ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชนเกียร์ต่ำ ผ่อนเครื่องแผ่วเบาคลายความร้อนแรง หลังทยอยปลดแอกกฎเหล็กที่ล้อมคอกนักการเมืองเอาไว้ ตั้งแต่เปิดรูระบายให้ฝอยน้ำลายแตกฟอง ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี อนุญาตให้นักการเมืองพะยี่ห้อพรรคเพื่อไทย สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เว้นแต่พวกมีชนักปักหลัง มีเรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และพวกที่อยู่ในบัญชีดำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวแสบ มักออกลูกดื้อกับแป๊ะ ต้องอนุญาตก่อนเหมือนกัน หรือกระทั่งล่าสุดเปลี่ยนบรรยากาศการเข้ารายงานตัวมาใช้ศาลากลางจังหวัด
หมากกระดานนี้เจตนาคสช.ชัดว่า ต้องการผ่อนคลายบรรยากาศภายในประเทศให้ดูเบาลง หลังก่อนหน้านี้ใช้ไม้แข็งไล่หวดฝ่ายต่อต้านไม่เลือกหน้า จนจุดกระแสละเมิดสิทธิมนุษยชนให้ดูตึงเครียดทั้งภายใน และภายนอกประเทศ เอาเป็นว่า ที่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. และ“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกปาวๆว่า ไม่เกี่ยวกับใครกดดัน แต่อยากยกเลิก เพราะสถานการณ์ดีขึ้น ไม่ใช่เหฃตุผลหลัก
เพราะสถานการณ์ปัจจุบันนั้นสุ่มเสี่ยงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการทำประชามติ ฝ่ายตรงข้ามหาช่องทางคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ กันรายวัน นายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็โฉบผ่านประเทศไทยไปมาอยู่หลายรอบในระยะหลังๆ แต่เพราะแป๊ะเห็นว่าการดึงดันใช้ไม้แข็งกดดันอย่างเดียว สุดท้ายจะกลายเป็นดาบสองคม โดยเฉพาะกับคนกลางๆในสังคมเริ่มมีเสียงบ่นเกี่ยวกับความอึดอัดใจว่า มันจะอะไรกันนักกันหนา
สรุปเลยว่า เป็นการผ่อนแบบภาพลวงตา เพื่อให้สังคมเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ได้เขม็งเกลียว แต่จริงๆ แล้วกฎเหล็กสำคัญของคสช.ไม่ได้หายไปไหนเลย ยังอยู่ครบถ้วนทุกอัน มาตรการที่ผ่อนเป็นลดภาพให้เบาบาง แต่ในทางปฏิบัติ ยังเข้มข้นเหมือนเดิม
แล้วมันไม่มีทางจะได้มากไปกว่านี้ ตามคำร้องขอของนักการเมืองแน่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขอจัดกิจกรรมทางการเมือง หรือการประชุมพรรคการเมือง หรือแม้กระทั่งมาตรการปรับทัศนคติ เพราะมาตรการเหล่านี้ถือเป็นอาวุธหลักในการสะกดนักการเมือง ถ้าผ่อนเมื่อไหร่ ไม่ต่างอะไรจะการปล่อยผีทั้งป่าช้าให้ออกอาละวาด ในขณะที่ตามโรดแม็ปของคสช. ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 ยังมีเวลาอีกเป็นปีๆ ถ้าปลดเปลื้องเสียตั้งแต่วันนี้ เกิดวุ่นวายขึ้นมาอีก ทิ้งกระบองไปแล้วเหลือแต่มือเปล่า ภูตผีปีศาจที่ไหนก็ไม่กลัว
วันดีคืนดีปล่อยผีไปแล้ว ครั้นอยากจะกลับมาใช้ไม้แข็งเหมือนเดิม มันไม่ง่าย อย่าลืมว่า การปล่อยผีนั้นทำง่าย แต่การจะจับผีเอามาลงหม้อลงหลุมเหมือนเดิมมันทำยาก อีกทั้งป่านนั้นคงไม่มีใครกลัวกระบองอาญาสิทธิ์ในมือคสช.แล้ว ดังนั้น การที่คสช.จะใจเด็ด ปลดล็อกมาตรการสำคัญๆ ฝันกลางวันกันไปก่อน
ยิ่งช่วงนี้อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน เลือกตั้งที่ว่าจะเกิดขึ้นปี 2560 ไม่รู้จะมีหรือไม่ เพราะวันนี้บรรยากาศการทำประชามติ ก็ชักจะยังไงชอบกล มีกลิ่นตุๆ ลอยมาหนักขึ้น จนไม่มั่นใจว่า ตกลงวันที่ 7 สิงหาคม 2559 จะยังมีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะท่าทีล่าสุดของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ มาตรา 61 พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 หรือไม่
ท่าทีของผู้ตรวจการแผ่นดินเที่ยวนี้น่าหวาดเสียว จนหลายคนสงสัยว่า เป็นรายการจงใจยื่นเรื่องเอาไว้ก่อน เพื่อการเปิดประตูหนีไฟให้กับคสช.หรือไม่ หากสุดท้ายผลลัพธ์ของมันไม่สามารถดันทุรังเดินไปถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2559 จึงหาทางหนีทีไล่ไว้รอ
ดังนั้น ยิ่งสถานการณ์มันคลุมเครือแบบนี้ ไม่มีทางที่คสช. จะละอาวุธสำคัญของตัวเอง กลับกันจะยิ่งจับไว้แน่นขึ้น เพียงแต่จะพยายามลดโทนมาตรการต่างๆ ให้เบาลงเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องรายงานตัวนั้น แม้ต่อไปจะใช้ศาลากลางจังหวัดแทนค่ายทหาร แต่ข้อตกลงเรื่องการเคลื่อนไหวระหว่างทหารกับนักการเมือง ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ต่างกันแค่สถานที่ หรือกรณีให้ออกไปนอกประเทศได้ ก็ไปได้แต่พวกปลาซิวปลาสร้อย แต่ปลาเก๋าทั้งหลาย ยังต้องเคาะประตูขอแป๊ะก่อนอยู่ดี พูดก็ไม่พูด ยังแทบไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง แค่รู้สึกกันไปเอง !
แต่ที่คนสนใจก็กรณีของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้น้อง ที่คนนินทาหมาดูถูกกันว่า ที่คสช.เปิดประตูให้หนึ่งบานไม่ต้องมาขออนุญาตเวลาไปต่างประเทศ แต่เหลือให้อีกหนึ่งบานคือ ต้องให้ไปขอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอาเอง ถ้าศาลให้ก็เหินฟ้าข้ามประเทศไปได้ เหมือนเป็นการบีบให้หนีออกนอกประเทศหรือไม่ เพราะถ้ายิ่งลักษณ์หนีไป การจัดการอะไรต่างๆ จะง่ายขึ้น โดยเฉพาะเกมมวลชน
แต่ ณ ขณะนี้ ฤกษ์พานาทีของยิ่งลักษณ์ยังไม่น่าจะไปแน่ เพราะยังเหลือเวลาให้สู้อีกหลายยก การเตลิดเปิดเปิงไปตอนนี้มีผลเสียมากกว่าลบ คดีความในชั้นศาลฎีกาฯ เพิ่งจะไต่สวนกันได้ยังไม่ถึงครึ่งทาง ขณะที่สถานการณ์ของคสช.เอง ก็ยังลูกผีลูกคน มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะการทำประชามติ ที่ยังมองไม่ออกว่า ตกลงจะมี หรือไม่มี
ขณะเดียว กระดานการต่อสู้เที่ยวนี้ระหว่างฝ่ายต่อต้านกับคสช.ยังเดาไม่ออกว่า ใครจะแพ้ ใครจะชนะ เพราะวันนี้นายใหญ่เองก็ยังดิ้นเพื่อหวังพลิกเกมกลับมา ที่สำคัญยิ่งลักษณ์ ถือเป็นขุนพลคนสำคัญในกระดานของเกมนี้ที่พี่ชายวางเอาไว้เป็นตัวขับเคลื่อนเกมต่อต้าน และกวักมือเรียกหาแนวร่วม เห็นได้จากการสมบทบาท “ปูทั่วไทย”เที่ยวตระเวนไปจังหวัดนั้นจังหวัดนี้อย่างต่อเนื่อง
อีเวนต์ของยิ่งลักษณ์มีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย พร้อมกับการโพสต์เฟซบุ๊กล้อกับสถานการณ์ภายในประเทศ แฟนคลับห้อมล้อมกันแน่นขนัด เพราะเป็นแม่เหล็กดึงดูดได้เป็นอย่างนี้ ถ้าวันนี้ดันทะลึ่งกระเจิดกระเจิงไปต่างประเทศเสียก่อน ฝ่ายต่อต้านก็หมดคีย์แมน จะเอาไปแม่ทัพที่ไหนมาสู้ แกนนำคนอื่นๆ ก็ชื่อชั้นสู้คนในตระกูลชินวัตรไม่ได้
ถ้าคิดจะหนีจริงๆ ยิ่งลักษณ์ยังมีเวลาอีกเพียบ รอให้คดีใกล้ๆ ตัดสินยังทัน เตลิดออกทางเชียงรายลัดฟ้าไปหาพี่ชายสบายปร๋อ หรือถ้าตอนนั้นสถานการณ์มันเอื้ออำนวย คสช. อยู่ในช่วงขาลงแบบกราวรูด ดีไม่ดี “ปูทั่วไทย”ใจสู้ ไม่ป๊อดเหมือนพี่ชายขึ้นมา เดินขึ้นศาลไปให้จับ อยากจะสร้างภาพนักประชาธิปไตยหญิงขึ้นมาแบบที่อองซาน ซูจี จะทำอย่างไร
ก็ดูอย่างวันนี้เดินทางไปออดอ้อนมวลชน เล่นบทเรียกความสงสาร ถึงตอนนั้นจะแห่กันมาปกป้องกันเพียบน่ะสิ!!!