ผู้จัดการรายวัน 360 - “วิษณุ” ไล่อ่านคำพิพากษาศาลอังกฤษยึดทรัพย์ “พ่อค้าจีที 200” ก่อนเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาช่องขอเฉลี่ยค่าชดเชย มึนที่ผ่านมาไม่เห็นทำอะไรกันเลย เล็งฟ้องศาลในประเทศหากพบมีเอเย่นท์ในไทย ด้าน “เลขาฯศอตช.” ระบุกำลังประสาน สตง.ก่อนชง “บิ๊กต๊อก” ด้านโฆษก กห.เผย "3 เหล่าทัพ- กรมราชองครักษ์" ฟ้อง 2 บริษัทขายจีที200 “บิ๊กป้อม” สั่งกองทัพสนับสนุนข้อมูล "ดีเอสไอ-อสส." เอาผิดคดีอาญา ยังไม่สรุปฟ้องแพ่งซ้ำเรียกค่าเสียหาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามเรียกเงินเยียวยากับบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม หรือ จีที 200 หลังจากศาลอังกฤษมีคำสั่งยึดทรัพย์บริษัทผู้ผลิตและผู้ขายจีที 200 ให้แก่หน่วยงานภาครัฐของไทยไปก่อนหน้านี้ว่า จากนี้จะนำคำพิพากษาของศาลอังกฤษมาศึกษา และจะนัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม รวมทั้งเชิญหน่วยงานที่เคยจัดซื้อเครื่องดังกล่าวมาหารือร่วมกันในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ทั้งหมดที่ตนดำเนินการเป็นเฉพาะเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหาย ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทุจริตจัดซื้อ เพราะเป็นเรื่องของป.ป.ช. และข้อมูลที่มีขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะให้เป็นคดีพิเศษ
** “วิษณุ” หาช่องขอเอี่ยวค่าชดเชย
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการตรวจสอบของ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุริตแหง่ชาติ (ศอตช.) ได้ให้ดำเนินการไป โดยจะมีการประสารข้อมูลกันกับของตน ซึ่งจะได้ความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังจากศึกษาคำพิพากษาศาลอังกฤษ เพราะต้องดูว่าเรื่องนี้ใครไปฟ้องข้อหาอะไร แล้วศาลตัดสินว่าอย่างไร และทำไมประเทศไทยไม่ได้ดำเนินการอะไรในช่วงที่ผ่านมา แล้วประเทศไทยดำเนินการตอนนี้จะได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดที่ผ่านมาเราไม่เคยออกมาระบุว่าได้รับผลกระทบ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไร แต่วันนี้สิ่งที่ตนรับผิดชอบคือ เราจะไปขอเฉลี่ยทรัพย์ตามคำสั่งศาลที่ยึดไว้ได้หรือไม่ ถ้าได้น้อยหรือไม่ได้เลย เราจะเรียกร้องได้หรือไม่ โดยใช้คำพิพากษาดังกล่าวเป็นตัวตั้ง เพราะถ้าจะมีการฟ้องร้องใหม่คำพิพากษานี้จะเป็นหลักฐานหนึ่ง เบื้องต้นคงให้ อสส.เป็นผู้ดำเนินการ
เมื่อถามว่า คดีลักษณะนี้มีอายุความหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีอยู่ แต่ต้องไปศึกษารายละเอียดก่อน รวมถึงการตัดสินใจจะฟ้องศาลอังกฤษหรือศาลไทยจะต้องดูกันอีกครั้ง แต่ถ้าจะเฉลี่ยทรัพย์คงต้องไปที่ศาลอังกฤษ ซึ่งต้องหาช่องทางก่อน
เมื่อถามว่า จะตรวจสอบตัวจำหน่ายในประเทศไทยด้วยได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ก็อาจจะฟ้องร้องได้
** ทอ.-ป.ป.ส.ทำนิ่งไม่ร้องทุกข์
ด้าน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานกับ สตง.แล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า สตง.จะส่งข้อเท็จจริงมาให้ ศอตช.ประมวลข้อมูลก่อนเสนอให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธาน ศอตช. เพื่อเชิญประชุมหน่วยงานตรวจสอบเข้าหารือ โดยในที่ประชุมจะได้ติดตามการทำงานของหน่วยงานต่างๆที่เป็นกลไกของ ศอตช. ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช.ที่รับสำนวนคดีจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 พร้อมสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อมูลในชั้นสอบสวนคดีกองทัพอากาศและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พบว่า เป็น 2 หน่วยงานที่ไม่เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษว่าได้รับความเสียหายถูกหลอกลวงขายเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิดและสารเสพติดจากเครือข่ายบริษัทของประเทศอังกฤษ
** "3เหล่าทัพ- ก.ราชองครักษ์" ลุยฟ้อง
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ติดตามความคืบหน้าการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ขายเครื่องตรวจจับสารวัตถุระเบิดจีที 200ว่า พล.อ.ประวิตรได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม เชิญหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมที่จัดซื้อจีที 200 มาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในฟ้องร้องดำเนินคดีตามคำแนะนำของ สตง.ตั้งแต่ปี 2555ซึ่งพบว่า หน่วยงานที่จัดซื้อมีทั้ง กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกรมราชองครักษ์ ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บริษัท เอเวียแซทคอมในประเทศไทย และ บริษัท โกลบอล เทคนิคอล จำกัด ในต่างประเทศ ซึ่งการฟ้องร้องบริษัทในต่างประเทศ จะมีแค่กองทัพอากาศเพียงหน่วยงานเดียว เพราะจัดหาตรงจากบริษัทดังกล่าว
“ขณะนี้ขั้นตอนทางคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของดีเอสไอ เพื่อเสนอต่อพนักงานอัยการ ขณะที่การร้องทุกข์กล่าวโทษของทัพอากาศต่อบริษัทในต่างประเทศทาง อสส.จะดำเนินการ โดยทุกคดีหน่วยที่เสียหายได้ทยอยร้องทุกข์กล่าวโทษตั้งแต่ปี 2555-2556 บางหน่วยงานมีการฟ้องเฉพาะคดีอาญาเพราะฝ่ายกฎหมายระบุว่าจะมีผลต่อคดีแพ่งด้วย บางหน่วยก็มีการพิจาาณาฟ้องคดีอาญา ควบคู่ฟ้องคดีแพ่งด้วย สำหรับหน่วยที่ยังไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจะมีการพิจารณาในรายละเอียด และข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” พล.ต.คงชีพ กล่าว