วานนี้ (10พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ว่า มีคนไปบิดเบือน ในการที่ตนพูดว่าไฟไหม้ป่า เกิดจากคนที่มีรายได้น้อยที่น่าสงสารไปหากินในป่า และไปจุดไฟ "มติชน" ก็พาดพิง เขียนว่า นายกฯต่อว่าคนจนจุดไฟเผาป่า มันเขียนอย่างนี้ได้อย่างไร มันเขียนหาเรื่อง "ผู้จัดการ" ก็เหมือนกันเขียนอยู่ได้ ไอ้ชัชวาล ไอ้โสภณ คอลัมนิสต์ 4-5 คนนี้ มันเก่งมาจากไหน ขอถามหน่อย เขาทำงานกันแทบตาย มาปรามาสตั้งแต่วันแรกหลัง 22 พ.ค.57 จนวันนี้ จะเอาอะไรกันอีกเสรีภาพ
กรณีที่เจ้าหน้าที่ จับกุมผู้มีข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 และ ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจมีการชี้แจงหลักฐานมาแล้ว มีสื่อไหนลงหรือไม่ ก็ไม่มี หรือมีก็นิดหน่อยไปดูหลักฐานสิ ซึ่งตนเปิดเผยไม่ได้ ให้ไปดูในศาล โดยศาลจะตัดสินเอง ฉะนั้น อย่ามาบิดเบือนกัน จะเป็นคุณแม่ หรือคุณลูกทั้งนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์ไปตรวจนั้นไม่ใช่แค่ “จ้า”คำเดียว แต่มีตั้ง 8-9 ประโยค และที่เขียนมา ตนรับไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย แล้วคนก็มาหาว่าตนรังแก แล้วการเขียนแบบนั้น ถ้าไม่ทำมันจะตายหรืออย่างไร เขียนว่าคนโน้น คนนี้
"ผมบอกแล้ว รัฐบาลนี้ผมไม่ยอมรับการหมิ่นพระบรมราชานุภาพโดยเด็ดขาด ก็ทำมาตลอด พอเกิดปัญหา มาร่วมรับผิดชอบกับผมไหม มีแต่ติว่ากัน ทั้งๆ ที่รู้กฎหมายว่าอย่างไร การเปิดที่ต่างประเทศเขาทำอย่างไร เทคนิคการย้ายเป็นอย่างไร เขาทำกันแทบตาย แล้วมาหาว่าไม่ทำอะไร หาว่าเอา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มารังแกคน กลายเป็นว่าคนทำความผิดถูกรังแก และกลายเป็นว่ารัฐบาล หวังผลทางการเมือง มันจะหวังทางการเมืองอะไร ผมไม่ได้หวังการเมือง ผมหวังให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ให้ประชาชนมีงานทำ สร้างความสุขให้สังคม ไม่ใช่มีงานทำจากความขัดแย้ง" นายกฯ กล่าว และว่า เรื่องที่มีข่าวว่าทหารไปเรียก เงินเรียกทอง ก็มีการสั่งให้ตรวจสอบแล้ว อย่าพูดกันเรื่อยเปื่อย ถ้ามีจริงให้ถ่ายรูป อัดเทปมา ตนจะปลดมันเดี๋ยวนี้ แต่นี่ไม่มีหลักฐาน ก็เขียนกันไปเรื่อย ตกลงประเทศนี้จะอยู่กันแบบนี้หรือ แล้วตนไปจำกัดสิทธิสื่อตรงไหน ลองตอบมาสิ ว่าไม่มีเสรีภาพตรงไหนบ้าง เสรีภาพของท่านคือ ด่ารัฐบาลได้ตลอดเวลานั้นใช่ หรือไม่ ก็ไปรอด่ารัฐบาลหน้าโน่น รัฐบาลตนด่าได้แค่นี้ ซึ่งแค่นี้ก็ทนเยอะแล้ว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า รัฐมนตรีบางคนถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับมาสอบสวนแล้ว เป็นคนบ้า และมีเบอร์ทุกคน ซึ่งจิตแพทย์ได้ตรวจแล้ว มันบ้า โรคจิต ครอบครัวเขายอมรับไม่ได้กินยา และไม่ได้ส่งผลให้รัฐมนตรีคนอื่นกลัว ตนบอกแล้วไม่ต้องกลัว จะคุ้มครองให้ ไปกลัวทำไม ถ้ากลัวเดี๋ยวจะจัดคนไปรักษาความปลอดภัย สำหรับการปรับครม.นั้น ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองวันนี้ ทำให้เสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ช่างการเมือง ตนไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจ และไม่ทำให้เสียสมาธิต่อการทำงาน ตนจะโมโห ก็เรื่องของตน แม้จะโมโหก็ทำงาน ยิ่งโมโห ก็ยิ่งทำงาน อยากยั่วก็ยั่วมา ไม่เป็นไร ตนทำได้ทั้งสองอย่าง โมโหด้วย ทำงานด้วย ไม่มีท้อแท้ ไม่ต้องกลัวสู้ตายอยู่แล้ว เอาไปพาดหัวได้เลย ไม่มีอะไรทำให้ท้อแท้ ทำเพื่อชาติจะท้อแท้ได้อย่างไร ชีวิตตนยังให้ไปแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต 30 -40 ปี
เมื่อถามว่านายกฯ เป็นห่วงในเรื่องใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง จะห่วงอะไร ที่หงุดหงิด ฉันก็หงุดหงิดของฉัน จะให้อารมณ์ดีทั้งวันเหรอ มันบ้าแล้วแบบนั้น ไม่ต้องทำอะไรคอยยิ้มแย้มตลอดทั้งวัน มันไม่ใช่ ตนเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ไปถามได้ในกองทัพบกเขาว่าอย่างไร ตนเป็นอย่างนี้ ไม่เห็นมีใครเกลียดสักคน หรือเกลียดมันก็ไม่บอก
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า แล้วสื่อห่วงสุขภาพนายกฯ บ้างไหม โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า ห่วงเส้นเลือดในสมองนายกฯ จะแตก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า "ไม่แตก ไม่มีแตก ฉันแข็งแรงพอ จะแตกก็ให้มันรู้ไป แตกเพื่อชาติจะเป็นไรไป เธอเคยคิดไหม ต่อให้ตายสิบครั้ง ฉันก็ยอมตายถ้าประเทศมันจะดีขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว
กรณีที่เจ้าหน้าที่ จับกุมผู้มีข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 และ ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจมีการชี้แจงหลักฐานมาแล้ว มีสื่อไหนลงหรือไม่ ก็ไม่มี หรือมีก็นิดหน่อยไปดูหลักฐานสิ ซึ่งตนเปิดเผยไม่ได้ ให้ไปดูในศาล โดยศาลจะตัดสินเอง ฉะนั้น อย่ามาบิดเบือนกัน จะเป็นคุณแม่ หรือคุณลูกทั้งนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์ไปตรวจนั้นไม่ใช่แค่ “จ้า”คำเดียว แต่มีตั้ง 8-9 ประโยค และที่เขียนมา ตนรับไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย แล้วคนก็มาหาว่าตนรังแก แล้วการเขียนแบบนั้น ถ้าไม่ทำมันจะตายหรืออย่างไร เขียนว่าคนโน้น คนนี้
"ผมบอกแล้ว รัฐบาลนี้ผมไม่ยอมรับการหมิ่นพระบรมราชานุภาพโดยเด็ดขาด ก็ทำมาตลอด พอเกิดปัญหา มาร่วมรับผิดชอบกับผมไหม มีแต่ติว่ากัน ทั้งๆ ที่รู้กฎหมายว่าอย่างไร การเปิดที่ต่างประเทศเขาทำอย่างไร เทคนิคการย้ายเป็นอย่างไร เขาทำกันแทบตาย แล้วมาหาว่าไม่ทำอะไร หาว่าเอา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มารังแกคน กลายเป็นว่าคนทำความผิดถูกรังแก และกลายเป็นว่ารัฐบาล หวังผลทางการเมือง มันจะหวังทางการเมืองอะไร ผมไม่ได้หวังการเมือง ผมหวังให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ให้ประชาชนมีงานทำ สร้างความสุขให้สังคม ไม่ใช่มีงานทำจากความขัดแย้ง" นายกฯ กล่าว และว่า เรื่องที่มีข่าวว่าทหารไปเรียก เงินเรียกทอง ก็มีการสั่งให้ตรวจสอบแล้ว อย่าพูดกันเรื่อยเปื่อย ถ้ามีจริงให้ถ่ายรูป อัดเทปมา ตนจะปลดมันเดี๋ยวนี้ แต่นี่ไม่มีหลักฐาน ก็เขียนกันไปเรื่อย ตกลงประเทศนี้จะอยู่กันแบบนี้หรือ แล้วตนไปจำกัดสิทธิสื่อตรงไหน ลองตอบมาสิ ว่าไม่มีเสรีภาพตรงไหนบ้าง เสรีภาพของท่านคือ ด่ารัฐบาลได้ตลอดเวลานั้นใช่ หรือไม่ ก็ไปรอด่ารัฐบาลหน้าโน่น รัฐบาลตนด่าได้แค่นี้ ซึ่งแค่นี้ก็ทนเยอะแล้ว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า รัฐมนตรีบางคนถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับมาสอบสวนแล้ว เป็นคนบ้า และมีเบอร์ทุกคน ซึ่งจิตแพทย์ได้ตรวจแล้ว มันบ้า โรคจิต ครอบครัวเขายอมรับไม่ได้กินยา และไม่ได้ส่งผลให้รัฐมนตรีคนอื่นกลัว ตนบอกแล้วไม่ต้องกลัว จะคุ้มครองให้ ไปกลัวทำไม ถ้ากลัวเดี๋ยวจะจัดคนไปรักษาความปลอดภัย สำหรับการปรับครม.นั้น ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองวันนี้ ทำให้เสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ช่างการเมือง ตนไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจ และไม่ทำให้เสียสมาธิต่อการทำงาน ตนจะโมโห ก็เรื่องของตน แม้จะโมโหก็ทำงาน ยิ่งโมโห ก็ยิ่งทำงาน อยากยั่วก็ยั่วมา ไม่เป็นไร ตนทำได้ทั้งสองอย่าง โมโหด้วย ทำงานด้วย ไม่มีท้อแท้ ไม่ต้องกลัวสู้ตายอยู่แล้ว เอาไปพาดหัวได้เลย ไม่มีอะไรทำให้ท้อแท้ ทำเพื่อชาติจะท้อแท้ได้อย่างไร ชีวิตตนยังให้ไปแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต 30 -40 ปี
เมื่อถามว่านายกฯ เป็นห่วงในเรื่องใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง จะห่วงอะไร ที่หงุดหงิด ฉันก็หงุดหงิดของฉัน จะให้อารมณ์ดีทั้งวันเหรอ มันบ้าแล้วแบบนั้น ไม่ต้องทำอะไรคอยยิ้มแย้มตลอดทั้งวัน มันไม่ใช่ ตนเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ไปถามได้ในกองทัพบกเขาว่าอย่างไร ตนเป็นอย่างนี้ ไม่เห็นมีใครเกลียดสักคน หรือเกลียดมันก็ไม่บอก
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า แล้วสื่อห่วงสุขภาพนายกฯ บ้างไหม โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า ห่วงเส้นเลือดในสมองนายกฯ จะแตก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า "ไม่แตก ไม่มีแตก ฉันแข็งแรงพอ จะแตกก็ให้มันรู้ไป แตกเพื่อชาติจะเป็นไรไป เธอเคยคิดไหม ต่อให้ตายสิบครั้ง ฉันก็ยอมตายถ้าประเทศมันจะดีขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว