ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะรักษาการ ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้านว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. และพนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว โบรกเกอร์สาว ผู้ต้องหาในคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ เนื่องจากขณะเข้าจับกุม พ.ต.ท.บรรยินที่ลานจอดรถหน้าอาคารทาวน์สแควร์ โรงแรมทอสคาน่า สวีท วัลเลย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ชุดจับกุมพบ น.ส.อุรชาอยู่กับพ.ต.ท.บรรยิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.บรรยินและ น.ส.อุรชาเคยให้การในคดีการโอนหุ้นว่าไม่เคยรู้จักกัน
ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นการให้ปากคำในภาพรวมของทั้ง 2 คดี ทั้งคดีการเสียชีวิตและคดีโอนหุ้น นอกจากนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบปากคำพนักงานโรงแรม รวมทั้งพยานแวดล้อม ในประเด็นที่ว่า พ.ต.ท.บรรยินเดินทางมากับใคร มาทำอะไร พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ต รวมทั้งห้องพักที่พ.ต.ท.บรรยินเข้าพักที่รีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งอาจจะรวมถึงกลุ่มเพื่อนของ พ.ต.ท.บรรยินที่ไปตีกอล์ฟในวันดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.ชาญกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนได้นำรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นพานาเมรา สีดำทะเบียนป้ายแดง ท 6832 กทม. ซึ่งตรวจยึดได้ขณะที่ น.ส.อุรชาขับบริเวณถนนมิตรภาพ มุ่งหน้ากรุงเทพฯ โดยเป็นรถคันเดียวกันกับรถที่ พ.ต.ท.บรรยินขับมาที่รีสอร์ตดังกล่าว มาทำการส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ได้ส่งเอกสารหลักฐาน หนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.บรรยินและ น.ส.อุรชา คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ภายในบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยินและ น.ส.อุรชา มาทำการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดีเช่นกัน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.บรรยินระบุว่าการจับกุมครั้งนี้ส่อไปในทางดิสเครดิต เนื่องจากไม่ได้มีการออกหมายเรียกมาก่อนนั้น พล.ต.ต.ชาญชี้แจงว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และมีอัตราโทษ ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา สามารถออกหมายจับได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการออกหมายจับในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลจังหวัดพระโขนง ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นควรที่จะออกหมายจับ เชื่อว่าหลักฐานที่ทางตำรวจมีทั้งภาพวงจรปิด ผลตรวจรถยนต์จากผู้เชี่ยวชาญ และผลชันสูตรศพของแพทย์ รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ สามารถเอาผิดได้
ด้าน พ.ต.อ.จิรภพเปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก น.ส.อุรชา เข้ามาให้ปากคำในวันอังคารที่ 5 ก.ค. ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้น ยังขอเป็นความลับ แต่เป็นการให้ปากคำในภาพรวมของทั้ง 2 คดี ทั้งคดีการเสียชีวิตและคดีโอนหุ้น
ขณะที่นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยินได้รับการประกันตัวว่า เคารพดุลพินิจของศาล เชื่อว่าศาลให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทุกคน แต่หาก พ.ต.ท.บรรยินไม่ได้ประกันเป็นการดีกับตนและพวก ในเรื่องของความปลอดภัย และเรื่องอื่นๆ ภายหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปขอปรึกษากับทางทนายความก่อน
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า ทาง สตม.ได้ขึ้นบัญชีบัญชีดำหรือแบล็กลิสต์ ห้าม พ.ต.ท.บรรยิน ออกนอกประเทศแล้ว เนื่องจากโดยปกติแล้วบุคคลใดที่มีหมายจับ ทางฐานข้อมูลของ สตม.จะขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์โดยอัตโนมัติ และกำชับให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ทุกด่านกวดขันอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจุดผ่านแดน และท่าอากาศยานต่างๆ ทั่วประเทศ
ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นการให้ปากคำในภาพรวมของทั้ง 2 คดี ทั้งคดีการเสียชีวิตและคดีโอนหุ้น นอกจากนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบปากคำพนักงานโรงแรม รวมทั้งพยานแวดล้อม ในประเด็นที่ว่า พ.ต.ท.บรรยินเดินทางมากับใคร มาทำอะไร พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ต รวมทั้งห้องพักที่พ.ต.ท.บรรยินเข้าพักที่รีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งอาจจะรวมถึงกลุ่มเพื่อนของ พ.ต.ท.บรรยินที่ไปตีกอล์ฟในวันดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.ชาญกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนได้นำรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นพานาเมรา สีดำทะเบียนป้ายแดง ท 6832 กทม. ซึ่งตรวจยึดได้ขณะที่ น.ส.อุรชาขับบริเวณถนนมิตรภาพ มุ่งหน้ากรุงเทพฯ โดยเป็นรถคันเดียวกันกับรถที่ พ.ต.ท.บรรยินขับมาที่รีสอร์ตดังกล่าว มาทำการส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ได้ส่งเอกสารหลักฐาน หนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.บรรยินและ น.ส.อุรชา คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ภายในบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยินและ น.ส.อุรชา มาทำการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดีเช่นกัน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.บรรยินระบุว่าการจับกุมครั้งนี้ส่อไปในทางดิสเครดิต เนื่องจากไม่ได้มีการออกหมายเรียกมาก่อนนั้น พล.ต.ต.ชาญชี้แจงว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และมีอัตราโทษ ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา สามารถออกหมายจับได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการออกหมายจับในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลจังหวัดพระโขนง ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นควรที่จะออกหมายจับ เชื่อว่าหลักฐานที่ทางตำรวจมีทั้งภาพวงจรปิด ผลตรวจรถยนต์จากผู้เชี่ยวชาญ และผลชันสูตรศพของแพทย์ รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ สามารถเอาผิดได้
ด้าน พ.ต.อ.จิรภพเปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก น.ส.อุรชา เข้ามาให้ปากคำในวันอังคารที่ 5 ก.ค. ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้น ยังขอเป็นความลับ แต่เป็นการให้ปากคำในภาพรวมของทั้ง 2 คดี ทั้งคดีการเสียชีวิตและคดีโอนหุ้น
ขณะที่นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยินได้รับการประกันตัวว่า เคารพดุลพินิจของศาล เชื่อว่าศาลให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทุกคน แต่หาก พ.ต.ท.บรรยินไม่ได้ประกันเป็นการดีกับตนและพวก ในเรื่องของความปลอดภัย และเรื่องอื่นๆ ภายหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปขอปรึกษากับทางทนายความก่อน
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า ทาง สตม.ได้ขึ้นบัญชีบัญชีดำหรือแบล็กลิสต์ ห้าม พ.ต.ท.บรรยิน ออกนอกประเทศแล้ว เนื่องจากโดยปกติแล้วบุคคลใดที่มีหมายจับ ทางฐานข้อมูลของ สตม.จะขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์โดยอัตโนมัติ และกำชับให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ทุกด่านกวดขันอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจุดผ่านแดน และท่าอากาศยานต่างๆ ทั่วประเทศ