พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และร่างแผนพัฒนารัฐบาลดิจิตอลระยะ 3 ปี เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีดิติจอล โดยให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นหน่วยงานหลัก เพื่อให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ทั้งนี้ มีเป้าหมาย 4 ระยะ คือ ระยะแรก 1 ปี 6 เดือน ประเทศไทยจะมีการลงทุนและสร้างฐานรากในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอล ระยะ 2 เวลา 5 ปี ทุกภาคส่วนของประเทศจะพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอลตามแนวประชารัฐ ระยะ 3 เวลา 10 ปี ไทยจะก้าวสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์นวัตกรรมดิจิตอลอย่างเต็มประสิทธิภาพ และระยะ 4 เวลา 10-20 ปี ไทยจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิตอลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน
เมื่อบรรลุทั้ง 4 ระยะแล้ว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุด 15 อันดับแรกของไทย และเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้สูงมีสัดส่วนมูลค่าอุตสาหกรรมดิจิตอลต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 นอกจากนี้ ประชาชนจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและมีความรู้เข้าใจในเทคโนโลยีดิจิตอล
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้ปรับปรุงสภาพการจ้างเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จากเดิมไม่ได้กำหนดสิทธิ์การได้รับค่ารักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลของเอกชนประเภทผู้ป่วยนอกของพนักงาน ลูกจ้าง และบุคคลในครอบครัว โดยให้มีสิทธิ์ได้รับค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกจากเอกชนและคลินิกเท่าที่จ่ายจริงปีละไม่เกิน 3,600 บาท มีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มีเป้าหมาย 4 ระยะ คือ ระยะแรก 1 ปี 6 เดือน ประเทศไทยจะมีการลงทุนและสร้างฐานรากในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอล ระยะ 2 เวลา 5 ปี ทุกภาคส่วนของประเทศจะพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอลตามแนวประชารัฐ ระยะ 3 เวลา 10 ปี ไทยจะก้าวสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์นวัตกรรมดิจิตอลอย่างเต็มประสิทธิภาพ และระยะ 4 เวลา 10-20 ปี ไทยจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิตอลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน
เมื่อบรรลุทั้ง 4 ระยะแล้ว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุด 15 อันดับแรกของไทย และเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้สูงมีสัดส่วนมูลค่าอุตสาหกรรมดิจิตอลต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 นอกจากนี้ ประชาชนจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและมีความรู้เข้าใจในเทคโนโลยีดิจิตอล
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้ปรับปรุงสภาพการจ้างเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จากเดิมไม่ได้กำหนดสิทธิ์การได้รับค่ารักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลของเอกชนประเภทผู้ป่วยนอกของพนักงาน ลูกจ้าง และบุคคลในครอบครัว โดยให้มีสิทธิ์ได้รับค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกจากเอกชนและคลินิกเท่าที่จ่ายจริงปีละไม่เกิน 3,600 บาท มีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป