xs
xsm
sm
md
lg

“อลัชชีโยเย” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการสงฆ์! (ตอนหก) “อลัชชี”กับ“มหาเถรฯ” ใครใหญ่กว่ากัน?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

ถามแบบชาวบ้านทั่วไป ถึง..

“พระบิ๊กเบิ้มทั้งหลาย” ที่บวชเรียนและปฏิบัติธรรมมานาน จนได้เป็น “รัฐบาลพระ” หรือ “มหาเถรสมาคม” ปกครองพระสงฆ์ทั้งชาติไทย แต่บริหาร “ศาสนจักร” หย่อนประสิทธิภาพ เพราะปล่อยให้คนไทยกลุ่มหนึ่ง หลงผิดต่อคำสอนพุทธเทียมของ “ธัมมชโย” แห่ง “วัดพระธรรมกาย” อยู่ในขณะนี้

คำสอนผิดเพี้ยนของ “ธัมมชโย” นั้นมีมากมาย ไม่สามารถนำมาจาระไนได้ครบถ้วนด้วยหน้ากระดาษนี้ ขอเชิญ “พระบิ๊กเบิ้ม-มหาเถรฯ-รัฐบาลพระ” กด “ยูทูป” ดูและอ่านได้เลย

พฤติกรรมกับคำสอนผิดๆ ของ “ธัมมชโย” ก่อผลลบทางตรงและทางอ้อมให้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนมาตลอด

โดยเฉพาะความผิดที่ “ธัมมชโย”โกงเงินวัด 960 ล้านบาท ทำให้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระลิขิตระบุไว้ชัดแจ้งนานแล้วว่า

“การโกงสมบัติผู้อื่นตั้งแต่ 5 บาสกขึ้นไป คือประมาณไม่ถึง 300 บาทในปัจจุบัน ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิกฐานผิดพระธรรมวินัย พ้นจากความเป็นพระทันที ในกรณีนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้เห็นหรือไม่ ไม่ว่าจะมีการสั่งให้สึก ไม่ว่าจะมีการจับสึกหรือไม่ก็ตาม ภิกษุผู้ละเมิดพระธรรมวินัยข้อนี้ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ที่ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรก็เพื่อเตือนให้รู้ทั่วกันว่า ผู้อาบัติปาราชิกนั้นมิใช่พระในพุทธศาสนา เป็นผู้นำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง เป็นพระปลอม..

ในเรื่องเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกายนั้น เราได้ทำหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราชสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดอีกขณะนี้ ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจห่วงใยพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นคนดีด้วยมีกตัญญูกตเวทิตาธรรม”

ทว่า..ยุค “สมเด็จฯเกี่ยว” ต่อด้วยยุค “สมเด็จฯช่วง” ทำหน้าที่แทนพระสังฆราชฯและประธาน “มหาเถรฯ” ก็มิได้ทำตามพระลิขิตอดีตพระสังฆราชฯให้สำเร็จลุล่วง แถมปล่อยให้ “อลัชชี-พระปลอม” นาม “ธัมมชโย” ยังใช้ผ้าเหลืองบังหน้าทำผิดกฎ “อาณาจักร” และ “ศาสนจักร” ด้วยการต้มตุ๋นเงินเหล่า “บัวใต้น้ำ” ให้ตนและพวกมาจนทุกวันนี้

พฤติกรรมกับคำสอนผิดๆของ “อลัชชีธัมมชโย” ทำให้พระสงฆ์กับฆราวาสมากมาย เปิดโปงและผลักดันผู้มีอำนาจทั้ง “อาณาจักร” และ “ศาสนจักร” ให้จับสึกและลงโทษ “อลัชชีธัมมชโย” โดยด่วน เพื่อปกป้องวงการสงฆ์และพุทธศาสนา

โดยชี้ให้เห็นว่า “อลัชชีธัมมชโย” ยังทำผิดอยู่ในทุกวันนี้ ทั้งทำผิดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า! ทำผิดต่อพระธรรมวินัย 227 ข้อ! ทำผิดต่อพ.ร.บ.คณะสงฆ์! ทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันรับของโจร! ฯลฯ จน “อลัชชีธัมมชโย” ต้องหลบซ่อนตัว ใช้สาวกเป็น “โล่มนุษย์” หนีหมายจับของทางการ

พระสงฆ์และฆราวาสทั้งหลาย จึงถือว่า “ธัมมชโย” เป็น “อลัชชี-กับ-สมี” เพราะเป็น “โล้นเหลืองต้มตุ๋น” ในคราบ “พระปลอม” เพราะ“ธัมมชโย” อาบัติปาราชิกแล้ว ตามพระลิขิตของอดีตสมเด็จพระสังฆราชฯ ระบุอย่างชัดแจ้งไปนานแล้ว ให้พระที่โกงเงินทองทรัพย์สินของวัด ต้องอาบัติปาราชิก

นั่นยังไม่รวมเรื่อง “อลัชชีโยเย” อวดอุตริมนุสธรรม ในสิ่งที่ตนทำไม่ได้และไม่จริง! เช่น ทำให้พวก “บัวใต้น้ำ” หลงผิดว่า แม้จะทำชั่ว..แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการขึ้นสวรรค์

เพราะแค่ใช้เงินบริจาคให้ “อลัชชีโยเย” มากๆ โดยไม่ต้องห่วงอนาคต และอย่าเสียดายเงินที่บริจาค “อลัชชีโยเย” ก็จะช่วยพาไปขึ้นสวรรค์แล้ว! แถมยังทำบุญให้ญาติที่ตายได้ด้วยนะจ๊ะ เพราะ “อลัชชีโยเย” จะช่วยให้ญาติ ซึ่งอยู่ “สวรรค์เฟสสาม” อัพเกรดไป “สวรรค์ชั้นหนึ่ง” ที่ไฮโซมากๆไงล่ะ

การจะต้มตุ๋นให้ผู้คนเชื่อว่า “ทำบุญแล้วรวย” และ “ได้ขึ้นสวรรค์” นั้น ต้องสร้างภาพให้ “อลัชชีโยเย” เป็น “ซูเปอร์อลัชชี” เป็นผู้วิเศษมีอภินิหารเหนือกว่า “ซูเปอร์แมน-แบทแมน-กัปตันอเมริกา-โดราเอมอน”รวมกัน เพื่อเสริมให้ “อลัชชีโยเย” เล่านิทานโกหก ด้วยลีลาและสุ้มเสียงขยี้ใจแม่ยกพ่อยก เป่ามนต์กระตุกต่อมสมองส่วน “กล้าได้กล้าเสีย”!

กล้าได้-คือ-กล้าทุ่มเงินทำบุญ หวังจะรวยกับไปสวรรค์ ส่วนจะขึ้นสวรรค์ชาตินี้-ชาติหน้า-ชาติโน้น-ชาติไหนก็ได้!

กล้าเสีย-คือ-กล้าเสียเงิน-กล้าเสียผัว-กล้าเสียหมดตัว-กล้ากู้มาเสียแล้วเสียอีก!

เรื่องทำบุญแล้วรวยนั้น..ไม่รวยชาตินี้ก็คงจะรวยชาติหน้าแน่ๆ เพราะ “ธัมมชโย” ผู้วิเศษสุดลิ่มทิ่มแดนนรกและสวรรค์ จะร่ายมนต์ “หว่านเงิน” ที่ลานจานบินเสมอๆว่า

ชิตังเม..แบ่งกันรวย! ชิตังเม..ขอให้รวยทุกคน! ชิตังเม..ขอให้รวยมากๆทุกคน! แต่ชิชะแตงโม..ขออาตมารวยก่อนใครเลยนะจ๊ะโยม..555..

เพื่ออำนวยให้การบริจาคเงินสะดวกโยธิน ทั้งเงินสดและเงินผ่อน “อลัชชีโยเย” จึงตั้ง “สหกรณ์เงิน” รับฝากเงินจากสาวกและสหกรณ์ต่างๆ ไว้ปล่อยกู้แก่สาวก เพื่อนำมาบริจาคให้ “อลัชชีโยเย” ซึ่งจะนำเงินฝากนับพันนับหมื่นล้านบาท ไปฟอกกันอย่างสนุกสนานด้วยย่ามใจ

รวมทั้งลงทุนจัดอีเว้นท์ เพื่อเรี่ยไรเงินญาติโยมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย เช่น ธุดงค์เทียมเดินย่ำบนดอกดาวเรือง ที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นดอกดาวรวยเฉยเลย! มีทั้งถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้า และประเคนเงินแด่“อลัชชีโยเย”! มีทั้งขายโน่นนี่ ขายฆ้อนทองให้นำติดตัวไปเคาะประตูสวรรค์ ไม่งั้นเข้าประตูสวรรค์ไม่ได้ เพราะเทวดาเฝ้าประตูไม่ได้ยินเสียงเรียกว่ะ..555

ดังนั้น จึงมีสาวกบางส่วนที่อยากไปสวรรค์ บริจาคเงินให้ “อลัชชีโยเย” อย่างบ้าระห่ำ สิ้นคิด จนครอบครัวแตกสลาย! สาวกบางส่วนทุ่มบริจาคเงินให้ “อลัชชีโยเย” จนต้องอยู่อย่างยากแค้นมาจนทุกวันนี้! สาวกบางส่วนกู้เงินมาบริจาคให้ “อลัชชีโยเย” จนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว!

ทว่าสุดท้าย..สาวกผู้หลงผิดจำนวนหนึ่ง ไม่มีโอกาสได้เห็นสวรรค์ว่าอยู่หนใด เพราะฆ่าตัวตายหนีนรกบนดินไปเสียก่อน!

นั่นเป็นผลงานจากคำสอนผิดๆ ของ “อลัชชีโยเย” ที่สอนให้สาวกบ้าทำบุญโดยไม่ได้บุญ! การทำบุญให้ “อลัชชีโยเย” ของสาวกบางส่วน กลายเป็นการทำบาปให้ตนเองและคนรอบข้าง ต้องเผชิญวิบัติจนล้มหายตายจากไปต่อหน้าต่อตา ผิดหลักธรรมแห่งการทำบุญ ที่ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อนรวมทั้งตัวเอง..

พระพุทธเจ้า-ทรงสละสมบัติและยศศักดิ์เจ้าชายอันสูงส่ง! แต่“อลัชชีโยเย”แสวงหา-กอบโกย-สะสม-หลงในทรัพย์สินเงินทองชนิดไม่รู้จักพอ! แถมใช้เงินทองทรัพย์สินซื้อพระสงฆ์กับฆราวาส เพื่อสร้างอำนาจขบวนการต้มตุ๋น และขยายอิทธิพล“พุทธปลอม”ของตนไปทั่ว ทั้งในและต่างประเทศ

เฮ้อ..ขอถามดังๆถึง..พระบิ๊กเบิ้ม-รัฐบาลพระ-มหาเถรสมาคม รวมทั้งสำนักพุทธฯของทางการว่า

พฤติกรรมและคำสอนของ “อลัชชีโยเย” ถูกต้องตามพระธรรมของพระพุทธเจ้าหรือไม่?

ถ้าไม่ถูกต้อง-พวกท่านที่มีหน้าที่ดูแลปกป้องวงการสงฆ์ และพุทธศาสนา ให้รุ่งเรืองจะทำเช่นไร?

ถ้ายังปล่อยให้ “อลัชชีโยเย” คงพฤติกรรม และเผยแพร่คำสอนผิดๆต่อไป พวกท่านบรรดาพระบิ๊กเบิ้ม-รัฐบาลพระ-มหาเถรสมาคม-สำนักพุทธของทางการ ต้องออกมารับรองว่า สิ่งที่“อลัชชีโยเย”ทำและสอนนั้น-ถูกต้อง 100% และต้องป่าวประกาศไปทั่วชาติไทยและนานาชาติด้วยล่ะ

พระสงฆ์ทุกรูปที่มีอำนาจใน “ศาสนจักร” ต้องคิด ต้องทำ ต้องประพฤติดีเหนือกว่ามนุษย์ทุกคนที่มีอำนาจใน “อาณาจักร” จริงไหม?

เมื่อเกิดความไม่ดีในหมู่สงฆ์ และรู้ว่ามี “พระปลอม” บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า เที่ยวต้มตุ๋นผู้ด้อยธรรมอย่างโจ๋งครึ่มมโหฬารดังเช่น “อลัชชีโยเย” พระบิ๊กเบิ้ม-รัฐบาลพระ-มหาเถรสมาคม-สำนักพุทธฯของทางการ จะต้องรู้ดีรู้ชั่ว-รู้ถูกรู้ผิด-รู้ร้อนรู้หนาว และต้อง “กล้าสละอวัยวะ” (ลงโทษจอมต้มตุ๋น) เพื่อ “รักษาชีวิต” (ชื่อเสียงวงการสงฆ์และพุทธศาสนามิให้แปดเปื้อน)

การจัดการกับ “อลัชชีโยเย” ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด เพียงแค่ “พระบิ๊กเบิ้ม” เอาจริงเอาจัง ดั่งเช่นเมื่อเหตุการณ์ปี 2542 ที่สมเด็จฯ วัดชนะสงคราม มีบัญชาเด็ดขาดว่า ถ้าพระธัมมชโยไม่มามอบตัว ต้องสึก! ซึ่งครานั้น “อลัชชีโยเย” ก็ยินยอมเข้ามอบตัวต่ออัยการ

หวังว่า..ที่จอมต้มตุ๋น “อลัชชีโยเย” ยังลอยนวลท้าทายดีเอสไออยู่ทุกวันนี้ คงไม่ใช่เพราะมีอิทธิพลเหนือผู้มีอำนาจใน “ศาสนจักร” หรอกนะ..!!


กำลังโหลดความคิดเห็น