การจัดงานครั้งนี้ ถือว่าบรรลุจุดมุ่งหมายเป็นอย่างดี คือ เป็นการรวม Startupในประเทศไทย ได้มาแชร์ไอเดียในการทำธุรกิจ เหล่านักธุรกิจ Startup ก็ได้พบกับนักลงทุน เกิดการต่อยอด และขยายของธุรกิจ นอกจากนั้นประชาชนทั่วไป คนรุ่นใหม่ ยังได้รู้จัก Startup มากขึ้น
สำหรับวันสุดท้ายในการจัดงาน ยังมีการเสวนาในหัวข้อ“การพัฒนาระบบนิเวศเพื่อสนับสนุน Startupในประเทศไทย” โดยมีผู้ร่วมเสวนาเป็นผู้ที่คว่ำหวอดในวงการ Startup ในประเทศไทย คือ คุณไผท ผดุงถิ่น ผู้ก่อตั้ง “Builk”และประธานสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ คุณชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ผู้ก่อตั้ง “Fire One One”และ “Wecosystem”คุณนที แสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง “Makerspace”และ คุณสาริกา อภิวรรธกกุล ผู้อำนวยการฝ่ายใบอนุญาตธุรกิจตัวกลาง และส่งเสริมธุรกิจ SME สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมี คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ผู้ร่วมก่อตั้ง“Techsauce”เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รัฐมีนโยบายส่งเสริม สตาร์ทอัพ ให้เกิดขึ้นใหม่ 4,000-5,000 ราย ในสิ้นปี 59 และถึงระดับ 10,000 ราย ในปี 60 เพื่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจประมาณ 100,000 ล้านบาท ในปีหน้า พร้อมแผนผลักดัน สร้างเขตชุมชนสตาร์ทอัพใหม่ 2 แห่ง ในย่านสยามสแควร์ และ ถนนนิมมานเหมินท์ จ.เชียงใหม่ และคาดว่าจะมีชุมชนสตาร์ทอัพของภาครัฐ 4 แห่ง ภาคเอกชน 4 แห่ง ทั้งมีแผนร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เพื่อจัดทำศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ 20-30 แห่ง ในปีนี้ด้วย
สำหรับวันสุดท้ายในการจัดงาน ยังมีการเสวนาในหัวข้อ“การพัฒนาระบบนิเวศเพื่อสนับสนุน Startupในประเทศไทย” โดยมีผู้ร่วมเสวนาเป็นผู้ที่คว่ำหวอดในวงการ Startup ในประเทศไทย คือ คุณไผท ผดุงถิ่น ผู้ก่อตั้ง “Builk”และประธานสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ คุณชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ผู้ก่อตั้ง “Fire One One”และ “Wecosystem”คุณนที แสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง “Makerspace”และ คุณสาริกา อภิวรรธกกุล ผู้อำนวยการฝ่ายใบอนุญาตธุรกิจตัวกลาง และส่งเสริมธุรกิจ SME สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมี คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ผู้ร่วมก่อตั้ง“Techsauce”เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รัฐมีนโยบายส่งเสริม สตาร์ทอัพ ให้เกิดขึ้นใหม่ 4,000-5,000 ราย ในสิ้นปี 59 และถึงระดับ 10,000 ราย ในปี 60 เพื่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจประมาณ 100,000 ล้านบาท ในปีหน้า พร้อมแผนผลักดัน สร้างเขตชุมชนสตาร์ทอัพใหม่ 2 แห่ง ในย่านสยามสแควร์ และ ถนนนิมมานเหมินท์ จ.เชียงใหม่ และคาดว่าจะมีชุมชนสตาร์ทอัพของภาครัฐ 4 แห่ง ภาคเอกชน 4 แห่ง ทั้งมีแผนร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เพื่อจัดทำศูนย์บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ 20-30 แห่ง ในปีนี้ด้วย
