นายกฯ บอกหยุดหลายวันทำคิดเยอะ ซัดมติชนพาดหัวอ้างคนจนจุดไฟเผาป่าเขียนหาเรื่อง ถามคอลัมนิสต์ผู้จัดการเก่งมาจากไหน แนะใครอยากดูหลักฐานฟ้อง “แม่นิว” ไปดูในศาล ยันไม่ได้มีคำแค่ “จ้า” ลั่นไม่ยอมรับพวกหมิ่นสถาบันฯ โดยเด็ดขาด เซ็งถูกหาว่าเอา พ.ร.บ.คอมพ์มารังแก เผยสั่งสอบทหารเรียกรับเงินแล้ว ถ้ามีจริงอัดคลิปมาจะปลดเดี๋ยวนี้ บอกสื่ออยากด่ารอรัฐบาลหน้า ย้ำคนบ้าโทร.ขู่ ยังไม่ปรับ ครม. ระบุไม่เสียสมาธิ ยิ่งโมโหยิ่งทำงาน ไม่ท้อแท้ ลั่นถ้าเส้นเลือดสมองแตกก็ให้มันรู้ไป
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าเนื่องจากมีวันหยุดหลายวันทำให้ตนมีเรื่องคิดเยอะ และเรื่องที่สำคัญคือมีคนไปบิดเบือน ในการที่ตนพูดว่าไฟไหม้ป่าเกิดจากคนที่มีรายได้น้อย ที่น่าสงสารไปหากินในป่า และไปจุดไฟ มติชนก็พาดพิงเขียนว่านายกฯ ต่อว่าคนจนจุดไฟเผาป่า มันเขียนอย่างนี้ได้อย่างไร มันเขียนหาเรื่อง “ผู้จัดการก็เหมือนกัน เขียนอยู่ได้ไอ้ชัชวาล (ชัชชาล ชาติสุทธิชัย) ไอ้โสภณ (โสภณ องค์การณ์) คอลัมนิสต์ 4-5 คนนี้มันเก่งมาจากไหนขอถามหน่อย เขาทำงานกันแทบตาย มาปรามาสตั้งแต่วันแรกหลัง 22 พ.ค. 2557 จนวันนี้จะเอาอะไรกันอีกเสรีภาพ”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการจับกุมผู้มีข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจมีการชี้แจงหลักฐานมาแล้ว มีสื่อไหนลงหรือไม่ ก็ไม่มีหรือมีนิดหน่อย ไปดูหลักฐานสิ ซึ่งตนเปิดเผยไม่ได้ ให้ไปดูในศาล โดยศาลจะตัดสินเอง ฉะนั้นอย่ามาบิดเบือนกัน จะเป็นคุณแม่หรือคุณลูกทั้งนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์ไปตรวจนั้น ไม่ใช่แค่ “จ้า” คำเดียว แต่มีตั้ง 8-9 ประโยค และที่เขียนมาตนรับไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย แล้วคนก็มาหาว่าตนรังแก แล้วการเขียนแบบนั้นไม่ทำมันจะตายหรืออย่างไร เขียนว่าคนโน้นคนนี้
“ผมบอกแล้ว รัฐบาลนี้ผมไม่ยอมรับการหมิ่นพระบรมราชานุภาพโดยเด็ดขาด ก็ทำมาตลอด พอเกิดปัญหา มาร่วมรับผิดชอบกับผมไหม มีแต่ติว่ากัน ทั้งๆ ที่รู้กฎหมายว่าอย่างไร การเปิดที่ต่างประเทศเขาทำอย่างไร เทคนิคการย้ายเป็นอย่างไร เขาทำกันแทบตายแล้วมาหาว่าไม่ทำอะไร หาว่าเอา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มารังแกคน กลายเป็นว่าคนทำความผิดถูกรังแก และกลายเป็นว่ารัฐบาลหวังผลทางการเมือง มันจะหวังทางการเมืองอะไร ผมไม่ได้หวังการเมือง ผมหวังให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ให้ประชาชนมีงานทำ สร้างความสุขให้สังคม ไม่ใช่มีงานทำจากความขัดแย้ง แต่ถ้ามันไปไม่ได้จริงๆ วันหน้าลูกหลานก็อยู่ไม่ได้ เป็นเรื่องของพวกเธอฉันไม่ยุ่งด้วย” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้ทำอย่างเต็มที่ ทำให้จนไม่มีเวลาทำ เพราะประเทศนี้เป็นของตนและทุกคนด้วย ไม่ใช่ของตนคนเดียว หากตน รัฐบาล คสช. ทำส่วนหนึ่งที่เหลือทำลายทั้งหมดแล้วมันจะเกิดอะไรได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องที่มีข่าวว่าทหารไปเรียกงบประมาณเงินทอง มีการสั่งให้ตรวจสอบแล้ว อย่าพูดกันเรื่อยเปื่อย ถ้ามีจริงให้ถ่ายรูปอัดเทปมาตนจะปลดมันเดี๋ยวนี้ แต่ไม่มีหลักฐานก็เขียนกันไปเรื่อย ตกลงประเทศนี้จะอยู่กันแบบนี้หรือ แล้วตนไปจำกัดสิทธิสื่อตรงไหน ลองตอบมาสิ ว่าไม่มีเสรีภาพตรงไหนบ้าง เสรีภาพของท่านคือด่ารัฐบาลได้ตลอดเวลานั้นใช่หรือไม่ ก็ไปรอด่ารัฐบาลหน้าโน่น รัฐบาลตนด่าได้แค่นี้ ซึ่งแค่นี้ก็ทนเยอะแล้ว
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีบางคนถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับมาสอบสวนแล้วเป็นคนบ้า และมีเบอร์ทุกคน ซึ่งจิตแพทย์ได้ตรวจแล้วมันบ้า โรคจิต ครอบครัวเขายอมรับไม่ได้กินยา และไม่ได้ส่งผลให้รัฐมนตรีคนอื่นกลัว ตนบอกแล้วไม่ต้องกลัว จะคุ้มครองให้ไปกลัวทำไม ถ้ากลัวเดี๋ยวจะจัดคนไปรักษาความปลอดภัย สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรีนั้นยืนยันว่ายังไม่มีการปรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองวันนี้ทำให้เสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ช่างการเมือง ตนไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจ และไม่ทำให้เสียสมาธิต่อการทำงาน ซึ่งงานก็ทำเท่าเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ จะโมโหก็เรื่องของตน แม้จะโมโหก็ทำงาน ยิ่งโมโหก็ยิ่งทำงาน อยากยั่วก็ยั่วมาไม่เป็นไร ตนทำได้ทั้งสองอย่าง โมโหด้วย ทำงานด้วย ไม่มีท้อแท้ ไม่ต้องกลัวสู้ตายอยู่แล้ว เอาไปพาดหัวได้เลย ไม่มีอะไรทำให้ท้อแท้ ทำเพื่อชาติจะท้อแท้ได้อย่างไร ชีวิตตนยังให้ไปแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต 30-40 ปี ยังไม่รู้เหรอตนเสียสละอะไรไปบ้าง ทหารตายไปแล้วกี่พันหมื่นคน
เมื่อถามว่าการออกมาเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ทำให้เสียสมาธิหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือเปล่า ทำวันนี้วันหน้าก็โดนจับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือประชามติ เข้าใจหรือยัง เรื่องพวกนี้ถ้าตนแยกแยะไม่ออก ก็ไม่ใช่คน ฉันแยกแยะออก สติปัญญาพอมี
เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นห่วงในเรื่องใด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ห่วง จะห่วงอะไร ที่หงุดหงิดเพราะหงุดหงิด ฉันก็หงุดหงิดของฉัน จะให้อารมณ์ดีทั้งวันเหรอ มันบ้าแล้วแบบนั้นไม่ต้องทำอะไรคอยยิ้มแย้มตลอดทั้งวันมันไม่ใช่ ตนเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ไปถามได้ในกองทัพบกเขาว่าอย่างไร ตนเป็นอย่างนี้ไม่เห็นมีใครเกลียดสักคน หรือเกลียดมันก็ไม่บอก แต่ก็อยู่กันมา 4 ปี กองทัพไม่เสียหาย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า แล้วสื่อห่วงสุขภาพนายกฯ บ้างไหม โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า ห่วงเส้นสมองนายกฯ จะแตก พล.อ.ประยุทธ์จึงได้กล่าวว่า “ไม่แตก ไม่มีแตก ฉันแข็งแรงพอ จะแตกก็ให้มันรู้ไป แตกเพื่อชาติจะเป็นอะไรไป เธอเคยคิดไหม ต่อให้ตายสิบครั้งฉันก็ยอมตายถ้าประเทศมันจะดีขึ้น คิดกันแบบนี้เสียบ้าง คิดให้มันเกินๆ”