ผู้จัดการรายวัน 360 - บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ร้องศาลล้มละลายกลางให้ยกเลิกคำสั่งตามแผนฟื้นฟู “จีเอ็มเอ็ม บี” ที่ให้นำเงินไปชำระหนี้ “วิชัย ทองแตง” เพื่อนำไปจ่ายค่าสิทธิ UEFA ที่ครบกำหนด 1 ก.ย.นี้ แทน ระบุอาจส่งผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการ ส่วนคดีถูก " ฟ็อกซ์ เน็ตเวิร์ค กรุ๊ป เอเชีย แปซิฟิค " ฟ้องร้องอยู่ระหว่างการรอการไกล่เกลี่ยนัด 10 ส.ค.59
นางกานต์สุดา แสนสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดผยว่า คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี นำเงินที่ได้รับจาก บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (BEC) ไปชำระหนี้กู้ยืมให้แก่นายวิชัย ทองแตง แต่ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ในส่วนของ EURO 2016 Qualifiers ซึ่งจะถึงกำหนดชำระ 1 ก.ย.59 เพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของจีเอ็มเอ็ม บี
พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายวิชัย ทองแตง ยื่นขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้กู้ยืมเงินในคดีฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และให้มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาที่ จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิแก่ BEC ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 31 คู่การแข่งขัน รวมทั้งให้มีคำสั่งระงับไม่ให้ บริษัท ซีทีเอช นำเครื่องหมายการค้า CTH ขึ้นหน้าจอขณะที่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก จีเอ็มเอ็ม บี ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ซึ่งจีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. ซีทีเอช และเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ จีเอ็มเอ็ม บี ได้ขอให้จีเอ็มเอ็ม บี เข้าทำธุรกรรมกู้ยืมเงินจากนายวิชัย 5,631,578.95 เหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินไปชำระให้แก่ UEFA ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และ จีเอ็มเอ็ม บี จะนำเงินที่ได้รับจาก BEC ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิการออกอากาศสัญญาณถ่ายทอดสดการแข่งขัน เทปบันทึกภาพการแข่งขัน และสัญญาณรายการภายใต้ผังรายการทางช่องรายการโทรทัศน์ของ BEC ไปชำระหนี้กู้ยืมคืนให้แก่นายวิชัย
ขณะที่ ข้อกล่าวอ้างของ จีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัยดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง BEC และจีเอ็มเอ็ม บี กำหนดว่า BEC จะต้องชำระหนี้สำหรับค่าสิทธิตามสัญญา UEFA EURO 2016 งวดสุดท้าย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.58 ซึ่ง BEC ได้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว ดังนั้น การที่ BEC จะต้องชำระเงินงวดที่ 3 จำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 จึงเพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการออกอากาศการแข่งขันรายการตามสัญญา Euro Qualifiers (ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขัน UEFA EURO 2016 Qualifier และการแข่งขัน 2018 FIFA World Cup Qualifier) มิใช่ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และตามสัญญา Euro Qualifiers แต่อย่างใด
โดย จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องจ่ายค่าสิทธิให้ UEFA ตามงวดระยะเวลา 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 โดยนำเงินที่ได้รับจาก BEC ดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ จีเอ็มเอ็ม บี กู้ยืมเงินจากวิชัย 5,631,578.95 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อได้รับค่าตอบแทนจาก BEC 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องชำระหนี้แก่นายวิชัยจะทำให้ จีเอ็มเอ็ม บี มีเงินเหลืออยู่อีกเพียง 1,368,421.05 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุให้ จีเอ็มเอ็ม บี ที่อยู่ในภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้แก่ UEFA สำหรับค่าสิทธิในส่วนของ UEFA EURO 2016 Qualifiers 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59
หากไม่ชำระค่าตอบแทนดังกล่าวยังส่งผลให้ BEC ได้รับความเสียหายจากกรณีที่มีการชำระค่าสิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ตามสัญญา Euro Qualifiers ให้กับ จีเอ็มเอ็ม บี แล้ว แต่ไม่ได้รับสัญญาณการถ่ายทอดสดการแข่งขันตามสัญญา ซึ่งจะส่งผลให้ BEC อาจถูกผู้บริโภคร้องเรียนต่อ กสทช. และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 แก่ BEC 31 คู่ การแข่งขัน โดยกำหนดค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจาก BEC ก่อนหน้านี้สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 20 คู่การแข่งขันถึงกว่า 6 เท่า ซึ่งส่อให้เห็นถึงเจตนาไม่สุจริต ทำให้บริษัทฯ และเจ้าหนี้รายอื่นได้รับความเสียหาย กอปรกับ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 ที่ผ่านมา ได้มีการใช้เครื่องหมายการค้า CTH เผยแพร่ขึ้นหน้าจอโทรทัศน์ในระหว่างการแข่งขันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นประโยชน์กับบริษัท ซีทีเอช ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดให้กับเครื่องหมายการค้า CTH โดยที่จีเอ็มเอ็ม บี ไม่ได้รับประโยชน์หรือค่าตอบแทนจากซีทีเอช
พร้อมกันนี้ บมจ.แกรมมี่ ยังแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ บริษัท ฟ็อกซ์ เน็ตเวิร์ค กรุ๊ป เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ฟ้องบริษัทฯ และธนาคารพาณิชย์เป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง สืบเนื่องจากคดีที่จีเอ็มเอ็ม บี ได้ค้างชำระค่าสิทธิตามสัญญาตั้งแต่สิ้นเดือน ก.ย.58 ถึงเดือน ก.พ.59 เป็นเงิน 5,739,999.99 เหรียญสหรัฐ โดยขอศาลเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ที่ออกหนังสือค้ำประกันชำระค่าสิทธิค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 3 ต่อเดือน รวมเป็น 6,147,999.99 เหรียญสหรัฐ หรือทุนทรัพย์ตามฟ้องเป็นเงิน 220,053,519.24 บาท
ปัจจุบัน คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอการไกล่เกลี่ยและนัดชี้สองสถาน ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ส.ค.59 เวลา 13.30 น. และเลื่อนการพิจารณานัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ 26 ส.ค.59 เวลา 9.30 น
นางกานต์สุดา แสนสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดผยว่า คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี นำเงินที่ได้รับจาก บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (BEC) ไปชำระหนี้กู้ยืมให้แก่นายวิชัย ทองแตง แต่ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ในส่วนของ EURO 2016 Qualifiers ซึ่งจะถึงกำหนดชำระ 1 ก.ย.59 เพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของจีเอ็มเอ็ม บี
พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายวิชัย ทองแตง ยื่นขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้กู้ยืมเงินในคดีฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และให้มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาที่ จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิแก่ BEC ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 31 คู่การแข่งขัน รวมทั้งให้มีคำสั่งระงับไม่ให้ บริษัท ซีทีเอช นำเครื่องหมายการค้า CTH ขึ้นหน้าจอขณะที่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก จีเอ็มเอ็ม บี ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ซึ่งจีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. ซีทีเอช และเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ จีเอ็มเอ็ม บี ได้ขอให้จีเอ็มเอ็ม บี เข้าทำธุรกรรมกู้ยืมเงินจากนายวิชัย 5,631,578.95 เหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินไปชำระให้แก่ UEFA ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และ จีเอ็มเอ็ม บี จะนำเงินที่ได้รับจาก BEC ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิการออกอากาศสัญญาณถ่ายทอดสดการแข่งขัน เทปบันทึกภาพการแข่งขัน และสัญญาณรายการภายใต้ผังรายการทางช่องรายการโทรทัศน์ของ BEC ไปชำระหนี้กู้ยืมคืนให้แก่นายวิชัย
ขณะที่ ข้อกล่าวอ้างของ จีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัยดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง BEC และจีเอ็มเอ็ม บี กำหนดว่า BEC จะต้องชำระหนี้สำหรับค่าสิทธิตามสัญญา UEFA EURO 2016 งวดสุดท้าย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.58 ซึ่ง BEC ได้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว ดังนั้น การที่ BEC จะต้องชำระเงินงวดที่ 3 จำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 จึงเพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการออกอากาศการแข่งขันรายการตามสัญญา Euro Qualifiers (ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขัน UEFA EURO 2016 Qualifier และการแข่งขัน 2018 FIFA World Cup Qualifier) มิใช่ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และตามสัญญา Euro Qualifiers แต่อย่างใด
โดย จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องจ่ายค่าสิทธิให้ UEFA ตามงวดระยะเวลา 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 โดยนำเงินที่ได้รับจาก BEC ดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ จีเอ็มเอ็ม บี กู้ยืมเงินจากวิชัย 5,631,578.95 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อได้รับค่าตอบแทนจาก BEC 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องชำระหนี้แก่นายวิชัยจะทำให้ จีเอ็มเอ็ม บี มีเงินเหลืออยู่อีกเพียง 1,368,421.05 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุให้ จีเอ็มเอ็ม บี ที่อยู่ในภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้แก่ UEFA สำหรับค่าสิทธิในส่วนของ UEFA EURO 2016 Qualifiers 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59
หากไม่ชำระค่าตอบแทนดังกล่าวยังส่งผลให้ BEC ได้รับความเสียหายจากกรณีที่มีการชำระค่าสิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ตามสัญญา Euro Qualifiers ให้กับ จีเอ็มเอ็ม บี แล้ว แต่ไม่ได้รับสัญญาณการถ่ายทอดสดการแข่งขันตามสัญญา ซึ่งจะส่งผลให้ BEC อาจถูกผู้บริโภคร้องเรียนต่อ กสทช. และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 แก่ BEC 31 คู่ การแข่งขัน โดยกำหนดค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจาก BEC ก่อนหน้านี้สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 20 คู่การแข่งขันถึงกว่า 6 เท่า ซึ่งส่อให้เห็นถึงเจตนาไม่สุจริต ทำให้บริษัทฯ และเจ้าหนี้รายอื่นได้รับความเสียหาย กอปรกับ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 ที่ผ่านมา ได้มีการใช้เครื่องหมายการค้า CTH เผยแพร่ขึ้นหน้าจอโทรทัศน์ในระหว่างการแข่งขันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นประโยชน์กับบริษัท ซีทีเอช ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดให้กับเครื่องหมายการค้า CTH โดยที่จีเอ็มเอ็ม บี ไม่ได้รับประโยชน์หรือค่าตอบแทนจากซีทีเอช
พร้อมกันนี้ บมจ.แกรมมี่ ยังแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ บริษัท ฟ็อกซ์ เน็ตเวิร์ค กรุ๊ป เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ฟ้องบริษัทฯ และธนาคารพาณิชย์เป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง สืบเนื่องจากคดีที่จีเอ็มเอ็ม บี ได้ค้างชำระค่าสิทธิตามสัญญาตั้งแต่สิ้นเดือน ก.ย.58 ถึงเดือน ก.พ.59 เป็นเงิน 5,739,999.99 เหรียญสหรัฐ โดยขอศาลเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ที่ออกหนังสือค้ำประกันชำระค่าสิทธิค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 3 ต่อเดือน รวมเป็น 6,147,999.99 เหรียญสหรัฐ หรือทุนทรัพย์ตามฟ้องเป็นเงิน 220,053,519.24 บาท
ปัจจุบัน คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอการไกล่เกลี่ยและนัดชี้สองสถาน ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ส.ค.59 เวลา 13.30 น. และเลื่อนการพิจารณานัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ 26 ส.ค.59 เวลา 9.30 น