นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดเวทีดีเบตเนื้อหาร่าง รธน.ออกทีวี ที่กกต.จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ว่า ตนไม่เอาด้วย เสียเวลา จะไปเพิ่มอารมณ์ขัดแย้งให้คนดู ถ้าผู้ร่างรธน. กับผู้เกี่ยวข้องจริงใจแต่แรก ควรเริ่มตั้งแต่ร่างมาตราแรกๆ แล้ว จะมาจัดตอนใกล้วันทำประชามติทำไม หน้าที่ของ กรธ.กับ กกต. คือแจกร่างให้ถึงมือประชาชนมากที่สุด เพราะคนจำนวนมากยังไม่ได้รับร่างรธน. รวมทั้งที่บ้านของตนด้วย แล้วแบบนี้คนดูจะเอาคู่มือที่ไหน ประกอบการดูรายการทีวี ที่ท่านจัด
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า นักการเมืองพรรคไหนจะไปดีเบต ตนไม่ห้าม แต่ส่วนตัวจะไม่ไปเพิ่มแรงบีบรัดในความรู้สึกคนแน่ ช่วง10 กว่าปีก็เห็นกันอยู่ จัดทีไรวงแตกทุกที ไปจิบกาแฟคุยกันนอกรอบตามป้ำน้ำมัน หรือศาลาการเปรียญ จะดีเสียกว่า
"กกต.คงพยายามกลบเกลื่อนเรื่องแจกร่างรธน. ให้ประชาชนไม่ทันตามเป้าหมายมากกว่า ถ้าประชาชนไม่มีร่างรธน. ในมือ พอดูรายการที่ กกต.จัด คงไม่ต่างจากดูกีฬาอย่างไม่เข้าใจกติกา การตัดสินใจต่อประชามติ จึงอาจผิดเพี้ยนได้"
อย่างไรก็ตาม ตนสนับสนุนการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ คุยหลายๆครั้ง จนกว่าจะได้ข้อสรุป เรื่องที่ตนเคยหารือกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ต้องคุยต่อแน่นอน แต่ต้องคุยกันหลังการทำประชามติ เพื่อไม่ให้กระทบสมาธิประชาชน ว่าจะไปลงคะแนนวันที่ 7 ส.ค.นี้ อย่างไร ทั้งนี้ต้องยอมรับความจริงว่า ระบอบประชาธิปไตยไทย จะปฏิเสธอำนาจของทหารไม่ได้ ถ้าเรามีความคิดกีดกันทหารออกนอกวงเจรจา ระบบประชาธิปไตยในประเทศไทย ก็ไปต่อไม่ได้ ดังนั้นทหารต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ค้ำจุน ขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตย แต่ทหารจะถืออำนาจแบบเบ็ดเสร็จโดยไม่แชร์อำนาจกับฝ่ายการเมือง หรือให้ประชาชน คงไม่ได้ วันนี้ทุกฝ่ายเมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ กลับปฏิเสธซึ่งกันและกัน เรื่องรธน. อย่าสู้กันเอาเป็นเอาตายว่า ต้องผ่าน หรือไม่ผ่าน ให้ชาวบ้านเขาตัดสินเถอะ ผลเป็นอย่างไรต้องยอมรับ ถ้าไม่ผ่านก็ต้องร่างใหม่
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ.) กล่าวถึง กรณีที่กกต. เตรียมจัดให้มีการดีเบต เนื้อหาร่างรธน.ว่า กรธ. ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมโดยวันที่ 22 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมกรธ. หากได้รับหนังสือเชิญ ก็จะนำเข้าหารือในที่ประชุม
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า หากเวทีถกแถลงร่างรธน. เป็นลักษณะแลกเปลี่ยนความเห็นกันแบบนี้ รับได้ ไม่มีปัญหา อีกทั้งพิธีกร ต้องมีความเป็นกลาง แต่ถ้าต้องขึ้นโพเดี้ยม แลกหมัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย คงไม่เหมาะ ซึ่งต้องรอดูว่าจะเป็นรูปแบบใด ขณะที่ในส่วนของตนที่เคยบอกรับคำท้าดีเบตกับทุกฝ่ายนั้น ยังยืนยันรับคำท้าเหมือนเดิม และถ้าได้รับเชิญส่วนตัวจริง ก็ต้องหารือใน กรธ.ก่อน เพราะเป็นเรื่องส่วนรวม ส่วนที่บางคนบอกว่า กกต.ช้าไป ควรเปิดให้ถกเถียงตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วนั้น ตนว่าการจัดเวทีช่วงโค้งสุดท้าย มีความสมดุลแล้ว ไม่ถือว่าช้าไปหรือเสียของ
เมื่อถามว่า กรธ. มีความมั่นใจหรือไม่ว่าร่าง รธน. จะผ่านประชามติ เพราะเริ่มมีการพูดถึงทางออก หากร่างรธน.ไม่ผ่าน นายอมร กล่าวว่าต้องยอมรับว่าจนถึงเวลานี้มีความเป็นไปได้ทั้งสองทาง คือ ผ่าน กับไม่ผ่าน แม้ผลสำรวจความคิดเห็นจะออกมาว่า ประชาชนจะรับมากกว่าไม่รับ แต่ประชาชนที่ยังไม่แน่ใจว่า จะลงประชามติในแนวทางใด ยังมีอีกถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มาก ทำให้คาดเดายากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า กกต.มีความล่าช้าในการจัดกิจกรรมให้ถกเถียงเนื้อหาในร่างรธน.ว่า การจัดกิจกรรมของ กกต. มีมาตลอด แต่การจัดกิจกรรมเสริมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค. ก็เพื่อให้ประชาชนรับรู้กว้างขวางมากขึ้น ที่ผ่านมา กกต.ก็ได้ดำเนินการมาในหลายรูปแบบ ทั้งการรณรงค์ผ่านแอพลิเคชั่น หรือการแจกจ่ายเอกสาร ซึ่งในส่วนของการแจกจุลสารร่างรธน.ฉบับย่อ ให้กับประชาชน 17 ล้านครัวเรือน ภายในวันที่ 18-22 ก.ค. หากใครไม่ได้รับสามารถแจ้งมาที่กกต.ได้ นอกจากนี้ จะมีการเผยแพร่เนื้อหา ร่างรธน.ฉบับเต็ม ผ่านทางหนังสือพิมพ์จำนวน 5 ฉบับ โดยจะตีพิมพ์เป็นใบแทรก ผ่านหนังสือพิมพ์ที่มียอดตีพิมพ์สูง
ทั้งนี้ ตนได้ประสานงานไปยัง สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส เพื่อให้จัดรายการ 10 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.-5 ส.ค.59 เวลา 13 .00-14.00 น. ซึ่งจะมีการเชิญวิทยากรทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยมาร่วมรายการฝ่ายละ 2 คน ทั้งนี้ กกต.จะไม่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหา แต่ขอร่วมพิจารณาตัวบุคคลที่จะเป็นวิทยากรในรายการ
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า นักการเมืองพรรคไหนจะไปดีเบต ตนไม่ห้าม แต่ส่วนตัวจะไม่ไปเพิ่มแรงบีบรัดในความรู้สึกคนแน่ ช่วง10 กว่าปีก็เห็นกันอยู่ จัดทีไรวงแตกทุกที ไปจิบกาแฟคุยกันนอกรอบตามป้ำน้ำมัน หรือศาลาการเปรียญ จะดีเสียกว่า
"กกต.คงพยายามกลบเกลื่อนเรื่องแจกร่างรธน. ให้ประชาชนไม่ทันตามเป้าหมายมากกว่า ถ้าประชาชนไม่มีร่างรธน. ในมือ พอดูรายการที่ กกต.จัด คงไม่ต่างจากดูกีฬาอย่างไม่เข้าใจกติกา การตัดสินใจต่อประชามติ จึงอาจผิดเพี้ยนได้"
อย่างไรก็ตาม ตนสนับสนุนการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ คุยหลายๆครั้ง จนกว่าจะได้ข้อสรุป เรื่องที่ตนเคยหารือกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ต้องคุยต่อแน่นอน แต่ต้องคุยกันหลังการทำประชามติ เพื่อไม่ให้กระทบสมาธิประชาชน ว่าจะไปลงคะแนนวันที่ 7 ส.ค.นี้ อย่างไร ทั้งนี้ต้องยอมรับความจริงว่า ระบอบประชาธิปไตยไทย จะปฏิเสธอำนาจของทหารไม่ได้ ถ้าเรามีความคิดกีดกันทหารออกนอกวงเจรจา ระบบประชาธิปไตยในประเทศไทย ก็ไปต่อไม่ได้ ดังนั้นทหารต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ค้ำจุน ขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตย แต่ทหารจะถืออำนาจแบบเบ็ดเสร็จโดยไม่แชร์อำนาจกับฝ่ายการเมือง หรือให้ประชาชน คงไม่ได้ วันนี้ทุกฝ่ายเมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ กลับปฏิเสธซึ่งกันและกัน เรื่องรธน. อย่าสู้กันเอาเป็นเอาตายว่า ต้องผ่าน หรือไม่ผ่าน ให้ชาวบ้านเขาตัดสินเถอะ ผลเป็นอย่างไรต้องยอมรับ ถ้าไม่ผ่านก็ต้องร่างใหม่
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ.) กล่าวถึง กรณีที่กกต. เตรียมจัดให้มีการดีเบต เนื้อหาร่างรธน.ว่า กรธ. ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมโดยวันที่ 22 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมกรธ. หากได้รับหนังสือเชิญ ก็จะนำเข้าหารือในที่ประชุม
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า หากเวทีถกแถลงร่างรธน. เป็นลักษณะแลกเปลี่ยนความเห็นกันแบบนี้ รับได้ ไม่มีปัญหา อีกทั้งพิธีกร ต้องมีความเป็นกลาง แต่ถ้าต้องขึ้นโพเดี้ยม แลกหมัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย คงไม่เหมาะ ซึ่งต้องรอดูว่าจะเป็นรูปแบบใด ขณะที่ในส่วนของตนที่เคยบอกรับคำท้าดีเบตกับทุกฝ่ายนั้น ยังยืนยันรับคำท้าเหมือนเดิม และถ้าได้รับเชิญส่วนตัวจริง ก็ต้องหารือใน กรธ.ก่อน เพราะเป็นเรื่องส่วนรวม ส่วนที่บางคนบอกว่า กกต.ช้าไป ควรเปิดให้ถกเถียงตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วนั้น ตนว่าการจัดเวทีช่วงโค้งสุดท้าย มีความสมดุลแล้ว ไม่ถือว่าช้าไปหรือเสียของ
เมื่อถามว่า กรธ. มีความมั่นใจหรือไม่ว่าร่าง รธน. จะผ่านประชามติ เพราะเริ่มมีการพูดถึงทางออก หากร่างรธน.ไม่ผ่าน นายอมร กล่าวว่าต้องยอมรับว่าจนถึงเวลานี้มีความเป็นไปได้ทั้งสองทาง คือ ผ่าน กับไม่ผ่าน แม้ผลสำรวจความคิดเห็นจะออกมาว่า ประชาชนจะรับมากกว่าไม่รับ แต่ประชาชนที่ยังไม่แน่ใจว่า จะลงประชามติในแนวทางใด ยังมีอีกถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มาก ทำให้คาดเดายากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า กกต.มีความล่าช้าในการจัดกิจกรรมให้ถกเถียงเนื้อหาในร่างรธน.ว่า การจัดกิจกรรมของ กกต. มีมาตลอด แต่การจัดกิจกรรมเสริมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค. ก็เพื่อให้ประชาชนรับรู้กว้างขวางมากขึ้น ที่ผ่านมา กกต.ก็ได้ดำเนินการมาในหลายรูปแบบ ทั้งการรณรงค์ผ่านแอพลิเคชั่น หรือการแจกจ่ายเอกสาร ซึ่งในส่วนของการแจกจุลสารร่างรธน.ฉบับย่อ ให้กับประชาชน 17 ล้านครัวเรือน ภายในวันที่ 18-22 ก.ค. หากใครไม่ได้รับสามารถแจ้งมาที่กกต.ได้ นอกจากนี้ จะมีการเผยแพร่เนื้อหา ร่างรธน.ฉบับเต็ม ผ่านทางหนังสือพิมพ์จำนวน 5 ฉบับ โดยจะตีพิมพ์เป็นใบแทรก ผ่านหนังสือพิมพ์ที่มียอดตีพิมพ์สูง
ทั้งนี้ ตนได้ประสานงานไปยัง สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส เพื่อให้จัดรายการ 10 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.-5 ส.ค.59 เวลา 13 .00-14.00 น. ซึ่งจะมีการเชิญวิทยากรทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยมาร่วมรายการฝ่ายละ 2 คน ทั้งนี้ กกต.จะไม่มีการเซ็นเซอร์เนื้อหา แต่ขอร่วมพิจารณาตัวบุคคลที่จะเป็นวิทยากรในรายการ
