พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมครม. ว่า ได้สั่งการถึงสิ่งที่จะทำใน 2 ปี ระหว่างปี 59 ถึง ปี 60 ที่จะต้องชัดเจนว่า อะไรต้องทำต่อในแผนปฏิรูป และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือตามแผนสภาพัฒน์ แผนละ 5 ปี อีก 4 แผน โดยนำเอางานทั้ง 11 วาระงานของ คสช. และ อีก 37 วาระงาน ของสภาปฏิรูปประเทศ มาสร้างความชัดเจนว่าสิ่งใดที่จะทำ หรือจะมีผลผูกพันต้องทำต่อในระยะเวลาที่ไม่ยาวนัก เพราะเราต้องให้ดำเนินการในช่วงที่รัฐบาลนี้ยังอยู่ จะได้ไม่เป็นภาระมากนัก และจะได้สอดคล้องกับการทำงบประมาณ ปี 60 ซึ่งจะผูกพันไปถึงงบประมาณ ปี 61 ถึงแม้ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่หรือไม่อยู่ ก็ต้องทำงบประมาณตรงนี้ไว้ ซึ่งต่อไปเป็นเรื่องของรัฐบาลที่เข้ามาใหม่ จะไปทำอะไรก็แล้วแต่เขา
สำหรับวาระงานที่จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนนั้น เช่น เรื่องการเกษตร การบริหารจัดการน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข ว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงอย่างไร ในอนาคตจะเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจอย่างไร รัฐจะอุดหนุนตรงไหน เพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชน หากต้องการให้มีความสะดวกมากขึ้น อาจจะต้องพูดคุยกับภาคเอกชน เราจะทำให้ดีขึ้น และยืนยันว่า จะไม่ลดของเดิมแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่จะต้องทำให้ชัดเจนอีกคือ เรื่องการปรับโครงสร้างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) ที่จะนำไปสู่การสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิตอล ในปี 60 อย่างน้อยต้องสัมฤทธิ์ผลในระยะที่ 1 ส่วนเรื่องความมั่นคง เรามีแผนสำหรับการพัฒนา กองทัพ การปฏิรูปตำรวจ ต้องมีความชัดเจนขึ้น ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว
ส่วนเรื่องกฎหมาย และงานในกระบวนการยุติธรรม จะทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นว่า กฎหมายที่เราออกไปแล้ว เป็นอย่างไร เพราะกฎหมายไม่ใช่เรื่องพ.ร.บ.อย่างเดียว แต่รวมถึง กฎกระทรวง ระเบียบต่างๆ ด้วย ต้องทำกฎหมายที่เร่งด่วน และเป็นพื้นฐานของประเทศก่อน ส่วนกฎหมายที่ทุกคนเป็นห่วงว่าจะออกไม่ได้ วันนี้ออกได้ ต้องออกในขั้นต้นก่อน ดูในสิ่งที่เราต้องการแก้ปัญหาอะไร มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การทำงานเกิดขึ้น ซึ่งวันหน้ากฎหมายเหล่านี้ สามารถเพิ่มเติมได้
สำหรับวาระงานที่จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนนั้น เช่น เรื่องการเกษตร การบริหารจัดการน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข ว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงอย่างไร ในอนาคตจะเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจอย่างไร รัฐจะอุดหนุนตรงไหน เพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชน หากต้องการให้มีความสะดวกมากขึ้น อาจจะต้องพูดคุยกับภาคเอกชน เราจะทำให้ดีขึ้น และยืนยันว่า จะไม่ลดของเดิมแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่จะต้องทำให้ชัดเจนอีกคือ เรื่องการปรับโครงสร้างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) ที่จะนำไปสู่การสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิตอล ในปี 60 อย่างน้อยต้องสัมฤทธิ์ผลในระยะที่ 1 ส่วนเรื่องความมั่นคง เรามีแผนสำหรับการพัฒนา กองทัพ การปฏิรูปตำรวจ ต้องมีความชัดเจนขึ้น ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว
ส่วนเรื่องกฎหมาย และงานในกระบวนการยุติธรรม จะทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นว่า กฎหมายที่เราออกไปแล้ว เป็นอย่างไร เพราะกฎหมายไม่ใช่เรื่องพ.ร.บ.อย่างเดียว แต่รวมถึง กฎกระทรวง ระเบียบต่างๆ ด้วย ต้องทำกฎหมายที่เร่งด่วน และเป็นพื้นฐานของประเทศก่อน ส่วนกฎหมายที่ทุกคนเป็นห่วงว่าจะออกไม่ได้ วันนี้ออกได้ ต้องออกในขั้นต้นก่อน ดูในสิ่งที่เราต้องการแก้ปัญหาอะไร มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การทำงานเกิดขึ้น ซึ่งวันหน้ากฎหมายเหล่านี้ สามารถเพิ่มเติมได้
