อุดรธานี หลังพบว่านางไก่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเศรษฐีนีคนดังกล่าวว่า ทาง พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป.ได้สั่งระดมชุดสืบสวนกองปราบปรามลงพื้นที่ตรวจสอบ พบข้อมูลว่าก่อนหน้าที่นางฉวีวรรณจะใช้นามสกุลตั้งวิริยะกุล เคยใช้นามสกุลสุขากันยา มาก่อน แล้วมาอยู่กินกับนายปิติ ตั้งวิริยะกุล จึงเปลี่ยนนามสกุลมาใช้นามสกุลนายปิติ จากนั้นนายปิติได้พานางไก่เข้ามาหาเพื่อติดต่อซื้อที่ดิน ไม่นานที่ดินจำนวน 2 งาน ถูกโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของนายปิติ และถูกขายให้แก่ผู้อื่นในราคา 8 ล้านบาท จากนั้นนางฉวีวรรณก็ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับและเดินทางไปเข้ารักษาตัวที่คลินิกหมออุดม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร คลินิกคนยากจนเมื่อประมาณวันที่ 26 พ.ย. 2546
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำแพทย์ที่ทำการรักษาทราบว่า นางฉวีวรรณได้เดินทางมาที่คลินิกเพียงคนเดียว และได้เข้ารักษาตัวด้วยโรคมะเร็งตับเพียง 7 วัน ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ปี 2546 ก่อนที่คลินิกจะประสานไปยังวัดศรีสว่างเพื่อนำศพเศรษฐินีไปตั้งบำเพ็ญกุศล และณาปนกิจศพในวันที่ 3 ธ.ค.ปีเดียวกัน เนื่องจากเป็นบุคคลอนาถาไม่มีญาติ อีกทั้งระหว่างที่นางฉวีวรรณมารักษาก็ได้บ่นตัดพ้อว่า “ขอตายคนเดียว”
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่านายปิติน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการเสียชิวิตของนางฉวีวรรณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เนื่องจากภายหลังการเสียชีวิตของนางฉวีวรรณ ที่ดินแปลงดังกล่าวถูกโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของนายปิติ และถูกขายให้ผู้อื่นในราคา 8 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าในรายละเอียดการแจ้งตายของนางฉวีวรรณ มีนางไก่เป็นผู้แจ้งการตาย ส่วนสาเหตุที่นางไก่ทราบว่านางฉวีวรรณเสียชีวิตเพราะหญิงไก่โทร.ไปหาแพทย์ที่คลินิก
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าที่ดินดังกล่าวถูกปลูกสร้างเป็นบ้านที่พักอาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่าการขายที่ดินดังกล่าวนั้นนางไก่มีส่วนได้เสียหรือไม่ เนื่องจากชุดสืบสวนได้พบพิรุธและตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็น โดยเฉพาะผลประโยชน์กว่า 8 ล้านบาทที่เชื่อว่านายปิติและนางไก่น่าจะมีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตามล่าตัวนายปิติมาสอบสวนถึงที่มาของเรื่องดังกล่าว