ก.คลัง จับมือ 4 หน่วยงาน ทุ่ม 400 ล้านบาท ตั้ง Creative Innovation Hub ศูนย์กลางสร้าง Startup ครบวงจร ตั้งไข่ยันติดปีก คาด 5 ปี มีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดตั้ง “กิจการวิสาหกิจเริ่มต้นสร้างสรรค์เพื่อสังคม” หรือ Creative Innovation Hub ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการสร้างนักรบทางเศรษฐกิจรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Startup ซึ่งจะเป็นผู้ช่วยดูแลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริม กลุ่ม Startup ในภูมิภาค โดยที่ผ่านมามีนโยบายต่างๆ เช่น ตั้งคณะกรรมการวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ ซึ่งตนรับหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการทำงานการส่งเสริม กลุ่ม Startup ของทุกหน่วยงาน รวมถึง มีการจัดตั้งกองทุนเริ่มต้นแห่งชาติ วงเงิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากเงินของกองทุนวายุภักษ์ 2,000 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย 1,000 ล้านบาท เพื่อจะสนับสนุนให้แก่ Startup เนื่องจากการทำธุรกิจของ Startup มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง จำเป็นต้องอาศัยความกล้าในการอนุมัติเงินทุน จึงจำเป็นต้องมีกองทุนดังกล่าว นอกจากนั้น ยังเว้นเก็บภาษีให้แก่ Startup ให้ช่วง 5 ปีแรก เป็นต้น
สำหรับการจัดตั้งจัดตั้ง “กิจการวิสาหกิจเริ่มต้นสร้างสรรค์เพื่อสังคม” หรือ Creative Innovation Hub ซึ่งเป็นความร่วมมือของกระทรวงการคลัง กับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย 4 หน่วยงานดังกล่าว จะสนับสนุนเงินทุนรายละ 100 ล้านบาท รวมเป็น 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ Creative Innovation Hub จะทำหน้าที่เป็นศูนย์สร้างนักรบทางเศรษฐกิจรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Startup อย่างครบวงจร ตั้งแต่การส่งเสริมความรู้ การบ่มเพาะธุรกิจ และต่อยอดธุรกิจไปสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึง ให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มาทดลองไอเดียสร้างนวัตกรรม จากนั้น จะมีทีมที่ปรึกษาทางธุรกิจ และสุดท้ายจะช่วยสนับสนุนด้านเงินลงทุน
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานที่ตั้ง Creative Innovation Hub ชั่วคราวจะใช้อาคารของเอสเอ็มอีแบงก์สำนักงานใหญ่ และอนาคตที่ตั้งถาวรจะอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้ง เวลานี้กำลังทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิมาทำหน้าที่ผู้บริหารศูนย์แห่งนี้ด้วย ซึ่งได้รายชื่อแล้ว แต่จะขอประกาศอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจ สามารถเข้ามาใช้บริการได้ทันที โดยสิ่งสำคัญต้องมีไอเดียธุรกิจมานำเสนอ
สำหรับ Creative Innovation Hub คาดว่าในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ จะมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มาเข้าโครงการไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย แต่ยังไม่ตั้งเป้าว่าจะสำเร็จจะก้าวสู่การเป็น Startup ที่ประสบความสำเร็จได้กี่ราย อย่างไรก็ตาม จากมาตรฐานสากล การเกิดขึ้น Startup หากอัตราส่วนอยู่ที่ 3-10% ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว เพราะแม้อัตรารอดและเกิดขึ้นจะน้อย แต่ผลสำเร็จและมูลค่าจะสูงอย่างยิ่ง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *