เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นจ่อระดับ 50 ดอลลาร์ในวันพุธ (25 พ.ค.) หลังพบสต๊อกสหรัฐฯ ลดฮวบบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ปัจจัยทางพลังงานดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง แต่ทองคำปิดลบพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 94 เซ็นต์ ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุในรายงานประจำสัปดาห์เมื่อวันพุธ (25 พ.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 พฤษภาคม เป็น 537.1 ล้านบาร์เรล แม้จะยังอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ แต่มันก็ก่อความคาดหมายว่าตลาดกำลังตึงตัว
ปัจจัยทางพลังงานและความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางเฟด (สหรัฐฯ) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ช่วยให้ตลาดหุ้นอเมริกาพุ่งแรงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันพุธ (25 พ.ค.)
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 145.46 จุด (0.82 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,851.51 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 14.48 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,090.54 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 33.84 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,894.89 จุด
หุ้นภาคพลังงานเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ขยับขึ้นแรงที่สุดในวอลล์สตรีท หลังราคาน้ำมันสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปี โดยเอ็กซอนโมบิล และเชฟรอน ปิดบวก 0.7 เปอร์เซ็นต์ กับ 1.6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ขณะที่บริษัทปิโตรเลียมขนาดกลางอย่าง มาราธอนออยและอนาดาร์โก ปิโตรเลียม ทะยานเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้แล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารกลาง จากแนวโน้มความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ประกอบกับการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ เบี่ยงนักลงทุนจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำในวันพุธ (25 พ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 5.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
