ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
คณะรัฐมนตรีได้ผ่าน ร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียม ฉบับใหม่ มีเนื้อหาเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญบางส่วน เช่นการแบ่งปันผลผลิตระหว่างรัฐไทยและผู้รับสัมปทาน ระบบรับจ้างผลิตโดยจะให้บริษัท ปตท.สผ. มีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประชาชน
ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการปิโตรเลียมยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน การหารือกับหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับผลประโยชน์ในข้อตกลงสัมปทาน ที่น่าสนใจคือแนวคิดที่จะจัดตั้ง “บรรษัทพลังงานแห่งชาติ” ใหม่ ซึ่งเดิม ปตท. ได้มีบทบาทนี้ก่อนขายหุ้นให้เอกชน
นับว่ารัฐบาลคุณท่านได้โอนอ่อนผ่อนตามเสียงเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลดำเนินการให้กิจการปิโตรเลียมเอื้อประโยชน์ให้ประเทศ และประชาชนอย่างเต็มที่บนพื้นฐานของความคิด “ความมั่งคั่งของทรัพย์สินแผ่นดินไทย ต้องเป็นของคนไทย”
ไม่ควรให้คนต่างชาติเข้ามากอบโกยดังเช่นสัมปทานปิโตรเลียม เหมืองทอง หรือทรัพยากรอื่นๆ จากการอวยผลประโยชน์ในยุคผู้นำรัฐบาลกังฉิน จ้องหาส่วนแบ่งจากการให้สัมปทาน การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเอาเข้าตลาดหุ้นอ้างความจำเป็นในการระดมทุน
การให้สัมปทานป่าไม้ เหมืองแร่ดีบุก สังกะสี และกิจการอื่นๆ ประชาชนไม่เคยได้รับผลประโยชน์โดยตรงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นักการเมือง นักลงทุนต่างชาติและผู้ร่วมทุนภายในประเทศกอบโกยความมั่งคั่ง ทิ้งความทุกข์จากหายนะด้านสิ่งแวดล้อมให้ชาวบ้าน
คุณท่านผู้นำยังต้องมีภาระสำคัญในการทำงานเพื่อบ้านเมืองโดยสุจริตอย่างแท้จริง ให้สมกับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองหยุดนิ่งกับระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยปราศจากตัวแทนของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งไม่ได้เป็นมาตรการจำเป็นในการได้ตัวแทนของประชาชนไม่ เพราะที่ผ่านมามีแต่พวกนายทุน พ่อค้า กลุ่มผลประโยชน์ ลงขันรวมตัวเป็นพรรคการเมืองหาช่องทางซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจรัฐ จ้องโกงบ้านกินเมืองมูมมามนำไปสู่การรัฐประหาร
เมื่อคุณท่านเข้ามาในรูปแบบอำนาจพิเศษ ต้องใช้อำนาจพิเศษทำงานให้บ้านเมืองอย่างคุ้มค่า สมราคา ด้วยการแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ใจซื่อมือสะอาด แก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เมื่อพ้นจากอำนาจไปแล้วจะได้ไม่ต้องเผชิญกับการสาปแช่งด่าของประชาชนว่า “เสียของ”
ก่อนหน้านี้กระพ้มได้เสนอให้คุณท่านจัดตั้ง “บริษัทพลังงานแห่งชาติ” มีโครงสร้างของการเป็นเจ้าของโดยประชาชน และได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ปราศจาการครอบงำโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ สุจริต โปรงใส ตรวจสอบได้จริงจัง
กระพ้มได้เสนอให้บริษัทมีประชาชนทุกคนเป็นผู้ถือหุ้น คนละ 1 หุ้น ราคาหุ้นละหนึ่งพันบาท เมื่อมีประชากร 67 ล้านคน การระดมทุนก็จะได้ 67,000 ล้านบาท การถือหุ้นเริ่มมีสิทธิตั้งแต่การเกิดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ไม่มีการสืบทอดสิทธิการถือหุ้น
คงไม่เป็นการยากนักที่จะมีการชำระหุ้นหนึ่งพันบาท สำหรับผู้ยากไร้มีโอกาสผ่อนชำระได้ บิดา มารดา ผู้ปกครองสามารถชำระค่าหุ้นแทนบุตรหลาน แต่รายชื่อการถือหุ้นยังเป็นของเด็ก เพราะไม่มีใครมีสิทธิถือหุ้นเกิน 1 หุ้น และเป็นบริษัทมหาชนคนไทยแท้จริง
มหาเศรษฐีคนยากดีมีจนจะถือ 1 หุ้นเท่ากัน ผลตอบแทน เงินปันผลได้เท่ากัน ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ หรือขายหุ้นได้ การเพิ่มทุนจะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ถ้าจำเป็นโดยใช้เงินปันผลจ่ายแทนหุ้นจากการเพิ่มทุนได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์
รูปแบบการบริหารยังคงมีคณะกรรมการ การคัดสรร แต่งตั้งควรมีการกำหนดให้ชัดเจน และมีการจ้างซีอีโอ คณะผู้บริหาร ผ่านการตรวจสอบความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ รวมทั้งเงินค่าตอบแทน สวัสดิการ โดยมีผลประกอบการเป็นตัวประเมินสำคัญ
ความคิดเช่นนี้อาจผิดรูปแบบปกติ แต่ไม่น่าจะยากจนเป็นไปไม่ได้ ถ้าทุกฝ่ายมุ่งมั่นมีเจตนาดีร่วมกันเพื่อให้ทรัพยากรแผ่นดินก่อเกิดผลประโยชน์และความมั่งคั่งให้คนไทย
บริษัท หรือบรรษัทพลังงานแห่งชาติ ต้องเป็นเจ้าของสัมปทานทรัพยากรปิโตรเลียม โดยมีผู้รับจ้างสำรวจและผลิตคือ กลุ่ม ปตท. และ ปตท.สผ พร้อมบริษัทในเครือ จะได้รับ ผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม แต่ผลประโยชน์หลักต้องตกเป็นของบรรษัทและประเทศไทย
รูปแบบนี้ไม่น่าจะมีใครโต้แย้ง เว้นแต่จะมีกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ที่เคยได้มา!
ถ้ากลุ่มบริษัทของ ปตท. ไม่สามารถรับงานได้ทั้งหมด จากการเป็นผู้ได้รับสิทธิอันดับแรก บรรษัทย่อมพิจารณาหาผู้รับจ้างรายอื่นๆ จากต่างประเทศก็ได้ เพื่อการกระจายความเสี่ยงและการให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยี ความชำนาญในการสำรวจ ผลิต และด้านอื่นๆ
การตรวจสอบการบริหารจัดการย่อมมีทุกขั้นตอนเพื่อความโปร่งใส การรับประกันประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด การกำหนดราคาจำหน่ายสินค้าต้องให้ประชาชนได้รับประโยชน์ บรรษัทไม่มุ่งเน้นผลกำไรเชิงพาณิชย์มากเกินไปจนเสียหลักการ
ความยุ่งยากในการจัดตั้งองค์กร คณะผู้บริหาร ไม่น่าจะยากเกินไป ถ้าจำเป็นต้องว่าจ้างคณะที่ปรึกษาต่างประเทศเป็นการชั่วคราวย่อมทำได้เช่นกัน ในรูปแบบนี้ ประชาชนมีสิทธิและอำนาจเต็มที่ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ความมั่งคั่งไม่รั่วไหล
การตั้งบรรษัทโดยการระดมทุนผ่านตลาดตราสาร หรือตลาดหุ้น เท่ากับเป็นการสร้างภาระติดพัน การถือหุ้นโดยประชาชนไม่มีความจำเป็นต้องชำระคืน หรือการบริหารตกอยู่ภายไต้อิทธิพลของกลุ่มใด แม้กระทั่งนักการเมืองก็ไม่มิสิทธิอำนาจแทรกแซงได้
กระพ้มอยากให้คุณท่านพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในรูปแบบที่นำเสนอนี้ ถ้ามีความตั้งใจ จิตบริสุทธิ รัฐบาลควรตั้งคณะศึกษา และเมื่อมีช่องทางแน่นอน รูปแบบเดียวกันนี้ย่อมใช้ได้กับการจัดสรรทรัพยากรแผ่นดินอื่นๆ เช่นเกษตรกรรมแห่งชาติ
โดยรูปแบบนี้ ทรัพย์สินบนแผ่นดินไทยจะเป็นของคนไทยอย่างแท้จริง!!
โดย โสภณ องค์การณ์
คณะรัฐมนตรีได้ผ่าน ร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียม ฉบับใหม่ มีเนื้อหาเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญบางส่วน เช่นการแบ่งปันผลผลิตระหว่างรัฐไทยและผู้รับสัมปทาน ระบบรับจ้างผลิตโดยจะให้บริษัท ปตท.สผ. มีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประชาชน
ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการปิโตรเลียมยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน การหารือกับหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับผลประโยชน์ในข้อตกลงสัมปทาน ที่น่าสนใจคือแนวคิดที่จะจัดตั้ง “บรรษัทพลังงานแห่งชาติ” ใหม่ ซึ่งเดิม ปตท. ได้มีบทบาทนี้ก่อนขายหุ้นให้เอกชน
นับว่ารัฐบาลคุณท่านได้โอนอ่อนผ่อนตามเสียงเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลดำเนินการให้กิจการปิโตรเลียมเอื้อประโยชน์ให้ประเทศ และประชาชนอย่างเต็มที่บนพื้นฐานของความคิด “ความมั่งคั่งของทรัพย์สินแผ่นดินไทย ต้องเป็นของคนไทย”
ไม่ควรให้คนต่างชาติเข้ามากอบโกยดังเช่นสัมปทานปิโตรเลียม เหมืองทอง หรือทรัพยากรอื่นๆ จากการอวยผลประโยชน์ในยุคผู้นำรัฐบาลกังฉิน จ้องหาส่วนแบ่งจากการให้สัมปทาน การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเอาเข้าตลาดหุ้นอ้างความจำเป็นในการระดมทุน
การให้สัมปทานป่าไม้ เหมืองแร่ดีบุก สังกะสี และกิจการอื่นๆ ประชาชนไม่เคยได้รับผลประโยชน์โดยตรงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นักการเมือง นักลงทุนต่างชาติและผู้ร่วมทุนภายในประเทศกอบโกยความมั่งคั่ง ทิ้งความทุกข์จากหายนะด้านสิ่งแวดล้อมให้ชาวบ้าน
คุณท่านผู้นำยังต้องมีภาระสำคัญในการทำงานเพื่อบ้านเมืองโดยสุจริตอย่างแท้จริง ให้สมกับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองหยุดนิ่งกับระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยปราศจากตัวแทนของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง
การเลือกตั้งไม่ได้เป็นมาตรการจำเป็นในการได้ตัวแทนของประชาชนไม่ เพราะที่ผ่านมามีแต่พวกนายทุน พ่อค้า กลุ่มผลประโยชน์ ลงขันรวมตัวเป็นพรรคการเมืองหาช่องทางซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจรัฐ จ้องโกงบ้านกินเมืองมูมมามนำไปสู่การรัฐประหาร
เมื่อคุณท่านเข้ามาในรูปแบบอำนาจพิเศษ ต้องใช้อำนาจพิเศษทำงานให้บ้านเมืองอย่างคุ้มค่า สมราคา ด้วยการแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ใจซื่อมือสะอาด แก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เมื่อพ้นจากอำนาจไปแล้วจะได้ไม่ต้องเผชิญกับการสาปแช่งด่าของประชาชนว่า “เสียของ”
ก่อนหน้านี้กระพ้มได้เสนอให้คุณท่านจัดตั้ง “บริษัทพลังงานแห่งชาติ” มีโครงสร้างของการเป็นเจ้าของโดยประชาชน และได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ปราศจาการครอบงำโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ สุจริต โปรงใส ตรวจสอบได้จริงจัง
กระพ้มได้เสนอให้บริษัทมีประชาชนทุกคนเป็นผู้ถือหุ้น คนละ 1 หุ้น ราคาหุ้นละหนึ่งพันบาท เมื่อมีประชากร 67 ล้านคน การระดมทุนก็จะได้ 67,000 ล้านบาท การถือหุ้นเริ่มมีสิทธิตั้งแต่การเกิดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ไม่มีการสืบทอดสิทธิการถือหุ้น
คงไม่เป็นการยากนักที่จะมีการชำระหุ้นหนึ่งพันบาท สำหรับผู้ยากไร้มีโอกาสผ่อนชำระได้ บิดา มารดา ผู้ปกครองสามารถชำระค่าหุ้นแทนบุตรหลาน แต่รายชื่อการถือหุ้นยังเป็นของเด็ก เพราะไม่มีใครมีสิทธิถือหุ้นเกิน 1 หุ้น และเป็นบริษัทมหาชนคนไทยแท้จริง
มหาเศรษฐีคนยากดีมีจนจะถือ 1 หุ้นเท่ากัน ผลตอบแทน เงินปันผลได้เท่ากัน ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ หรือขายหุ้นได้ การเพิ่มทุนจะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ถ้าจำเป็นโดยใช้เงินปันผลจ่ายแทนหุ้นจากการเพิ่มทุนได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์
รูปแบบการบริหารยังคงมีคณะกรรมการ การคัดสรร แต่งตั้งควรมีการกำหนดให้ชัดเจน และมีการจ้างซีอีโอ คณะผู้บริหาร ผ่านการตรวจสอบความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ รวมทั้งเงินค่าตอบแทน สวัสดิการ โดยมีผลประกอบการเป็นตัวประเมินสำคัญ
ความคิดเช่นนี้อาจผิดรูปแบบปกติ แต่ไม่น่าจะยากจนเป็นไปไม่ได้ ถ้าทุกฝ่ายมุ่งมั่นมีเจตนาดีร่วมกันเพื่อให้ทรัพยากรแผ่นดินก่อเกิดผลประโยชน์และความมั่งคั่งให้คนไทย
บริษัท หรือบรรษัทพลังงานแห่งชาติ ต้องเป็นเจ้าของสัมปทานทรัพยากรปิโตรเลียม โดยมีผู้รับจ้างสำรวจและผลิตคือ กลุ่ม ปตท. และ ปตท.สผ พร้อมบริษัทในเครือ จะได้รับ ผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม แต่ผลประโยชน์หลักต้องตกเป็นของบรรษัทและประเทศไทย
รูปแบบนี้ไม่น่าจะมีใครโต้แย้ง เว้นแต่จะมีกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ที่เคยได้มา!
ถ้ากลุ่มบริษัทของ ปตท. ไม่สามารถรับงานได้ทั้งหมด จากการเป็นผู้ได้รับสิทธิอันดับแรก บรรษัทย่อมพิจารณาหาผู้รับจ้างรายอื่นๆ จากต่างประเทศก็ได้ เพื่อการกระจายความเสี่ยงและการให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยี ความชำนาญในการสำรวจ ผลิต และด้านอื่นๆ
การตรวจสอบการบริหารจัดการย่อมมีทุกขั้นตอนเพื่อความโปร่งใส การรับประกันประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด การกำหนดราคาจำหน่ายสินค้าต้องให้ประชาชนได้รับประโยชน์ บรรษัทไม่มุ่งเน้นผลกำไรเชิงพาณิชย์มากเกินไปจนเสียหลักการ
ความยุ่งยากในการจัดตั้งองค์กร คณะผู้บริหาร ไม่น่าจะยากเกินไป ถ้าจำเป็นต้องว่าจ้างคณะที่ปรึกษาต่างประเทศเป็นการชั่วคราวย่อมทำได้เช่นกัน ในรูปแบบนี้ ประชาชนมีสิทธิและอำนาจเต็มที่ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ความมั่งคั่งไม่รั่วไหล
การตั้งบรรษัทโดยการระดมทุนผ่านตลาดตราสาร หรือตลาดหุ้น เท่ากับเป็นการสร้างภาระติดพัน การถือหุ้นโดยประชาชนไม่มีความจำเป็นต้องชำระคืน หรือการบริหารตกอยู่ภายไต้อิทธิพลของกลุ่มใด แม้กระทั่งนักการเมืองก็ไม่มิสิทธิอำนาจแทรกแซงได้
กระพ้มอยากให้คุณท่านพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในรูปแบบที่นำเสนอนี้ ถ้ามีความตั้งใจ จิตบริสุทธิ รัฐบาลควรตั้งคณะศึกษา และเมื่อมีช่องทางแน่นอน รูปแบบเดียวกันนี้ย่อมใช้ได้กับการจัดสรรทรัพยากรแผ่นดินอื่นๆ เช่นเกษตรกรรมแห่งชาติ
โดยรูปแบบนี้ ทรัพย์สินบนแผ่นดินไทยจะเป็นของคนไทยอย่างแท้จริง!!
