xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.วอนแบงก์ช่วยคนแก่ ให้สินเชื่อตามมาสเตอร์แพลน3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แบงก์ชาติเผยกลุ่มคนหนุ่มสาวระวังใช้จ่ายส่งผลให้สินเชื่อรวมแผ่ว ยอมรับแม้ลดดอกเบี้ยเงินกู้มีผลต่อเศรษฐกิจน้อย ส่วนใหญ่ผู้มีรายได้น้อยยังเป็นคนขอกู้เป็นหลัก ระบุในแผนมาสเตอร์แพลน3 ขอความร่วมมือสถาบันการเงินออกสินเชื่อหรือดอกเบี้ยต่ำพิเศษให้คนแก่รับมือไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย เนื่องจากขณะนี้ความต้องการการใช้จ่ายและการลงทุนไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่คนขอสินเชื่อเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่มีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ขณะที่กลุ่มคนที่มีรายได้สูงหรือกลุ่มนักลงทุนยังคงชะลอหรือระมัดระวังตัวอยู่ ต่างรอดูความชัดเจนของภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ อีกทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ไม่ค่อยจะมีความต้องการขอสินเชื่อหรือการก่อหนี้แล้ว

“ปกติการขอสินเชื่อส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนจบใหม่หรือคนหนุ่มสาววัยทำงาน แต่ตอนนี้กลุ่มคนเหล่านี้ยังระมัดระวังใช้จ่ายอยู่ จึงส่งผลให้สินเชื่อรวมชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้” รองผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
ต่อข้อซักถามที่ว่า คนสูงอายุมีการออมผ่านเงินฝากค่อนข้างมาก เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลงจะส่งผลให้เงินออมส่วนนี้ลดลงตามนั้น รองผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ไม่อยู่จังหวะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปได้มากนัก ถือว่าค่อนข้างลำบาก อย่างไรก็ตาม ธปท.คำนึงข้อจำกัดการออมเพื่อวัยเกษียณหรือผู้สูงวัย ซึ่งในแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 (มาสเตอร์แพลน3) ได้ขอความร่วมมือสถาบันการเงินในระบบให้มีโครงการสินเชื่อเพื่อเกษียณอายุหรือโครงการอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับคนเกษียณอายุไปแล้ว เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ยังสามารถดำรงชีพอยู่ต่อไปได้

รายงานเศรษฐกิจและการเงินล่าสุดเดือน มี.ค.59 ระบุ ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า อีกทั้งสถาบันการเงินยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ปริมาณการระดมทุนของภาคเอกชนลดลงและส่งผลให้ยอดสินเชื่อรวมมีทั้งสิ้น 16.14 ล้านล้านบาท หรือขยายตัวอยู่ที่ 4.3% ชะลอจากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 5.5% หรือลดลงจากไตรมาสก่อน 1.79 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับการะดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้อย่างการออกหุ้นกู้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แม้ภาวะต้นทุนระดมทุนยังอยู่ในระดับต่ำก็ตาม

สำหรับมาสเตอร์แพลน3 มีระยะเวลาปี 59-63 หรือภายใน 5 ปีนี้ ธปท.วางแผนจะปรับปรุงหลักเกณฑ์กำกับดูแลให้สอดคล้องหลักสากลมากขึ้น โดยเฉพาะบทบาทของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) จะเข้ามาสู่บริการทางการเงินมากขึ้น และยกระดับการกำกับดูแลสาขาในต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งต้องสร้างความเท่าเทียมกันของบริหารทางการเงิน ทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงผ่อนคลายกฎให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งเสริมการออมเพื่อวัยเกษียณ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ.
กำลังโหลดความคิดเห็น