xs
xsm
sm
md
lg

ทำไม “ขวัญชัย” ต้องหนี(ตาย)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

เป็นไปตามคาด นายขวัญชัย ไพรพนา หรือ “ขวัญชัย สาระคำ” แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดอุดรธานี หายหัวไปอย่างไร้ร่องรอย กลายเป็นนักโทษหนีคดีอีกคน เช่นเดียวกับ “นายใหญ่” นายทักษิณ ชินวัตร

ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกนายขวัญชัย 2 ปี ปรับอีก 350,000 บาท คดีนำคนเสื้อแดงบุกทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศีลปาคม จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม2551

โทษที่ได้รับไม่ได้หนักหนาอะไรนัก แต่ทำไมนายขวัญชัยจึงต้องหนี

การที่นายขวัญชัยไม่ยอมติดคุก ไม่ใช่เพราะเหตุผลประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย ตามที่ นางอาภรณ์ สาระคำ ภรรยาออกมากล่าวอ้างแน่ เพราะการไม่ยอมรับความผิด การปฏิเสธกฎหมาย โดยอ้างว่าประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น เป็นคำอ้างของพวกบ้า พวกตะแบงทั้งสิ้น

ถ้าเป็นพระก็เป็นพระบ้า ถ้าเป็นฆราวาส ก็เป็นคนสติไม่สมประกอบ เช่น พระเสื้อแดงหรือคนเสื้อแดง

คนที่กระทำความผิด ถ้าอ้างว่าประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย จึงไม่ยอมมอบตัวหรือไม่ยอมรับโทษตามกฎหมาย เหมือนธัมมชโยและนายขวัญชัย ประเทศนี้คงเกิดกลียุคไปแล้ว

จำคุกเพียง 2 ปี ไม่น่าจะทำให้นายขวัญชัยหนีหัวซุกหัวซุน เพราะก้มหน้ารับกรรม ไม่นานก็พ้นโทษ โดย “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์โฆษกพรรคเพื่อไทยก็เพิ่งพ้นโทษออกมา

จ.ส.ต.ประสิทธ์ ไชยศีรษะ หัวโจกเสื้อแดง ที่ติดคุกในความผิดมาตรา112 ก็ได้รับการอภัยโทษออกจากคุกมา และกำลังเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนทางการเมือง จนมีแนวโน้มอาจต้องกลับเข้าคุกรอบใหม่

ไม่มีเหตุอันควรที่หัวโจกคนเสื้อแดงจังหวัดอุดรฯ จะกลัวคุก แต่เป็นไปได้ไหมว่า นายขวัญชัยกลัวจะไม่ได้ออกมาจากคุก เพราะก่อคดีไว้เยอะ สร้างศัตรูไว้มากมาย มีโจทก์อยากจะแก้แค้นอยู่นับไม่ถ้วน

ในช่วงที่นายทักษิณมีอำนาจ ยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นายขวัญชัยใหญ่คับฟ้า ทำผิดอะไรไม่ต้องกลัวกฎหมาย ไม่ต้องกลัวตำรวจจับ

แม้แต่นำอันธพาลเสื้อแดง บุกรุมสกรัมทำร้ายนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หนองประจักษ์กลางวันแสกๆ ตำรวจยังยืนดูหน้าตาเฉย

แม้จะแต่งตัวคล้ายนายตำรวจใหญ่ ก็ไม่ถูกดำเนินคดี และแม้แต่พาพวกบุกอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่รังสิต เป็นเหตุให้ทหารถูกยิงเสียชีวิตก็ไม่มีความผิดใดๆ

จากคนธรรมดาที่ไม่มีเขี้ยวมีเล็บ แทบไม่มีใครรู้จัก แต่เพราะการก้มหัวรับใช้ “ทักษิณ” ทำให้นายขวัญชัยนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลของจังหวัดอุดรฯ มีฐานะขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา กร่างได้เต็มที่เพราะมีอำนาจรัฐปกป้อง

นายขวัญชัยได้รับบทบาทเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่ถูกชักใยให้เดินงานด้านปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดง เช่นเดียวกับแกนนำเสื้อแดงคนอื่น เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์หรือนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ โดยสมุน “ทักษิณ” เหล่านี้เหิมเกริมถึงขั้นยุยงให้เกิดการเผาบ้านเผาเมือง

แต่หลังจากรัฐบาลนางสาวยิ่งรัฐถูกโค่นล้ม นายขวัญชัยคงรู้ตัวดีว่า จะกร่างเหมือนเก่าไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีอำนาจรัฐคุ้มหัว จึงลดบทบาทตัวเองลง หมกตัวเงียบในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม วิบากกรรมที่ก่อไว้ได้ตามมาเล่นงาน เช่นเดียวกับลูกสมุนที่เคยรับใช้ “ทักษิณ” คนอื่นๆ ไม่ว่า พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกจับในข้อหาฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ ธัมมชโย ที่ถูกประกาศจับ และแม้แต่ “ปอ ประตูน้ำ” ที่เคยมีข่าว เคยส่งลูกน้องมาป่วน กปปส. ซึ่งเพิ่งถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก12 ปี ในข้อหาบุกรุกทะเล

คดีปลุกระดมคนเสื้อแดงบุกทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 นายขวัญชัยรู้ตัวว่าไม่รอดแน่ จึงไม่ยอมมาฟังคำตัดสินของศาล และน่าจะเผ่นออกนอกประเทศไปแล้ว

เพราะถ้าอยู่ในประเทศ คงไม่มีใครคุ้มหัวได้ และไม่มีที่ปลอดภัยให้นายขวัญชัยได้ซุกหัว

นายขวัญชัยก่อกรรมทำเข็ญไว้มาก เมื่อไม่มีนายใหญ่คอยเป็นเกราะคุ้มกัน จึงกลัวถูกเอาคืน เพราะขนาดมีรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์คุ้มหัวอยู่ ยังถูกลอบสังหารคาบ้านพัก จนขวัญหนีดีฝ่อไปพักใหญ่

คนเสื้อแดงที่ติดคุกในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ได้รับการดูแลอย่างดี มีการจัดคุกพิเศษ มีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการอย่างดี ส่วนนายขวัญชัยถ้าเข้าคุกตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร มีใครรอล้างแค้นอยู่หรือไม่ จะรอดออกมาหรือเปล่า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยนายขวัญชัยจึงต้องหนีตามนายใหญ่ และไม่รู้ว่า หัวหดมุดหลบอยู่ที่ไหน

ชะตากรรมลูกสมุนที่รับใช้ “ทักษิณ” จุดจบคล้ายๆ กันหมด ไม่หนีหัวซุกหัวซุนก็ต้องชดใช้กรรมในคุก

แต่ “ขวัญชัย ไพรพนา” ไม่ใช่ลูกสมุน “ทักษิณ” คนสุดท้ายที่ต้องก้มหน้ารับกรรม เพราะยังมีหัวโจกคนเสื้อแดงอีกมากมาย รอคิวเข้าคุก รวมทั้งลูกสมุน “ทักษิณ” ระดับตัว “พ่อ” และตัว “แม่” ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น