จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยื่นขอเพิกถอนคําสั่งศาลคดี “จีเอ็มเอ็ม บี” ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการพร้อมแจงคดี “ฟ็อกซ์ เน็ตเวิร์ค กรุ๊ป เอเชีย แปซิฟิค” ฟ้องบริษัทฯ และธนาคารพาณิชย์เป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง สืบเนื่องจากคดีที่จีเอ็มเอ็ม บี ได้ค้างชำระค่าสิทธิตามสัญญา และอยู่ระหว่างการรอการไกล่เกลี่ย และนัดชี้สองสถาน ศาลนัดไกล่เกลี่ยวันที่ 10 ส.ค.59 และเลื่อนการพิจารณานัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ 26 ส.ค.59
นางกานต์สุดา แสนสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จํากัด (มหาชน) หรือ GRAMMY แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิก หรือเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี นำเงินที่ได้รับจาก บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (BEC) ไปชำระหนี้กู้ยืมให้แก่ นายวิชัย ทองแตง แต่ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ในส่วนของ EURO 2016 Qualifiers ซึ่งจะถึงกำหนดชำระ 1 ก.ย.59 เพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของจีเอ็มเอ็ม บี
พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายวิชัย ทองแตง ยื่นขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้กู้ยืมเงินในคดีฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และให้มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาที่จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิแก่ BEC ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 31 คู่การแข่งขัน รวมทั้งให้มีคำสั่งระงับไม่ให้บริษัท ซีทีเอช นำเครื่องหมายการค้า CTH ขึ้นหน้าจอขณะที่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากจีเอ็มเอ็ม บี ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ซึ่งทางจีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัย ทองแตง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. ซีทีเอช และเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของจีเอ็มเอ็ม บี ได้ขอให้จีเอ็มเอ็ม บี เข้าทำธุรกรรมกู้ยืมเงินจากนายวิชัย 5,631,578.95 เหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินไปชำระให้แก่ UEFA ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และจีเอ็มเอ็ม บี จะนำเงินที่ได้รับจาก BEC ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิการออกอากาศสัญญาณถ่ายทอดสดการแข่งขัน เทปบันทึกภาพการแข่งขัน และสัญญาณรายการภายใต้ผังรายการทางช่องรายการโทรทัศน์ของ BEC ไปชำระหนี้กู้ยืมคืนให้แก่นายวิชัย
ขณะที่ข้อกล่าวอ้างของจีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัย ดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง BEC และจีเอ็มเอ็ม บี กำหนดว่า BEC จะต้องชำระหนี้สำหรับค่าสิทธิตามสัญญา UEFA EURO 2016 งวดสุดท้าย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.58 ซึ่ง BEC ได้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว ดังนั้น การที่ BEC จะต้องชำระเงินงวดที่ 3 จำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 จึงเพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการออกอากาศการแข่งขันรายการตามสัญญา Euro Qualifiers (ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขัน UEFA EURO 2016 Qualifier และการแข่งขัน 2018 FIFA World Cup Qualifier) มิใช่ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และตามสัญญา Euro Qualifiers แต่อย่างใด
ขณะที่จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องจ่ายค่าสิทธิให้ UEFA ตามงวดระยะเวลา 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 โดยนำเงินที่ได้รับจาก BEC ดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จีเอ็มเอ็ม บี กู้ยืมเงินจากวิชัย 5,631,578.95 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อได้รับค่าตอบแทนจาก BEC 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องชำระหนี้แก่นายวิชัย จะทำให้จีเอ็มเอ็ม บี มีเงินเหลืออยู่อีกเพียง 1,368,421.05 เหรียญสหรัฐ เท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุให้จีเอ็มเอ็ม บี ที่อยู่ในภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้แก่ UEFA สำหรับค่าสิทธิในส่วนของ UEFA EURO 2016 Qualifiers 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59
โดยการไม่ชำระค่าตอบแทนดังกล่าวยังส่งผลให้ BEC ได้รับความเสียหายจากกรณีที่มีการชำระค่าสิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ตามสัญญา Euro Qualifiers ให้กับจีเอ็มเอ็ม บี แล้ว แต่ไม่ได้รับสัญญาณการถ่ายทอดสดการแข่งขันตามสัญญา ซึ่งจะส่งผลให้ BEC อาจถูกผู้บริโภคร้องเรียนต่อ กสทช. และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 แก่ BEC 31 คู่ การแข่งขัน โดยกำหนดค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจาก BEC ก่อนหน้านี้สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 20 คู่การแข่งขันถึงกว่า 6 เท่า ซึ่งส่อให้เห็นถึงเจตนาไม่สุจริต ทำให้บริษัทฯ และเจ้าหนี้รายอื่นได้รับความเสียหาย กอปรกับการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 ที่ผ่านมา ได้มีการใช้เครื่องหมายการค้า CTH เผยแพร่ขึ้นหน้าจอโทรทัศน์ในระหว่างการแข่งขันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นประโยชน์กับบริษัทซีทีเอช ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดให้กับเครื่องหมายการค้า CTH โดยที่จีเอ็มเอ็ม บี ไม่ได้รับประโยชน์ หรือค่าตอบแทนจากซีทีเอช
เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ต่างๆ ข้างต้นจะพบว่า อาจส่งผลให้นายวิชัย และ/หรือ BEC และ/หรือบริษัทซีทีเอช ได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่นๆ และทำให้เจ้าหนี้รายอื่นๆ ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว
ขณะที่ GRAMMY ยังแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ บริษัท ฟ็อกซ์ เน็ตเวิร์ค กรุ๊ป เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ฟ้องบริษัทฯ และธนาคารพาณิชย์เป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง สืบเนื่องจากคดีที่จีเอ็มเอ็ม บี ได้ค้างชำระค่าสิทธิตามสัญญาตั้งแต่สิ้นเดือน ก.ย.58 ถึงเดือน ก.พ.59 เป็นเงิน 5,739,999.99 เหรียญสหรัฐ โดยขอศาลเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ที่ออกหนังสือค้ำประกันชำระค่าสิทธิค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 3 ต่อเดือน รวมเป็น 6,147,999.99 เหรียญสหรัฐ หรือทุนทรัพย์ตามฟ้องเป็นเงิน 220,053,519.24 บาท
ปัจจุบัน คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอการไกล่เกลี่ย และนัดชี้สองสถาน ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ส.ค.59 เวลา 13.30 น. และเลื่อนการพิจารณานัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ 26 ส.ค.59 เวลา 9.30 น.
นางกานต์สุดา แสนสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จํากัด (มหาชน) หรือ GRAMMY แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิก หรือเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี นำเงินที่ได้รับจาก บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (BEC) ไปชำระหนี้กู้ยืมให้แก่ นายวิชัย ทองแตง แต่ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ในส่วนของ EURO 2016 Qualifiers ซึ่งจะถึงกำหนดชำระ 1 ก.ย.59 เพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของจีเอ็มเอ็ม บี
พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายวิชัย ทองแตง ยื่นขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้กู้ยืมเงินในคดีฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และให้มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาที่จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิแก่ BEC ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 31 คู่การแข่งขัน รวมทั้งให้มีคำสั่งระงับไม่ให้บริษัท ซีทีเอช นำเครื่องหมายการค้า CTH ขึ้นหน้าจอขณะที่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากจีเอ็มเอ็ม บี ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย ซึ่งทางจีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัย ทองแตง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. ซีทีเอช และเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของจีเอ็มเอ็ม บี ได้ขอให้จีเอ็มเอ็ม บี เข้าทำธุรกรรมกู้ยืมเงินจากนายวิชัย 5,631,578.95 เหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินไปชำระให้แก่ UEFA ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และจีเอ็มเอ็ม บี จะนำเงินที่ได้รับจาก BEC ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิการออกอากาศสัญญาณถ่ายทอดสดการแข่งขัน เทปบันทึกภาพการแข่งขัน และสัญญาณรายการภายใต้ผังรายการทางช่องรายการโทรทัศน์ของ BEC ไปชำระหนี้กู้ยืมคืนให้แก่นายวิชัย
ขณะที่ข้อกล่าวอ้างของจีเอ็มเอ็ม บี และนายวิชัย ดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง BEC และจีเอ็มเอ็ม บี กำหนดว่า BEC จะต้องชำระหนี้สำหรับค่าสิทธิตามสัญญา UEFA EURO 2016 งวดสุดท้าย 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.58 ซึ่ง BEC ได้ชำระเงินดังกล่าวแล้ว ดังนั้น การที่ BEC จะต้องชำระเงินงวดที่ 3 จำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่จีเอ็มเอ็ม บี ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 จึงเพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับการออกอากาศการแข่งขันรายการตามสัญญา Euro Qualifiers (ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขัน UEFA EURO 2016 Qualifier และการแข่งขัน 2018 FIFA World Cup Qualifier) มิใช่ตามสัญญา UEFA EURO 2016 และตามสัญญา Euro Qualifiers แต่อย่างใด
ขณะที่จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องจ่ายค่าสิทธิให้ UEFA ตามงวดระยะเวลา 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59 โดยนำเงินที่ได้รับจาก BEC ดังกล่าวไปชำระหนี้ให้แก่ UEFA ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จีเอ็มเอ็ม บี กู้ยืมเงินจากวิชัย 5,631,578.95 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อได้รับค่าตอบแทนจาก BEC 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีเอ็มเอ็ม บี จะต้องชำระหนี้แก่นายวิชัย จะทำให้จีเอ็มเอ็ม บี มีเงินเหลืออยู่อีกเพียง 1,368,421.05 เหรียญสหรัฐ เท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุให้จีเอ็มเอ็ม บี ที่อยู่ในภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะชำระหนี้ให้แก่ UEFA สำหรับค่าสิทธิในส่วนของ UEFA EURO 2016 Qualifiers 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันที่ 1 ก.ย.59
โดยการไม่ชำระค่าตอบแทนดังกล่าวยังส่งผลให้ BEC ได้รับความเสียหายจากกรณีที่มีการชำระค่าสิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล ตามสัญญา Euro Qualifiers ให้กับจีเอ็มเอ็ม บี แล้ว แต่ไม่ได้รับสัญญาณการถ่ายทอดสดการแข่งขันตามสัญญา ซึ่งจะส่งผลให้ BEC อาจถูกผู้บริโภคร้องเรียนต่อ กสทช. และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ยังพบว่า จีเอ็มเอ็ม บี ให้สิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 แก่ BEC 31 คู่ การแข่งขัน โดยกำหนดค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าค่าตอบแทนที่ได้รับจาก BEC ก่อนหน้านี้สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอล UEFA EURO 2016 จำนวน 20 คู่การแข่งขันถึงกว่า 6 เท่า ซึ่งส่อให้เห็นถึงเจตนาไม่สุจริต ทำให้บริษัทฯ และเจ้าหนี้รายอื่นได้รับความเสียหาย กอปรกับการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 ที่ผ่านมา ได้มีการใช้เครื่องหมายการค้า CTH เผยแพร่ขึ้นหน้าจอโทรทัศน์ในระหว่างการแข่งขันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นประโยชน์กับบริษัทซีทีเอช ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดให้กับเครื่องหมายการค้า CTH โดยที่จีเอ็มเอ็ม บี ไม่ได้รับประโยชน์ หรือค่าตอบแทนจากซีทีเอช
เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ต่างๆ ข้างต้นจะพบว่า อาจส่งผลให้นายวิชัย และ/หรือ BEC และ/หรือบริษัทซีทีเอช ได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่นๆ และทำให้เจ้าหนี้รายอื่นๆ ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว
ขณะที่ GRAMMY ยังแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่ บริษัท ฟ็อกซ์ เน็ตเวิร์ค กรุ๊ป เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ฟ้องบริษัทฯ และธนาคารพาณิชย์เป็นจำเลยในคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง สืบเนื่องจากคดีที่จีเอ็มเอ็ม บี ได้ค้างชำระค่าสิทธิตามสัญญาตั้งแต่สิ้นเดือน ก.ย.58 ถึงเดือน ก.พ.59 เป็นเงิน 5,739,999.99 เหรียญสหรัฐ โดยขอศาลเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ที่ออกหนังสือค้ำประกันชำระค่าสิทธิค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 3 ต่อเดือน รวมเป็น 6,147,999.99 เหรียญสหรัฐ หรือทุนทรัพย์ตามฟ้องเป็นเงิน 220,053,519.24 บาท
ปัจจุบัน คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอการไกล่เกลี่ย และนัดชี้สองสถาน ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 ส.ค.59 เวลา 13.30 น. และเลื่อนการพิจารณานัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ 26 ส.ค.59 เวลา 9.30 น.