xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯค้านถอนฟ้อง7ตุลา ซัดป.ป.ช.จงใจช่วย"พัชรวาท"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360-ตัวแทนพันธมิตรฯ นำมวลชนและญาติผู้สูญเสียในเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลา 51 ยื่นหนังสือคัดค้าน ป.ป.ช. ถอนฟ้องคดี ชี้มีข้อสงสัยจงใจช่วย "พัชรวาท" หรือไม่ "ทนายนิติธร"ระบุศาลปกครองชี้แล้วว่ากระทำเกินกว่าเหตุ เตรียมหารือร้องศาลฏีกาต่อ พร้อมขอป.ป.ช. เปิดเผยสำนวนฟ้อง พร้อมขอเป็นโจทย์ร่วม ด้าน "บิ๊กต๊อก"ระบุสื่อคิดไปไกลว่าถอนฟ้องแล้ว แต่จริงๆ แค่ตั้งกรรมการถอนฟ้องมาทำงาน ยังไม่ได้ข้อสรุป "วัชรพล"ยันไร้ใบสั่ง รับมีส่วนได้เสีย เหตุลูกพี่เก่าเป็นจำเลย

จากกรณีที่มีกระแสข่าวปรากฏออกมาว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมจะถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนกว่า 400 คน และคดีนี้ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว โดยยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี , พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี , พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลยที่ 1-4 ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ

วานนี้ (4 พ.ค.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำและโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 พร้อมด้วยอดีตแกนนำหลายคน อาทิ นายศิริชัย ไม้งาม นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายสำราญ รอดเพ็ชร รวมทั้งนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ และคณะญาติพี่น้องผู้สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ยุติถอนฟ้องการดำเนินการดังกล่าว โดยมีนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

นายปานเทพกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช. พิจารณาทบทวนในเรื่องการถอนฟ้องผู้มีคำสั่งเกี่ยวข้องในคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะหลังจากที่ พล.ต.อ.วัชรพลได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นประธาน ป.ป.ช. ยังมีเหตุให้สงสัยว่ามาทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือผู้ที่สั่งการการสลายการชุมนุมดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจาก พล.ต.อ.วัชรพลเคยทำหน้าที่เป็นนายตำรวจติดตาม พล.ต.อ.พัชรวาท ที่เป็นจำเลยในการสั่งการสลายการชุมนุม

"ในทางกฎหมายไม่สามารถถอนฟ้องคดีได้ เพราะถ้าถอนฟ้อง ป.ป.ช.จะถูกดำเนินคดีอาญา และจะเป็นการทำลายความชอบธรรมต่อองค์กรอิสระ อีกทั้งจะสะท้อนความจริงใจต่อการปราบปรามการทุจริตได้หรือไม่ เพราะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้ ถูกแต่งตั้งโดยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดั้งนั้น ป.ป.ช.ชุดนี้ จึงหนีไม่พ้นการเชื่อมโยงกับรัฐบาลและ คสช. ซึ่งจะอ้างว่า ไม่เกี่ยวไม่ได้ รวมถึงมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นฉบับปราบโกง แต่ ป.ป.ช.จะดำเนินการแบบนี้จะปราบโกงได้อย่างไร จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ใช้อำนาจในการหยุดยั้งประธาน ป.ป.ช.ถอนฟ้องคดี และหวังว่า ป.ป.ช.จะทบทวนถอนฟ้องคดีดีงกล่าว ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช.ไม่ทบทวน แกนนำพันธมิตรฯ ก็จะต้องมาทบทวนบทบาทของตนเองเพื่อกรณีนี้อีกครั้ง"นายปานเทพกล่าว

นายนิติธรกล่าวว่า คดีสลายการชุมนุม ศาลปกครองชี้แล้วว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ จึงมายื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช.ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอให้ยุติดำเนินการที่นำไปสู่การถอนฟ้องคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากมองว่า พ.ร.บ.ป.ป.ช.ไม่ได้ใช้อำนาจในการถอนฟ้องไว้อย่างชัดเจนเหมือนกับกฎหมายของอัยการ และในกฎหมายบอกว่าถ้ามีกรณีถอนฟ้องไปก็ให้กลับมาฟ้องใหม่ได้ และถ้าส่งศาลพิจารณาแล้ว กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ไม่มีอำนาจในการถอนฟ้องคดี ตนจึงต้องมายื่นให้ยุติการดำเนินการ ทั้งนี้ หากยืนยันจะยังคงเดินหน้าถอนฟ้องคดี ตนก็จะดำเนินการฟ้อง ป.ป.ช.เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จะกลับไปปรึกษาทางกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า จะยื่นร้องต่อประธานศาลฎีกาและศาลอาญาหรือไม่ รวมถึงจะติดตามการดำเนินการกับสภาทนายความ ขณะเดียวกันจะขออนุญาตในการเข้าไปฟังการพิจารณาคดีทุกครั้ง รวมถึงขอให้ ป.ป.ช.เปิดเผยคำฟ้องต่อสาธารณชนทั้งหมด และเปิดเผยหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของจำเลยในคดีนี้ว่ามีสาระสำคัญเพียงใด ป.ป.ช.จึงต้องนำมาพิจารณาเอง และบัญชีพยานที่ยื่นใหม่มีใครบ้าง และกำลังดูข้อกฎหมายว่าจะสามารถขอเป็นโจทย์ร่วมในคดีนี้ได้หรือไม่

ส่วนกรณีที่มองว่า หนึ่งในผู้ถูกฟ้องคดี คือ พล.ต.อ.พัชวาท ที่มีนามสกุลเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่เรื่องหลัก คือ การที่ประชาชนยังไม่รับการชดเชยและดูแลเท่าที่ควร และศาลปกครองกลางมีคำสั่งแล้ว ซึ่งควรให้ศาลฎีกาฯ พิจารณาคดีต่อไป และคดีก็ขาดจาก ป.ป.ช.ไปแล้ว

ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้ให้ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ติดตามกรณีดังกล่าวแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมโดยตรง เพราะหน่วยงานมีหน้าที่ดูแลคดีทุจริต แต่ได้มีการทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. เท่านั้น รวมทั้งกรณีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหาร้องขอความเป็นธรรมไปยัง ป.ป.ช. จึงได้ตั้งคณะกรรมการถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 51 ขึ้นมาตรวจสอบ และขอให้ผลตรวจสอบเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะวิพากษ์วิจารณ์ได้

"เมื่อมีผู้มาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ก็ต้องทำให้เขากระจ่างในคำตอบ โดย ประธาน ป.ป.ช. ได้มีการสั่งให้ตั้งคณะกรรมการถอนฟ้องขึ้นมาใหม่ เพื่อทำคดีให้ชัดเจนที่สุด แต่วันนี้ การสร้างการรับรู้ในสังคมไปไกลถึงว่าจะถอนฟ้อง ทำให้ผู้ได้รับความเสียหายในคดีนี้ออกมาแสดงความคิดเห็นกัน ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ก็ได้ตอบไปแล้ว และไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล"พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษากรณีที่จำเลยในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทำเรื่องร้องขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช. ให้พิจารณาถอนฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นหัวหน้าคณะทำงานว่า เรื่องนี้คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายได้พิจารณาในข้อกฎหมาย และมีมีความเห็นว่าดำเนินการได้ แต่จะดำเนินการหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาตามหลักการและเหตุผลให้รอบด้าน อาทิ ข้อกฎหมายที่ยังเห็นแตกต่างกัน ข้อเท็จจริงที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอความเป็นธรรม ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ แม้แต่เรื่องผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ

ส่วนเหตุใดจำเลยถึงเพิ่งมาร้องขอความเป็นธรรมช่วงนี้ ทั้งที่ผ่านมาหลายปีนั้น ตนไม่ทราบ แต่ไม่ว่าใครขอความเป็นธรรมต่อกรรมการ ป.ป.ช. เข้ามา เราก็รับทุกเรื่อง โดยตั้งแต่ตนเข้ามาทำงาน ก็มีหลายเรื่องที่ร้องขอเข้ามาตลอดเวลา เป็นไปตามกระบวนการปกติ แต่เรื่องอื่นๆ อาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นที่สนใจของประชาชน และยืนยันว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ได้พิจารณาใดๆ เกี่ยวกับคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เพียงแต่ดูว่าเมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา เราจะดำเนินการอย่างไร จึงให้คณะทำงานพิจารณาอย่างรอบคอบ

เมื่อถามว่า สังคมยังข้องใจว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหานั้น เป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ.วัชรพล เรื่องนี้ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ในชีวิตราชการ 40 กว่าปี มีผู้บังคับบัญชา มีคนรู้จักมากมาย แต่เมื่อมาทำงานในหน่วยงานที่ต้องให้ความเป็นธรรม และเป็นจุดที่มีเฝ้ามองก็มีหน้าที่ทำให้สุจริต โปร่งใส เรามืออาชีพ ต้องทำเต็มที่ และยืนยันว่าไม่มีใบสั่ง เพราะการทำตามหน้าที่ ตามกฎหมาย ใครจะกล้าสั่งให้ทำในสิ่งที่ผิด ส่วนการลงมติในเรื่องใดๆ ก็ต้องครบองค์ประชุมกรรมการป.ป.ช. 9 คน แต่หากมีการโต้แย้งว่าตนมีสภาพร้ายแรง กรรมการทั้ง 8 คนจะเป็นผู้วินิจฉัย หากตนถูกชี้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ มีสภาพร้ายแรง ก็เข้าประชุมไม่ได้ ตนก็จะรู้สึกสบายใจและแฮปปี้

ด้านนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การถอนฟ้องเป็นสิ่งที่ ป.ป.ช. ต้องคิดและตระหนัก ซึ่งน.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.เป็นหนึ่งในผู้ที่ทักท้วงว่าไม่ควรที่จะถอนฟ้อง เพราะถือว่าเป็นกฎหมายมหาชน คิดว่าหลักการนั้น ก็ควรที่จะรักษาไว้ และในเมื่อเรื่องถึงศาลแล้ว ก็ควรเปิดโอกาสให้ศาลได้วินิจฉัย

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ออกมาทวงถามความรับผิดชอบจากนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ว่าไม่สมควรตั้งพล.ต.อ.วัชรพล เป็น ป.ป.ช. เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมในหลายประการ แต่กลับไม่มีการพิจารณาใดๆ กระทั่งปัจจุบัน พล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธาน ป.ป.ช. เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว และมีผลที่สร้างความเสียหาย คือ มีแนวคิดให้ ป.ป.ช. ฟ้องเฉพาะคดีอาญาจากความผิดทุจริต แต่ความผิดทางวินัยส่งเรื่องคืนต้นสังกัดพิจารณา และยังมีความพยายามถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ ซึ่งถามว่า รับคำสั่งใครมาหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น