xs
xsm
sm
md
lg

นิติรัฐไทยเผชิญภัยความมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

ระบบนิติรัฐไทยยังหาหนทางเหมาะสมว่าจะจัดการกับสำนักโยเยนะจ๊ะอย่างไร หลังจากอาณาจักร 4 พันไร่ถูกดัดแปลงเป็นเหมือนรัฐอิสระซ้อนรัฐไทย มีลวดหนาม กำแพง กระสอบทรายขวางเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไม่ให้เข้าไปจับกุมเจ้าสำนักมาดำเนินคดี

เมื่อใช้กระบวนการยุติธรรมแบบธรรมดาไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีการฝ่ายสงฆ์ ตามขั้นตอนของผู้มีอำนาจหน้าที่ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพียงนั่งรอว่าถ้าฝ่ายอำนาจรัฐ และอำนาจฝ่ายสงฆ์ยังทำอะไรไม่ได้ จะยังมีวิธีไหนเพื่อช่วยให้ดำรงความน่าเชื่อถือของระบบนิติรัฐไทยได้อีก

คุณท่านบอกว่ารับรองจัดการให้ได้จบในชาตินี้ วิญญูชน สาธุชน พุทธศาสนิกชนก็ได้แต่หวังว่าคุณท่านคงมีไม้เด็ด ถึงอย่างไรอำนาจตามกฎหมายของรัฐไทยย่อมเหนือกว่าขบวนการองค์กรอาชญากรรมใดๆ แม้จะซุกอยู่ภายไต้ผ้าจีวรหรือขอบเขตวัดวาอาราม

ยิ่งพื้นที่ 4 ไร่ยังห่างไกลจากสภาพวัดตามปกติด้วยแล้ว คนทั่วไปซึ่งมองอาณาจักรนี้ด้วยความตะขิดตะขวงใจ ย่อมสงสัยเคลือบแคลงแนวปฏิบัติธรรมกายว่าเป็นลัทธิหรือนิกายใหม่โดยแฝงสภาพในร่มพุทธจักร มุ่งเน้นการสะสมความมั่งคั่งภายไต้คาถาศักดิ์สิทธิ์

“ชิตังเม รวย!” พร้อมกับถือค้อนทองคำเทียมทุบโป๊กให้สำเร็จพิธีกรรมผ่องถ่ายเงิน!

มีหลายปัญหาท้าทายกฎหมายและความเป็นนิติรัฐของไทย ขบวนการธรรมกายซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกลุ่มมวลชนการเมืองเสื้อแดงของท่านเหลี่ยมเป็นรากเหง้าของปัญหาอื่นๆ สะท้อนให้เห็นว่าการปล่อยปะละเลยพฤติกรรมผิดกฎหมายทำให้การแก้ไขทำได้ยาก

ช่วงนี้มีภัยต่อความมั่นคงร้ายแรงอื่นๆ ซึ่งจะสร้างปัญหาเรื้อรัง ยังไม่ได้รับการใส่ใจจากผู้รักษากฎหมาย ท่าทีของรัฐบาลคุณท่านยังไม่ชัดเจน แนวทางจัดการยังอึมครึม ไม่เด็ดขาด ถ้าปล่อยไว้จะสร้างความหายนะให้กับสภาพเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ว่ากันเรื่องแรก เรื้อรังมานาน และส่อเค้าว่าจะรุนแรง ขยายตัวรวดเร็ว ยากต่อการจัดการเพราะมีความซับซ้อนด้านกฎหมาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความมั่นคงของบ้านเมืองเมื่อประชาชนไทยถูกรุกไล่ให้อยู่ในสภาวะอ่อนแอ ไร้ที่พึ่งพิงจากอำนาจรัฐ

นั่นคือการรุกคืบเข้ามาของคนต่างชาติจากประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก แปรสภาพของรัฐไทยเป็น “ม้าอารี” แผ่นดินไทยได้เป็นแหล่งทำมาหากินพึ่งพิงอาศัยอย่างสบายไร้การตรวจสอบเข้มงวดกวดขันโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ

ไม่มีประเทศใดในอาเซียน หรือประเทศไหนในโลก เปิดอ้ารับการเคลื่อนย้ายของประชากรจากประเทศอื่นๆ ซึ่งไม่ได้อยู่ในสภาพของผู้ลี้ภัย แผ่นดินไทยได้เป็นแหล่งซ่องสุม ที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติ หมู่บ้านของชนชาติต่างๆ เช่นญี่ปุ่น เกาหลี จีน ชาวชมพูทวีป

นอกจากกัมพูชา พม่า ลาว ยังมีชาวตะวันตกซึ่งกระจายอยู่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญเช่นพัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย และภาคอีสานในสภาพของ “เขยฝรั่ง” และมีการรุกคืบของชาวอัฟริกัน อาหรับ ตะวันออกกลาง มีทั้งคนดีและอาชญากรข้ามชาติจากทุกทวีป

อะไรทำให้เมืองไทยเป็นที่พิสมัยของคนต่างชาติเข้ามาทำมาหากิน โดยเฉพาะพวกหลบหนีเข้าเมือง อยู่เกินระยะเวลาวีซ่า อาชญากรข้ามชาติทุกประเภท มีทั้งนักตุ๋ยเด็ก นักย่องเบา นักปลอมแปลงเอกสาร บัตรเครดิต ค้ายาเสพติด นักฉกชิงอัญมณี นักต้มตุ๋น

สารพัดของอาชญากรต่างชาติ ซึ่งหนีคดีมาอยู่ในไทย เป็นประเทศเดียวในอาเซียนซึ่งมีความหลากหลายของประชากรต่างชาติ มาเฟียกลุ่มหลักต่างก็มีสมาชิกอยู่ในไทย เช่นมาเฟียรัสเซีย เยอรมัน แขกขาว ยากูซ่า แก๊งลูกหมู กลุ่มก่อการร้ายหลบเข้ามาแฝงตัว

ทำไมชาวต่างชาติถึงเข้ามาอยู่ทำมาหากินในเมืองไทยอย่างง่ายดาย ไม่โดนจับกุม โดยเฉพาะพวกเข้ามาซื้ออาคารบ้านเรือนทำธุรกิจอย่างเปิดเผย ดังเช่นกลุ่มจีน ไต้หวัน เกาหลี มีชุมชนของตัวเอง ดังเช่นชาวจีนแผ่นดินใหญ่รุกคืบเข้าย่านสุทธิสาร เยาวราช

อาศัยเงินทุนหนา กลุ่มชาวจีนได้ครอบครองพื้นที่ย่านการค้าเช่น ประตูน้ำ รวมทั้งพื้นที่ปลูกกล้วยหอมเป็นพันๆ ไร่ในจังหวัดเชียงราย ครอบงำธุรกิจในท้องถิ่น มีคำถามว่าคนพวกนี้อยู่ในประเทศไทยในสถานภาพอะไรหรือกฎหมายมีช่องโหว่จนเป็นอันตราย

มีใครตระหนักถึงปัญหา ภัยของความมั่นคงนี้หรือไม่ โดยเฉพาะการรุกคืบของคนต่างชาติภายไต้กฎระเบียบภาคีเออีซี ซึ่งน่าจะเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ส่งผลเสียหายต่อประเทศไทย เพราะคนทุกชาติในอาเซียนอยากมาไทย การเข้าไปประเทศอื่นๆ ไม่ง่าย

รัฐบาลคุณท่านได้คำนึงถึงภัยร้ายแรงเช่นนี้หรือไม่ และจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหานี้ แม้กระทั่งพนักงานรักษาความปลอดภัยชาวต่างชาติ ยังมีอำนาจเหนือประชาชนไทย พื้นที่ชุมชนชาวต่างชาติ รปภ. ต่างชาติเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับคนไทย เจ้าหน้าที่ไทย

สภาความมั่นคง หน่วยงานด้านข่าวกรอง กองทัพ ตำรวจ ได้รับรู้ปัญหานี้เพียงใดและรัฐบาลจะทำอะไรเพื่อสกัดกั้นกระแสไหลบ่าของคนต่างชาติไม่ให้เข้ามา และต้องตรวจสอบการถือครองทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ภายไต้ตัวแทน หาทางผลักดันออกไป

ถ้าไม่รีบทำ กำหนดมาตรการเข้มงวด แผ่นดินไทยคงอยู่ภายไต้การถือครองของคนต่างชาติในไม่เกินอีก 10-20 ปีข้างหน้า เพราะน่าจะมากกว่า 100 ล้านไร่ หรือ 1 ใน 3 ของแผ่นดินไทยได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติแล้ว เงินจากต่างประเทศจะเข้ามาซื้ออีก

ในสภาวะเศรษฐกิจของประเทศอ่อนล้า ราคาที่ดินซื้อขายกันง่ายดาย ไม่มีแผ่นดินไหนในอาเซียนจะเปิดกว้างให้เข้ามาครอบครองได้ง่าย ชาติอื่นๆ ในอาเซียนไม่ได้เป็น “ม้าอารี” แบบนี้ คนไทยไปอยู่เกินระยะเวลาโดนจับกุมตัว ส่งกลับประเทศหลังจากรับโทษแล้ว

อย่าฝันหวานตามนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นักขายที่ดินว่าการทะลักเข้ามาของเงินต่างชาติจะกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้ารายย่อยกำลังถูกกลืนโดยคนต่างชาติ อีกไม่นานแผ่นดินที่เหลืออาจเป็นเพียงสถานที่ราชการ ค่ายทหาร วัดวาอารามต่างๆ เท่านั้น

คุณท่านอย่าหวังว่ารัฐธรรมนูญจะแก้ไขปัญหานี้ได้ ต้องผู้นำใจถึง รักชาติ มาดเข้มจริงจังเท่านั้นจะทุ่มเทกำลังเพื่อให้เมืองไทยรอดพ้นจากการยึดครองโดยคนต่างชาติ ทุกวันนี้ธนาคาร สถาบันธุรกิจต่างๆ อาคารคอนโดมิเนียม ถูกกว้านซื้อเรียบโดยทุนพลังสูง

แม้กระทั่งสัญชาติไทย บัตรประชาชนไทย ยังมีไว้ขาย ไม่รอดพ้นจากอำนาจเงิน


กำลังโหลดความคิดเห็น