อาจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย
สาขาวิทยาการประกันภัยและบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร (นิด้า)
สาขาวิชาการวิเคราะห์ธุรกิจและการวิจัย
สาขาวิทยาการประกันภัยและบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร (นิด้า)
เมื่อวันก่อน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้ประกาศยกเลิกผลการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เนื่องจากมีกระบวนการโกงสอบเข้าโดยใช้แว่นตาที่ติดกล้อง เพื่อให้คนนอกห้องดูโจทย์และส่งคำตอบผ่าน Watch Phone หรือ โทรศัพท์ที่เป็นนาฬิกา คนที่จ้างขบวนการโกงนี้ด้วยมูลค่าราคาแพงมาก เพื่อให้ผู้เข้าสอบสามารถโกงสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปเรียนคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ ทั้งๆ ที่ความสามารถไม่เพียงพอ
วิธีการของ ดร.อาทิตย์ ในการแก้ปัญหาดังกล่าวถือว่ามีความยุติธรรมมากที่สุดแล้ว และถ้าจะให้ดีการสอบอีกรอบคนที่เข้าสอบแล้วในครั้งที่ยกเลิกไม่ต้องเสียเงินค่าสอบเข้าอีกรอบ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ยุติธรรมมากและเชื่อว่า ดร.อาทิตย์ ท่านคงทำเช่นนั้น
เรื่องการที่คนจะโกงสอบเข้าในการสอบที่มีส่วนได้เสียสูงๆ (High-stake testing) นั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติมากพบเจอได้เสมอ และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้โดยง่ายเหลือเกิน ในกรณีที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ต่อไปคงต้องป้องกันให้รัดกุมรอบคอบมากยิ่งขึ้น ต้องไม่อนุญาตให้นำเข้าอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ใดๆ เข้าไปในห้องสอบ โดยเด็ดขาด เรื่องนี้ผู้เขียนเองจำได้ว่า ทาง Educational Testing Service: ETS บริษัทรับจัดสอบชั้นนำของโลก ถึงกับใช้อุปกรณ์ตรวจจับโลหะแสกนตัวผู้เข้าสอบก่อนเข้าห้องสอบ ไม่ให้นำอุปกรณ์ใดๆ ที่มีโลหะน่าสงสัยว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์เข้าห้องสอบได้ และเราก็อาจจะต้องทำเช่นนั้น ที่จัดสอบต้องมี locker สำหรับใส่ของมีค่าพร้อมกุญแจล็อคให้ผู้เข้าสอบ ผู้สอบเข้าห้องสอบมือเปล่าอย่างแท้จริง แม้กระทั่งปากกาก็เอาเข้าไปไม่ได้ วิธีการแก้ปัญหาอีกทางหนึ่งคือการมีข้อสอบหลายฟอร์ม สลับข้อกันไปมา เช่น สลับฟอร์มข้อสอบสัก 20 ฟอร์ม และให้จัดผังห้องสอบให้สลับฟันปลาไม่สามารถลอกกันได้เลย หากลอกก็จะผิด และแม้จะลอกก็ตามก็จะไม่ทราบว่าเป็นฟอร์มใด เช่น ใส่รหัสเลขที่ข้อสอบ โดย encrypt ไม่ให้ทราบว่าเป็น Form ใด หากแม้นจะลอกก็จะลอกหรือส่งสัญญาณกันผิดฟอร์มของข้อสอบอยู่ดี!
ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น การเรียนแพทยศาสตร์เป็นปริญญาใบที่สอง ผู้เรียนต้องสำเร็จการศึกษาในด้านที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาก่อน จึงจะมาเรียนเป็นแพทย์ได้ เพื่อนของผมจบวิศวกรรมศาสตร์สาขาไฟฟ้า จาก University of California Berkeley และทำงานที่ IBM มาก่อน เมื่อจะมาเรียนแพทย์ต่อต้องไปลงเรียนวิชาเคมีและชีววิทยาเพิ่มเติมในมหาวิทยาลัยเพื่อให้ได้ Credit ครบตามที่ระบุไว้ หลังจากนั้นต้องสอบ MCAT: Medical College Admission Test ซึ่งจัดสอบโดย American Association of Medical Colleges โดยมีเนื้อหาในการสอบสามวิชาคือวิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Sciences) การให้เหตุผลด้วยภาษา (Verbal Reasoning) และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Biological Sciences) เมื่อได้ปริญญา MD หรือ DO แล้วก็ยังทำอาชีพแพทย์ไม่ได้ ยังต้องมาสอบ USMLE: The United States Medical Licensing Examination (USMLE) ซึ่งจัดสอบโดย the Federation of State Medical Boards (FSMB) และ the National Board of Medical Examiners (NBME) สำหรับ USMLE นั้นมีสาม Steps ซึ่งแพทย์ไทยที่จะไปศึกษาต่อ American Board ที่สหรัฐอเมริกาต่างรู้จักกันดีเพราะต้องผ่านการสอบนี้มาแล้วทั้งนั้น จึงจะสามารถทำงานหรือเรียนต่อ residency ไปเรียนแพทย์เฉพาะทางได้
ผมเองเรียนจบปริญญาเอกด้าน Psychometrics and Quantitative Psychology ซึ่งศึกษาวิธีการทางสถิติและคณิตศาสตร์ที่ใช้ในสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติที่เกี่ยวกับทฤษฎีจิตมิติ (Psychometric Theory) และการทดสอบต่างๆ เพื่อให้คะแนนสอบที่ได้มีความเที่ยงและความตรง ในขณะนั้นได้ไปฝึกงานวิจัย (Research Internship) ที่ NBME ในเมือง Philadelphia และงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานวิจัยก็เป็นงานด้าน test security เนื่องจากในตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ที่การสอบ USMLE หรือใบประกอบโรคศิลปะของแพทย์ในสหรัฐอเมริกา เกิดข้อสอบรั่ว และมีการโกงสอบเกิดขึ้น
เรื่องเกิดจากสองอดีตสามีภรรยาชาวโรมาเนีย ชื่อ Egija Kuka อายุ 40 ปี และสามีที่เลิกรากันไปแล้วชื่อ Eihab Suliman อายุ 50 ปี ได้เปิด Optima University เพื่อจัดติวสอบ USMLE Step 1 และย้ายโรงเรียนติวนี้มาจาก Latvia ประเทศในยุโรปตะวันออก ในสหรัฐอเมริกาเองก็ย้ายไปมาหลายๆ รัฐ
วิธีการเปิดติวนี้บอกว่ารับรองผล 100% หากเข้ามาเรียนติวจะผ่าน USMLE Step1 ทุกคน หากไม่ได้ผลจะคืนเงินให้ บรรดาแพทย์จากหลายชาติที่ต้องการมาเรียนต่อหรือมา practice ในสหรัฐอเมริกาก็ยินยอมเสียเงินคนละ 5,000 เหรียญ เพื่อเข้าไปเรียนใน Optima University ซึ่งเป็น Coaching School สำหรับการสอบใบประกอบโรคศิลปะของแพทย์
เรื่องแดงขึ้นมาเพราะมีลูกค้าคนหนึ่งเสียเงินไป 5,000 เหรียญแล้วแต่กลับสอบไม่ผ่าน จึงไปบ่นบนโลกออนไลน์ อีกทั้ง Psychometrician ที่ NBME เองก็เริ่มเห็นสิ่งผิดปกติในค่าสถิติของข้อสอบและคะแนนสอบ ยกตัวอย่าง เช่นบางคนซึ่งไม่ได้มีความสามารถสูง คะแนนสอบโดยรวมไม่ได้สูงเลย แต่กลับทำข้อสอบข้อที่ยากได้ดีผิดปกติเป็นต้น และเมื่อตรวจสอบไปก็กลับพบว่าผู้เข้าสอบเหล่านี้มักมาจากประเทศเดียวกัน เรียนติวมาจากที่เดียวกัน จึงค่อยสืบและค้นพบความจริงในที่สุด
เมื่อปี 2009 ทาง FBI ก็บุกเข้าไปที่ Optima University และได้ยึด Hard Disk มาและได้รายชื่อคนที่เข้ามาเรียนติว USMLE กับ Optima University ทั้งหมด ทำให้ต้องยกเลิกคะแนนสอบสำหรับคนที่มาติวกับ Optima University ซึ่งหลายคนสอบผ่านได้ใบประกอบโรคศิลปะแล้วและได้ practice แล้วด้วย ทั้งนี้ทาง NBME ได้ให้ทุกคนที่มีรายชื่อมาสอบใหม่ ถือว่าคะแนนสอบครั้งก่อนที่สอบไป ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ตามนั้นไม่ถูกต้อง แต่ไม่มีเจตนาทุจริต เนื่องจากเข้ามาเรียนติวโดยไม่รู้ที่มาที่ไป ซึ่งถือว่ายุติธรรมดี ส่วนคลังข้อสอบก็ต้องรื้อข้อสอบที่รั่ว (Pilfered Item) ออกไปจนหมด เหตุที่รื้อออกได้หมดเนื่องจากใน Hard Disk ที่ FBI ยึดมาได้นั้นมีข้อสอบที่รั่วออกไปด้วย
แล้วข้อสอบรั่วออกไปได้อย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าคนจะโกง ยังไงก็พยายามโกงได้อยู่ดีแม้จะพยายามป้องกันอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม
NBME นั้นรอบคอบมาก มีการถ่ายวิดีโอบันทึกผู้เข้าสอบเป็นรายคนไว้ตลอดหลายชั่วโมงที่ผู้เข้ารับการทดสอบทุกคน และ NBME ก็สังเกตในวิดีโอย้อนหลังไปสามปีก่อน และพบว่า Kuka เข้ามาสอบ USMLE Step1 หลายครั้ง เธอเป็นเจ้าของโรงเรียนติว Optima University แต่กลับทำคะแนนสอบ USMLE ได้แย่มากและไม่เคยสอบผ่านเลยสักครั้งเดียว ในวิดีโอพบว่าเธอไม่ได้สนใจทำข้อสอบ แต่กลับใช้ปากกากวาดไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อสอบอยู่ (การสอบ USMLE เป็นการสอบหน้าจอคอมพิวเตอร์) และเมื่อสืบไปอีกทีก็พบว่า Kuka นั้นปลอมใบปริญญาบัตรแพทยศาสตรบัณฑิตว่าจบแพทย์มาจาก University of Oradea มหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองจาก Romania
ด้วยวิธีการใช้ปากกาที่เป็น Scanner พิเศษ แสกนข้อสอบออกมาจากหน้าจอ ทำให้เธอมีข้อสอบ USMLE Step 1 และทำให้เธอมาเปิดโรงเรียนติว Optima University โดยให้ผู้เข้าเรียนท่องจำข้อสอบและเฉลยเข้าไปสอบ USMLE Step1 ทั้งเธอและสามีถูกจับ ถูกดำเนินคดีอาญาและแพ่งมากมาย
ผมเข้าไปหลังเกิดเหตุการณ์สองสามปี ไปทำงานวิจัยเพื่อหาวิธีการคิดคะแนนในกรณีที่มีข้อสอบรั่ว และถ้าเราไม่รู้ว่าข้อสอบรั่ว เราจะกรองคะแนนคิดคะแนนสอบอย่างไรด้วยวิธีการทางสถิติที่จะทำให้คะแนนสอบเข้านั้นมีความตรง มีความบริสุทธิ์และขจัดอิทธิพลของการที่ข้อสอบรั่วออกไปได้
สำหรับของไทยที่เกิดเหตุที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยรังสิต คณะแพทยศาสตร์นั้น ก็ยังไม่ร้ายแรงมากเพราะไม่ได้เกิดที่การสอบใบประกอบโรคศิลปะ แต่ถ้าแค่จะมาเรียนแพทย์ยังต้องโกงสอบเข้าแล้วหากได้เข้ามาเรียนและจบไปเป็นแพทย์แล้วจะเป็นแพทย์ที่ดีได้อย่างไร จึงต้องเขียนบทความนี้มาให้กำลังใจในสิ่งที่ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและยุติธรรมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว