เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) นักลงทุนขายทำกำไรหลังขยับขึ้น 3 วันติดจนแตะระดับสูงสุดรอบ 11 เดือน ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบจากแรงฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารก่อนหน้าเฟดจะประชุมในสัปดาห์หน้า ปัจจัยดังกล่าวช่วยดันราคาทองคำพุ่งแรงกว่า 10 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 67 เซ็นต์ ปิดที่ 50.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากก่อนหน้านี้หนึ่งวันปิดระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 56 เซ็นต์ ปิดที่ 51.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“มีความเป็นไปได้ที่การปรับลดเล็กน้อยจะพัฒนาสู่การดิ่งลงมากกว่านี้ แต่จนถึงตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นแค่การปรับฐานทางเทคนิค ตามหลังการขยับขึ้นต่อเนื่อง 3 วัน” ทิม อีแวนส์ จากซิตี ฟิวเจอร์สกล่าว ส่วนคาร์ล แลร์รี ของฟรอสต์ แอนด์ ซุลลิแวน ระบุว่า “มีแรงขายทำกำไรเล็กน้อย แต่ตลาดยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก”
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ถูกฉุดจากหุ้นกลุ่มภาคการเงินและบริษัทพลังงาน
ดาวโจนส์ลดลง 19.86 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,985.19 จุด เอสแอนด์พีลดลง 3.64 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,115.48 จุด แนสแดคลดลง 16.02 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,958.62 จุด
แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก ต่างปิดลบ 1.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโกลด์แมน แซคส์, เจ.พี. มอร์แกน เชส และสถาบันการเงินอื่นๆ ก็ขยับลงถ้วนหน้า ก่อนหน้าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ จะเปิดประชุมในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความคาดหมายว่าไม่มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย สืบเนื่องด้วยข้อมูลภาคแรงงานประจำเดือนพฤษภาคมที่อ่อนแอของอเมริกา
นอกจากนี้แล้ววอลล์สตรีทยังเคลื่อนไหวตามตลาดทุนโลกที่ได้รับผลกระทบจากความเห็นของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่เตือนว่านโยบายทางการเงินเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะเบี่ยงยุโรปออกจากความเสี่ยงประสบความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างเรื้อรังจากผลผลิตที่อ่อนแอและการเติบโตระดับต่ำ
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) ทะยานแรงแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม จากความคาดหมายว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกหลายเดือน ทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 10.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,272.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม
