xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ยันขายเสื้อ“เยส-โน”ได้ จี้แก้รธน.57แง้มทางออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - 50 พรรคการเมืองแห่ร่วมเวทีแจงประชามติร่าง รธน. “มาร์ค” จี้ กกต.แจงข้อห้ามให้ชัด แนะรัฐแก้ รธน.ชั่วคราวให้ ปชช.รู้ทางเลือก “จตุพร" เย้ยเปิดเวทีแจงเหตุกลัวแพ้ประชามติ เหน็บ กกต.อย่าทำตัวเป็น กก.วอลเล่ย์ “สมชัย” ยัน "กู-มึง" ไม่หยาบ ขาย-ใส่เสื้อ “เยส-โน” ก็ไม่ผิด ”วิษณุ” ยันประชามติผ่านไม่ผ่าน ไม่มียืดโรดแมป “มีชัย” ไม่ปฏิเสธร่าง รธน.เปิดช่อง คสช.สืบทอดอำนาจ 12 ปี

วานนี้ (19 พ.ค.) ที่สโทสรทหาบก ถนนวิภาวดีรังสิต คณะกรรมการเลือกตั้ง ( กกต.) ได้จัดเวทีชี้แจงเกี่ยวกับการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในหัวข้อ “ร่างรัฐธรรมนูญ ประชามติ และประชาชน” โดยมีผู้แทนจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เข้าร่วมชี้แจงให้กับตัวแทนพรรคการเมือง 50 พรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ที่เดินทางมาร่วมอย่างคึกคัก อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จาก นปช. แต่ไม่ปรากฏตัวแทนของกลุ่ม กปปส.และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าร่วมแต่อย่างใด

จากนั้นตัวแทนจาก 5 หน่วยงานก็ได้เริ่มชี้แจงถึงจุดเด่นของร่างรัฐธรรมนูญและเหตุผลในการตั้งคำถามพ่วงให้ ส.ว.มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรีว่าในช่วงเปลี่ยนผ่าน

** “วิษณุ” ยันไม่มียืดโรดแมป

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 7 ส.ค. หากมีการรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นชอบคำถามพ่วง ก็จะนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้า กรธ.จัดทำกฎหมายลูกเมื่อมีผลบังคับใช้ ก็จะมีการจัดเลือกตั้งภายใน 5 เดือน แต่ถ้าคำถามพ่วงผ่านด้วยก็ต้องมีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องโดยต้องใช้เวลาราว 1 เดือน แต่หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ต้องมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะนำเอาข้อดีในรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมาๆมารวมในการยกร่างฉบับใหม่ คิดว่าใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมใหม่ แต่จะเป็นภาระของรัฐบาลไปดำเนินการ

“ประชามติเป็นเกมกติกา จะผ่านไม่ผ่าน ก็ปล่อยไปเมื่อเรามีหลักในเรื่องการนำความสุขกลับคืนมาสู่ประเทศ ฉะนั้นจะผ่านไม่ผ่านก็ชั่ง แต่ยืนยันจะไม่มีการยืด ไม่มีการต่อเวลาอะไรทั้งนั้น” นายวิษณุ กล่าว

** “มาร์ค” สับปิดกั้นแสดงความเห็น

จากนั้นได้มีการเปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมืองสอบถาม นายอภิสิทธิ์ ตั้งคำถามว่า การทำประชามติครั้งนี้ ไม่เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี มีการกำหนดห้ามคำบางคำ จึงต้องการคำตอบจาก กกต.ว่าข้อห้ามที่ปรากฏในมาตรา 61 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ในเรื่องการนำความเท็จ ไม่ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ มีความหมายอย่างไร ถ้ามีคนสวมเสื้อหรือขายเสื้อรับไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งประชามติจะมีความหมายก็ต่อเมื่อประชาชนมีทางเลือก ซึ่งนายวิษณุก็ยอมรับว่ายังไม่มี และหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ทำไมจึงไม่แก้ขณะนี้เลย และที่จะให้พรรคการเมืองนำผลประชุมวันนี้ไปขยายผล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ควรยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 57เพื่อให้พรรคการเมือง ประชาชนเคลื่อนไหวได้โดยสุจริตอย่างเต็มที่

** “สมชัย” แจงขายเสื้อ “เยส-โน” ไม่ผิด

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ชี้แจงว่าข้อห้ามต่างๆเป็นไปตามมาตรา 61 ส่วนคำว่าเป็นเท็จ คือเอาสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญออกมาพูดไม่จริง ขณะที่คำว่าหยาบคาย เราใช้มาตรฐานชนชั้นกลาง เช่นคำว่า กู มึง ไม่ถือว่าหยาบ ส่วนเรื่องการขายเสื้อ ใส่เสื้อ เยส -โน ถ้าไม่ได้เป็นการรณรงค์ก็ไม่ถือว่าผิด อย่างวันนี้นายจตุพรใส่เสื้อที่มีคำว่า "ประชามติ ไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า" ก็ไม่ถือว่าผิด รวมทั้งการขายเสื้อก็ไม่ถือว่าผิด แต่หากแจกจ่ายแบบซื้อเสียงก็ผิด หากพบหลักฐานชัดเจนก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางอาญา

ด้าน นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวเสริมว่า ยืนยันว่าประชาชนยังมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และไม่ต้องเป็นกังวล กกต.ดูที่เจตนาเป็นหลัก โดยได้มีการตั้งคณะที่ปรึกษากฎหมายวินิจฉัยในเบื้องต้นหากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิด

** “จตุพร” เย้ยกล้วแพ้ประชามติ

ขณะที่ นายจตุพร ถามว่า ที่ชี้แจงวันนี้หลักใหญ่คือกลัวแพ้ประชามติใช่หรือไม่ ซึ่งเริ่มจาก สนช.ไปเขียนกติกาที่เป็นนามธรรม ทั้งเรื่องห้ามก้าวร้าว หยาบคายทั้งที่กฎหมายควรเขียนให้เป็นรูปธรรม การทำประชามติปี 50 ไม่มีการห้ามการบอกว่ารับหรือไม่รับ แต่วันนี้ด้วยความกลัวแพ้มีการเผยแพร่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งครู ก ข ค หน่วยงานราชการ รวมแล้วกว่าล้านคน แทนที่จะมีการเปิดกว้าง ทั้งที่บอกว่า กรธ.ไม่ได้ชี้นำแต่กลับไปพูดแค่ข้อดีอย่างเดียว แต่คนอื่นจะไปเคาะประตูบ้านพูดข้อเสียอย่างเดียวก็ไม่ได้

“ผมต้องการให้ประชามติครั้งนี้ไม่โกง และกลัวว่าพวกท่านจะล้มการทำประชามติ การที่ กรธ. สนช. สปท.ลงพื้นที่ชี้แจง จะเป็นการชี้แจงฝ่ายเดียว เหมือนการเอากระบี่ไปฟันต้นกล้วย แล้วบอกว่าไร้เทียมทาน และ กกต.ควรเปิดกว้าง ไม่ตีความเลอะเทอะ ต้องเป็นกลาง อย่าทำตัวเป็นเหมือนกรรมการวอลเลย์บอลที่ไทยเพิ่งแพ้ไป” นายจตุพร กล่าว

โดยก่อนเข้าร่วมประชุม นายจตุพรเปิดเผยว่า กลุ่ม นปช.จะเปิดศูนย์จับโกงประชามติ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งเราได้แจ้งประชาชนทั่วประเทศร่วมกันจับโกงหรือการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ เอกสาร การบันทึกเสียง จะมีทนายความทุกจังหวัดและส่วนกลางทำหน้าที่ร่วมมือกับทุกฝ่ายในการจับทุจริต

** “มีชัย” ไม่ปฏิเสธ คสช.สืบอำนาจ 12 ปี

อีกด้าน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรธ.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจัดโครงการฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการ (ครู ก.) เป็นวันสุดท้าย โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ได้เข้าร่วมรับฟังและสังเกตการณ์ด้วยตนเอง ปรากฏว่าผู้ที่เข้ารับการอบรมได้สอบถามว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงของ สนช.สามารถให้ ส.ว.ที่มาจาการสรรหาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 5 ปี จะทำให้คสช.ถูกมองว่าสืบทอดอำนาจด้วยการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ถึง 3 วาระ โดยวาระแรกคือรัฐบาลของ คสช.ขณะนี้ 1 วาระ และหากมีการเลือกตั้ง ส.สในปี 2560 ส.ว.สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีและบริหารประเทศได้อีก 4 ปี เป็นสมัยที่ 2 และวาระสุดท้าย ที่วุฒิสภาเหลือเวลาอีก 1 ปี ที่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และสามารถบริหารประเทศได้อีก 4 ปี ซึ่งนายมีชัยที่นั่งฟังคำถาม ได้พูดว่า “อื้อ” แต่ไม่ได้ชี้แจงอะไร เช่นเดียวกับ กรธ.และ สนช.ที่เป็นรับผิดชอบกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ชี้แจงเช่นกัน

** ย้ำ “ครู ก.” ไม่ชัวร์อย่าตอบมั่ว

จากนั้น นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ. ได้กล่าวสรุปภาพรวมและมอบหมายภารกิจให้ครู ก. ว่าขอย้ำว่าหากมีคำถามภายในจังหวัด หากครู ข. ครู ค. และประชาชนมีคำถามแล้วไม่สามารถตอบได้ ขอให้โทรศัพท์มาถาม กรธ.หรือถามมาที่เวบไซต์ www.cdc.or.th ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจงคำตอบให้ และกำชับให้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ไม่แสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่โน้มน้าวและหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลอันก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง ครู ก. ครู ข. ครู ค.และประชาชนในพื้นที่.

** นายกฯโอ่คิดเปิดเวทีนานแล้ว

ที่สหพันธรัฐรัสเซีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่อยู่ระหว่างเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ กล่าวถึงกรณีการเปิดเวทีแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้ว่า เป็นเรื่องที่คิดไว้นานแล้ว ไม่ได้มีใครกดดัน แต่รอเวลาที่เหมาะสมจึงค่อยดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องพูดล่วงหน้า ไม่ได้ปิดบังซ่อนเร้น โดยจะเปิดโอกาสให้พูดได้ในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการเมือง ความขัดแย้ง คดีความ เพื่อที่จะได้รู้แนวคิดของแต่ละคน รับฟังไว้และแก้ปัญหา แต่ต้องฟังความเห็นของคนส่วนใหญ่ของประเทศด้วย เพราะคนที่เดือดร้อนและมีคดีความมีไม่กี่คน แต่มาทำให้คนทั้งประเทศสับสน เอาคนมาบิดเบือนเนื้อหา ค้านกับกฎหมาย ซึ่งทำไม่ได้ จะต้องใช้กฎหมายตัดสิน ยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยสั่งว่าร่างรัฐธรรมนูญจะต้องผ่านหรือไม่ผ่านประชามติ

“อย่ามาบอกว่าผมให้ออกกฎหมายให้ยาก เพื่อไม่ให้ผ่าน ผมจะทำทำไม จะต้องเห็นใจคนร่าง ที่เขาต้องการร่างให้ออกมาดี แต่ถ้าคนไทยรับไม่ได้ ก็ต้องทบทวนและร่างใหม่ ถ้าผ่านก็นำไปสู่การเลือกตั้ง แต่ถ้าถามว่า จะเลือกตั้งได้หรือไม่ ผมตอบไม่ได้ เพราะยังไปไม่ถึงก็เริ่มมีการต่อต้านแล้ว" นายกฯ กล่าว

** “อุเทน” เช็งไม่สนใจพรรคเล็ก

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมของ กกต.แต่ออกจากห้องประชุมก่อนที่จะได้แสดงความคิดเห็น โดยให้เหตุผลว่า การจัดสรรเวลาและการเรียงลำดับให้แสดงความคิดเห็นไม่เป็นธรรมกับพรรคการเมืองขนาดเล็ก อีกทั้งทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตัวแทนรัฐบาล และทาง กกต.ก็ใช้เวลาค่อนข้างมาก ทำให้กลายเป็นเพียงเวทีที่สื่อสารด้านเดียว เลือกที่จะชี้แจงมากกว่าจะรับฟังความคิดเห็นตามที่ได้ประกาศไว้

ทั้งนี้ ยังเห็นด้วยว่า ทั้ง กกต.ในฐานะผู้จัดงาน และสื่อมวลชน ให้ความสำคัญเฉพาะกับพรรคการเมืองใหญ่ แต่ไม่สนใจพรรคการเมืองขนาดเล็กเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามขออยากฝากไปถึงประชาชนให้ยึดหลัก 4 ป.ในการตัดสินใจออกเสียงประชามติ วันที่ 7 ส.ค.นี้ คือ 1.เปิดหู รับฟังข้อเท็จจริง 2.เปิดตา มองทุกส่วนอย่างรอบด้าน 3.เปิดใจ คิดรับฟังรับรู้อย่างมีสติ และ 4.เปิดปาก ประชาชนต้องกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ถูกต้อง และกล้าที่จะติติงในสิ่งที่ไม่เหมาะสม หากทำได้ตามนี้ผลการลงประชามติก็จะสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น