ผู้จัดการรายวัน360 - มท.จ่อฟัน “สุขุมพันธุ์” คดีอุโมงค์ไฟสวรรค์ 39 ล้าน “บิ๊กป๊อก” เผยตั้งกรรมการสอบแล้ว ตามที่ สตง.ชงมา ส่วนเรื่องแจ้งความเป็นหน้าที่ ตร. รับจะปลดผู้ว่าฯ ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อน “บิ๊กตู่” ยันยังไม่ใช้ม.44ปลด “ชายหมู” ด้าน "วิลาศ" เมิน กทม.ขู่ฟ้อง
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท. 0208.2/1679 ลงวันที่ 30 มิ.ย.2559 ถึงผู้ว่าฯกทม. พร้อมแนบสำเนาหนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ลับมาก ด่วนที่สุด ที่ ตผ 0019/0461 ลงวันที่ 10 พ.ค.2559
โดยในหนังสือระบุว่า ด้วยสตง.แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ครั้งที่ 26/2559 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2559 มีมติเห็นชอบด้วยกับผลการตรวจสอบของสตง. กรณีโครงการค่าใช้จ่ายประดับตกแต่งไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินพ.ศ. 2542 ให้รมว.มหาดไทย ดำเนินการทางอาญา วินัย และละเมิด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ประกอบมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการเร่งรัด ติดตามเกี่ยวกับกรณีเงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ทุจริต พ.ศ.2546
ในหนังสือระบุว่า จึงให้กรุงเทพฯ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามมติของคตง. ดังนี้ 1.ดำเนินการทางอาญากับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผอ.สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นายธวัชชัย จันทร์งาม ผอ.กองการท่องเที่ยว คณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ ประกอบด้วย 1.นายสิโรตม์ แสงเจริญ นักพัฒนาการท่องเที่ยวชำนาญการ 2.น.ส.วันทนา เตชะสุวรรณา นักพัฒนาท่องเที่ยวชำนาญการ 3.นายพงษ์พันธ์ ธัญญเจริญ นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ 4.นายมรกต ภูมิพานิช นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ
5.นายสิทธิโชค อภิบาล นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ บริษัท จิปาถะ ไอเดีย จำกัด โดยนายคฑารัฐ สันธิสิริ กรรมการผู้จัดการ, บริษัท สยาม เอ็ม อี.อี.จำกัด โดยนายอนุชิต พลวิเศษ กรรมการผู้จัดการ, บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด โดยน.ส.กันติกานต์ อินทศร กรรมการผู้จัดการ, บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด โดยนายวีระศักดิ์ ศิริจันทร์เพ็ญ กรรมการผู้จัดการ และน.ส.สิริพร ชาวปราการ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง
2.ดำเนินการทางวินัยกับน.ส.ปราณี นายธวัชชัย และคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ ประกอบด้วย 1.นายสิโรตม์ 2.น.ส.วันทนา 3.นายพงษ์พันธ์ 4.นายมรกต 5.นายสิทธิโชค
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบทุจริตโครงการค่าใช้จ่ายประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ กทม. ว่า ทาง สตง.แจ้งมาที่กระทรวงมหาดไทย 2-3 ประการด้วยกัน คือ ให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงซึ่งทางกระทรวงก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว และ สตง.ยังแจ้งมาด้วยว่าให้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร และให้ตั้งกรรมการสอบวินัยเจ้าหน้าที่ กทม. หากพบมีความผิดก็ให้แจ้งความฟ้องแพ่งผู้เกี่ยวข้องซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็ได้ดำเนินการตามที่ สตง.แจ้งมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาปลดหรือจะพักงานผู้ว่าฯ กทม.ได้หรือไม่อย่างไร ต้องรอให้คดีถึงสิ้นสุดก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า คงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะต้องให้คณะกรรมการสรุปข้อเท็จจริงก่อนแล้วดูตามระเบียบ ตามกฎหมายที่จะดำเนินการได้
*** บิ๊กตู่ยันยังไม่ใช้ม.44ปลดชายหมู
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม.ถึงข่าวการใช้งบประมาณที่ไม่โปร่งใส หลายโครงการของ กทม. ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทย ยังไม่จำเป็นต้องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)เข้าไปดำเนินการ แต่หากมีข้อมูลก็จะเข้ากระบวนการได้ และยืนยันว่าจะยังไม่ใช้มาตรา 44 ในการปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แต่อย่างใด
*** "วิลาศ"ไม่สน กทม.ขู่ฟ้อง
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองของกรุงเทพมหานคร เตรียมฟ้องตนเอง ที่ทำให้หน่วยงานกทม. เสียหาย จากการแถลงข่าวเรื่องรถดับเพลิงขนาดเล็ก ว่า ขอท้าให้รีบๆ ฟ้อง ตนจะพร้อมสู้ด้วยความยินดี ข้อมูลที่เขานำมาอ้างก็ไม่ได้ตรงกับที่ตนได้พูดไป อย่างกรณีที่ นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกส่วนตัวของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวหาว่า ตนไปพูดว่ารถพวงมาลัยซ้าย ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งจริงๆ แล้วตนไม่ได้พูดเช่นนั้น ตนแถลงว่า ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ท้วงว่า ผิดพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวหรือไม่ ถ้าไม่ผิด ก็ดำเนินการต่อไป แล้วที่การที่บอกว่า รถพวงมาลัยซ้ายสามารถขับได้นั้น ขอถามกลับว่า แล้วทำไม นายวสันต์ ถึงไม่ซื้อรถพวงมาลัยซ้ายมาใช้ ดังนั้น อย่ามัวแต่เก็บตัว ขอให้มาออกรายการพร้อมกันเลย
**** รองผู้ว่าฯยันมีหลักเกณฑ์
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชนระบุถึงการจัดซื้อเรือผิวน้ำขับเคลื่อนด้วยกำลังลม (แอร์โบ้ท) และเครื่องฉีดโฟมระบายควันพร้อมรถตีนตะขาบบังคับวิทยุระยะไกล ซึ่งขณะนี้เก็บไว้ที่สถานีดับเพลิงสามเสน และอยู่ระหว่างรอส่งมอบไปยังสถานีดับเพลิงต่างๆ และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดซื้อนี้มีความไม่เหมาะสมต่อการใช้งาน รวมทั้งยังมีราคาแพง 4 ชุด มีราคาถึง 39.2 ล้านบาท ว่า ยังไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว แต่เชื่อมั่นในการทำงานของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องการดับเพลิง
นายอมรกล่าวต่อว่า เชื่อว่าการจัดซื้อต้องมีบางส่วนที่ไม่ชอบ แต่ต้องเคารพในการจัดซื้อของ กทม.ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้ ยินดีที่จะเปิดเผยการจัดซื้อและข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณชน ผมจะสอบถามหลักการและเหตุผลในการเลือกเรือหรืออุปกรณ์ประเภทนี้มาใช้งาน และรีบชี้แจงสื่อมวลชนต่างๆ ให้เร็วที่สุดเพื่อความชัดเจน
ด้าน นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงกรณีที่นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) มีหนังสือถึง ม.ร.ว สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ตามมติของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เอาผิดทางอาญากับผู้ว่าฯ กทม.และเอาผิดทางวินัยกับข้าราชการ กทม.ที่ถูกชี้มูลความผิดในโครงการไฟประดับ 39 ล้านบาท ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้รับหนังสือแล้ว และไม่ได้กังวลอะไร ได้ให้นายพีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัด กทม.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามที่ปลัด มท.ส่งหนังสือมา ซึ่งมี 2 เรื่อง คือ ดำเนินคดีอาญากับผู้ว่าฯ กทม.และดำเนินการด้านวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท. 0208.2/1679 ลงวันที่ 30 มิ.ย.2559 ถึงผู้ว่าฯกทม. พร้อมแนบสำเนาหนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ลับมาก ด่วนที่สุด ที่ ตผ 0019/0461 ลงวันที่ 10 พ.ค.2559
โดยในหนังสือระบุว่า ด้วยสตง.แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ครั้งที่ 26/2559 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2559 มีมติเห็นชอบด้วยกับผลการตรวจสอบของสตง. กรณีโครงการค่าใช้จ่ายประดับตกแต่งไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 46 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินพ.ศ. 2542 ให้รมว.มหาดไทย ดำเนินการทางอาญา วินัย และละเมิด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ประกอบมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการเร่งรัด ติดตามเกี่ยวกับกรณีเงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ทุจริต พ.ศ.2546
ในหนังสือระบุว่า จึงให้กรุงเทพฯ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามมติของคตง. ดังนี้ 1.ดำเนินการทางอาญากับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผอ.สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นายธวัชชัย จันทร์งาม ผอ.กองการท่องเที่ยว คณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ ประกอบด้วย 1.นายสิโรตม์ แสงเจริญ นักพัฒนาการท่องเที่ยวชำนาญการ 2.น.ส.วันทนา เตชะสุวรรณา นักพัฒนาท่องเที่ยวชำนาญการ 3.นายพงษ์พันธ์ ธัญญเจริญ นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ 4.นายมรกต ภูมิพานิช นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ
5.นายสิทธิโชค อภิบาล นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ บริษัท จิปาถะ ไอเดีย จำกัด โดยนายคฑารัฐ สันธิสิริ กรรมการผู้จัดการ, บริษัท สยาม เอ็ม อี.อี.จำกัด โดยนายอนุชิต พลวิเศษ กรรมการผู้จัดการ, บริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด โดยน.ส.กันติกานต์ อินทศร กรรมการผู้จัดการ, บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด โดยนายวีระศักดิ์ ศิริจันทร์เพ็ญ กรรมการผู้จัดการ และน.ส.สิริพร ชาวปราการ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง
2.ดำเนินการทางวินัยกับน.ส.ปราณี นายธวัชชัย และคณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ ประกอบด้วย 1.นายสิโรตม์ 2.น.ส.วันทนา 3.นายพงษ์พันธ์ 4.นายมรกต 5.นายสิทธิโชค
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบทุจริตโครงการค่าใช้จ่ายประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ กทม. ว่า ทาง สตง.แจ้งมาที่กระทรวงมหาดไทย 2-3 ประการด้วยกัน คือ ให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงซึ่งทางกระทรวงก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว และ สตง.ยังแจ้งมาด้วยว่าให้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร และให้ตั้งกรรมการสอบวินัยเจ้าหน้าที่ กทม. หากพบมีความผิดก็ให้แจ้งความฟ้องแพ่งผู้เกี่ยวข้องซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็ได้ดำเนินการตามที่ สตง.แจ้งมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาปลดหรือจะพักงานผู้ว่าฯ กทม.ได้หรือไม่อย่างไร ต้องรอให้คดีถึงสิ้นสุดก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า คงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะต้องให้คณะกรรมการสรุปข้อเท็จจริงก่อนแล้วดูตามระเบียบ ตามกฎหมายที่จะดำเนินการได้
*** บิ๊กตู่ยันยังไม่ใช้ม.44ปลดชายหมู
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม.ถึงข่าวการใช้งบประมาณที่ไม่โปร่งใส หลายโครงการของ กทม. ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทย ยังไม่จำเป็นต้องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)เข้าไปดำเนินการ แต่หากมีข้อมูลก็จะเข้ากระบวนการได้ และยืนยันว่าจะยังไม่ใช้มาตรา 44 ในการปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แต่อย่างใด
*** "วิลาศ"ไม่สน กทม.ขู่ฟ้อง
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองของกรุงเทพมหานคร เตรียมฟ้องตนเอง ที่ทำให้หน่วยงานกทม. เสียหาย จากการแถลงข่าวเรื่องรถดับเพลิงขนาดเล็ก ว่า ขอท้าให้รีบๆ ฟ้อง ตนจะพร้อมสู้ด้วยความยินดี ข้อมูลที่เขานำมาอ้างก็ไม่ได้ตรงกับที่ตนได้พูดไป อย่างกรณีที่ นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกส่วนตัวของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวหาว่า ตนไปพูดว่ารถพวงมาลัยซ้าย ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งจริงๆ แล้วตนไม่ได้พูดเช่นนั้น ตนแถลงว่า ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ท้วงว่า ผิดพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวหรือไม่ ถ้าไม่ผิด ก็ดำเนินการต่อไป แล้วที่การที่บอกว่า รถพวงมาลัยซ้ายสามารถขับได้นั้น ขอถามกลับว่า แล้วทำไม นายวสันต์ ถึงไม่ซื้อรถพวงมาลัยซ้ายมาใช้ ดังนั้น อย่ามัวแต่เก็บตัว ขอให้มาออกรายการพร้อมกันเลย
**** รองผู้ว่าฯยันมีหลักเกณฑ์
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชนระบุถึงการจัดซื้อเรือผิวน้ำขับเคลื่อนด้วยกำลังลม (แอร์โบ้ท) และเครื่องฉีดโฟมระบายควันพร้อมรถตีนตะขาบบังคับวิทยุระยะไกล ซึ่งขณะนี้เก็บไว้ที่สถานีดับเพลิงสามเสน และอยู่ระหว่างรอส่งมอบไปยังสถานีดับเพลิงต่างๆ และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดซื้อนี้มีความไม่เหมาะสมต่อการใช้งาน รวมทั้งยังมีราคาแพง 4 ชุด มีราคาถึง 39.2 ล้านบาท ว่า ยังไม่ทราบถึงเรื่องดังกล่าว แต่เชื่อมั่นในการทำงานของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องการดับเพลิง
นายอมรกล่าวต่อว่า เชื่อว่าการจัดซื้อต้องมีบางส่วนที่ไม่ชอบ แต่ต้องเคารพในการจัดซื้อของ กทม.ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้ ยินดีที่จะเปิดเผยการจัดซื้อและข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณชน ผมจะสอบถามหลักการและเหตุผลในการเลือกเรือหรืออุปกรณ์ประเภทนี้มาใช้งาน และรีบชี้แจงสื่อมวลชนต่างๆ ให้เร็วที่สุดเพื่อความชัดเจน
ด้าน นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงกรณีที่นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) มีหนังสือถึง ม.ร.ว สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ตามมติของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เอาผิดทางอาญากับผู้ว่าฯ กทม.และเอาผิดทางวินัยกับข้าราชการ กทม.ที่ถูกชี้มูลความผิดในโครงการไฟประดับ 39 ล้านบาท ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้รับหนังสือแล้ว และไม่ได้กังวลอะไร ได้ให้นายพีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัด กทม.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามที่ปลัด มท.ส่งหนังสือมา ซึ่งมี 2 เรื่อง คือ ดำเนินคดีอาญากับผู้ว่าฯ กทม.และดำเนินการด้านวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง