ผู้จัดการรายวัน360 - กองปราบฯออกหมายเรียก “ป้อนข้าว” โบรกเกอร์สาวผู้ต้องหาในคดีโอนหุ้น นัด 5 ก.ค.นี้ สอบเชื่อมโยงคดีฆ่า “ชูวงษ์” เผยให้การไม่เคยรู้จัก “บรรยิน” แต่ดันอยู่ขณะ ตร.รวบ “บรรยิน” ที่รีอร์ทเขาใหญ่วันก่อน พร้อมยึดรถปอร์เช่ ขณะ “โบรกเกอร์สาว” บึ่งเข้ากรุง ระบุเป็นคันเดียวที่ “บรรยิน” ขับไปเขาใหญ่ก่อนถูกจับ ยึดโน้ตบุ๊ค-มือถือหาเบาะแสด้วย รรท.ผบก.ป.แจงไม่ขอหมายเรียก เหตุคดีโทษหนัก ยันไม่กลั่นแกล้งใคร “พี่สาวชูวงษ์” ห่วงความปลอดภัยหลังศาลให้ประกัน “บรรยิน”
วานนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จากรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หลังชุดสืบสวนกองปราบปรามพบว่า พ.ต.ท.บรรยินมีส่วนเกี่ยวข้องว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. และพนักงานสอบสวน ออกหมายเรียก น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว โบรกเกอร์สาว ผู้ต้องหาในคดีการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ
“การเรียกเข้าสอบปากคำครั้งนี้สืบเนื่องจากขณะเข้าจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ที่ลานจอดรถหน้าอาคารทาวน์สแควร์ โรงแรมทอซคาน่า สวีท วัลเลย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ชุดจับกุมพบ น.ส.อุรชา อยู่กับ พ.ต.ท.บรรยิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.บรรยิน และ น.ส.อุรชา เคยให้การในคดีการโอนหุ้นว่าไม่เคยรู้จักกัน”
** ยึด “ปอร์เช่” พร้อมโน้ตบุ๊ค-มือถือ
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอการเข้าพบตามหมายเรียก ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นการให้ปากคำในภาพรวมของทั้ง 2 คดี ทั้งคดีการเสียชีวิต และคดีโอนหุ้น นอกจากนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบปากคำพนักงานโรงแรม รวมทั้งพยานแวดล้อม ในประเด็นที่ว่า พ.ต.ท.บรรยิน เดินทางมากับใคร มาทำอะไร พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ต รวมทั้งห้องพักที่ พ.ต.ท.บรรยินเข้าพักที่รีสอร์ตดังกล่าว อาจรวมถึงกลุ่มเพื่อนของ พ.ต.ท.บรรยินที่ไปตีกอล์ฟในวันดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้นำรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นพานาเมรา สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ท 6832 กทม. ที่ตรวจยึดได้ขณะที่ น.ส.อุรชา ขับบริเวณถนนมิตรภาพมุ่งหน้าเข้า กทม. โดยรถคันดังกล่าวเป็นคันเดียวกันกับรถที่ พ.ต.ท.บรรยิน ขับมาที่รีสอร์ตดังกล่าว มาส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ได้ส่งเอกสารหลักฐาน หนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.บรรยิน และน.ส.อุรชา คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ภายในบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยิน และ น.ส.อุรชา มาทำการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดีเช่นกัน
** แจงคดีโทษหนักขอหมายจับได้ทันที
สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยินได้ให้สัมภาษณ์ว่าถูกดิสเครดิตจากการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากทางตำรวจกองปราบปรามไม่ได้มีการออกหมายเรียกมาก่อนนั้น พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า ชุดสืบสวนกองปราบปรามไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ในคดีดังกล่าวนั้นเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และมีอัตราโทษซึ่งไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา สามารถออกหมายจับได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการออกหมายจับในครั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลจังหวัดพระโขนง และศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นควรที่จะออกหมายจับ เชื่อว่าหลักฐานที่ทางตำรวจมีทั้งภาพวงจรปิด ผลตรวจรถยนต์จากผู้เชี่ยวชาญ และผลชันสูตรศพของแพทย์ รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ ที่สามารถเอาผิดได้
ด้าน พ.ต.อ.จิรภพเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก น.ส.อุรชา เข้ามาให้ปากคำในวันที่ 5 ก.ค. ส่วนจะสอบปากคำในประเด็นใดบ้างนั้นยังขอเป็นความลับ แต่เป็นการให้ปากคำในภาพรวมของทั้ง 2 คดี ทั้งคดีการเสียชีวิต และคดีโอนหุ้น
** พี่สาวเคารพศาลให้ประกัน “บรรยิน”
ทางด้าน นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้ให้ประกันตัว พ.ต.ท.บรรยินด้วยหลักทรัพย์ 2 ล้านบาทว่า ตนเคารพดุลพินิจของศาล เชื่อว่าศาลให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ต้องหาทุกคน ส่วนตัวมองว่าหาก พ.ต.ท.บรรยินไม่ได้ประกันตัวจะเป็นการดีต่อตนและพวกในเรื่องของความปลอดภัย และเรื่องอื่นๆมากกว่า อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปขอปรึกษากับทางทนายความก่อน.
