เพิ่งสรุปได้หมาดๆ สำหรับรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ซึ่งออกอากาศทุกวันหลังเคารพธงชาติ 18.00 น. ปรากฏว่า “เรตติ้ง” หรือยอดผู้เข้าชมตกรูด จนต้องเตรียมยกเครื่องกันครั้งใหญ่
รายการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกอากาศผ่านทีวีรวมการเฉพาะกิจมี 2 รายการประจำคือ “เดินหน้าประเทศไทย” และ “คืนความสุขให้คนในชาติ”
“เดินหน้าประเทศไทย” นั้น หมุนเวียนเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการไปเรื่อย โดยเป็นการสัมภาษณ์รัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง หน่วยงานต่างๆ หรือแขกรับเชิญภาคเอกชนก็มี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ส่วน “คืนความสุขให้คนในชาติ” นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เดี่ยวไมโครโฟน ทุกวันศุกร์เวลาประมาณ 20.15-21.00 น. หรือประมาณ 1 ชั่วโมง
ทั้งสองรายการยึดทีวีทุกช่อง ไม่เว้นทีวีดิจิตอล ยกเว้นเคเบิ้ลทีวีที่บอกรับเป็นสมาชิก วิทยุทุกคลื่นความถี่ทั้งกรุเทพฯ และต่างจังหวัด
คสช.ได้เชิญหลายหน่วยงานมาปรึกษาหารือ เพื่อปรับปรุงรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” หลังพบว่า มีผู้ชมรายการจำนวนน้อยลง และช่วงเวลาออกอากาศ กลายเป็นช่วงประหยัดไฟ 30 นาที เพราะประชาชนพากันปิดทีวี เพื่อหนีรายการ และจะเปิดใหม่เมื่อรายการจบแล้ว
แม้ยังไม่มีการพูดถึงการปรับปรุงรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” แต่คาดหมายได้ว่า เรตติ้งไม่น่าจะแตกต่างจากรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” สักเท่าไหร่นัก โดยช่วงเวลาประหยัดไฟเหมือนกัน แต่ประหยัดได้มากกว่า เพราะต้องปิดทีวีหนีถึง 1 ชั่วโมง
รายการของพล.อ.ประยุทธ์จะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไรหรือไม่ คงว่ากันต่อไป แต่การประกาศยกเครื่อง “เดินหน้าประเทศไทย” ถือว่า คสช.เปิดใจกว้าง โดยยอมรับว่า รายการนี้ตกอยู่ในภาวะ “ถอยหลัง” เพราะรูปแบบรายการน่าเบื่อ จนต้องกด “รีโมต” ปิดทีวีหนี
ดีแล้วที่ คสช.กล้ายอมรับความจริง เพราะถ้าอาย เดินหน้าทำรายการต่อไป ไม่ปรับปรุงรูปแบบใหม่ อีกไม่นาน ทั้งพิธีกรที่หมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ ทั้งรัฐมนตรีหรือข้าราชการ รวมทั้งแขกรับเชิญต่างๆ คงเบื่อกันไปเอง ไม่อยากโผล่หน้าจอ เพราะพูดไปแล้วไม่มีใครฟัง จะเสียเวลาพูดทำไม
ช่วงหลังๆ รายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ไม่ว่าจะเชิญใครมาสัมภาษณ์ จะสนทนากันด้วยปัญหาใด หัวข้ออะไร ชาวบ้านไม่อยากรับรู้แล้ว
ยังไม่รู้ว่า โฉมใหม่ของ “เดินหน้าประเทศไทย” จะเป็นอย่างไร เรียกเรตติ้งได้หรือไม่ และถ้ายังเรียกคนดูไม่ได้ จะถอดใจยุบรายการ คืนช่วงเวลาให้สถานีแต่ละช่อง นำไปบริหารสร้างรายได้หรือเปล่า
ส่วนรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” แม้ คสช.ยังไม่หยิบขึ้นมาประเมิน แต่ประชาชนผู้ชมทั้งประเทศประเมินไปแล้ว
เรตติ้งระดับไหนไม่ต้องพูดกัน ต้องเตรียมกด “รีโมต” ปิดทีวีหนีหรือไม่ อย่าให้ต้องบอกกันเลย
เวลา 1 ชั่วโมงสำหรับจัดรายการทีวีหรือพูดวิทยุถือว่าเยอะมาก ถ้าพูดไม่เก่งจริงจัดรายการไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องพูดคนเดียวโดยไม่มีโฆษณาขั้นอีกด้วย
ความสามารถในการเดี่ยวไมโครโฟนของพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีปัญหา และต้องถือว่าเก่ง เพราะพูดคนเดียวโดยไม่สะดุด แถมยังพูดได้ทุกเรื่อง
แต่ทำไมจึงไม่ค่อยมีคนฟัง ทำไมจึงต้องปิดทีวีหนี นี่คือโจทย์ที่ต้องทบทวน
ปัญหาเรตติ้งรายการทีวีของ คสช.ตก เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลงานของรัฐบาล เพราะถ้าสร้างผลงานดี แก้ปัญหาต่างๆ เข้าตาประชาชน ทำไมจะไม่ติดตามชมรายการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล
แต่เกือบจะ 2 ปีแล้ว มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้างล่ะ แก้ปัญหาอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้างล่ะ นอกจาก “ชกลม” ไปวันๆ
จะปรับรูปแบบรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” หรือจะเปลี่ยนโฉมรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ก็ไม่อาจเรียกเรตติ้งคนดูได้ ถ้าไม่ยกเครื่องครั้งใหญ่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
รายการที่ไม่มีคนดู ต้องตีบทให้แตกว่า ผู้ชมเบื่อรูปแบบหรือตัวแสดงในรายการ
รายการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกอากาศผ่านทีวีรวมการเฉพาะกิจมี 2 รายการประจำคือ “เดินหน้าประเทศไทย” และ “คืนความสุขให้คนในชาติ”
“เดินหน้าประเทศไทย” นั้น หมุนเวียนเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการไปเรื่อย โดยเป็นการสัมภาษณ์รัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง หน่วยงานต่างๆ หรือแขกรับเชิญภาคเอกชนก็มี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ส่วน “คืนความสุขให้คนในชาติ” นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เดี่ยวไมโครโฟน ทุกวันศุกร์เวลาประมาณ 20.15-21.00 น. หรือประมาณ 1 ชั่วโมง
ทั้งสองรายการยึดทีวีทุกช่อง ไม่เว้นทีวีดิจิตอล ยกเว้นเคเบิ้ลทีวีที่บอกรับเป็นสมาชิก วิทยุทุกคลื่นความถี่ทั้งกรุเทพฯ และต่างจังหวัด
คสช.ได้เชิญหลายหน่วยงานมาปรึกษาหารือ เพื่อปรับปรุงรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” หลังพบว่า มีผู้ชมรายการจำนวนน้อยลง และช่วงเวลาออกอากาศ กลายเป็นช่วงประหยัดไฟ 30 นาที เพราะประชาชนพากันปิดทีวี เพื่อหนีรายการ และจะเปิดใหม่เมื่อรายการจบแล้ว
แม้ยังไม่มีการพูดถึงการปรับปรุงรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” แต่คาดหมายได้ว่า เรตติ้งไม่น่าจะแตกต่างจากรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” สักเท่าไหร่นัก โดยช่วงเวลาประหยัดไฟเหมือนกัน แต่ประหยัดได้มากกว่า เพราะต้องปิดทีวีหนีถึง 1 ชั่วโมง
รายการของพล.อ.ประยุทธ์จะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไรหรือไม่ คงว่ากันต่อไป แต่การประกาศยกเครื่อง “เดินหน้าประเทศไทย” ถือว่า คสช.เปิดใจกว้าง โดยยอมรับว่า รายการนี้ตกอยู่ในภาวะ “ถอยหลัง” เพราะรูปแบบรายการน่าเบื่อ จนต้องกด “รีโมต” ปิดทีวีหนี
ดีแล้วที่ คสช.กล้ายอมรับความจริง เพราะถ้าอาย เดินหน้าทำรายการต่อไป ไม่ปรับปรุงรูปแบบใหม่ อีกไม่นาน ทั้งพิธีกรที่หมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ ทั้งรัฐมนตรีหรือข้าราชการ รวมทั้งแขกรับเชิญต่างๆ คงเบื่อกันไปเอง ไม่อยากโผล่หน้าจอ เพราะพูดไปแล้วไม่มีใครฟัง จะเสียเวลาพูดทำไม
ช่วงหลังๆ รายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ไม่ว่าจะเชิญใครมาสัมภาษณ์ จะสนทนากันด้วยปัญหาใด หัวข้ออะไร ชาวบ้านไม่อยากรับรู้แล้ว
ยังไม่รู้ว่า โฉมใหม่ของ “เดินหน้าประเทศไทย” จะเป็นอย่างไร เรียกเรตติ้งได้หรือไม่ และถ้ายังเรียกคนดูไม่ได้ จะถอดใจยุบรายการ คืนช่วงเวลาให้สถานีแต่ละช่อง นำไปบริหารสร้างรายได้หรือเปล่า
ส่วนรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” แม้ คสช.ยังไม่หยิบขึ้นมาประเมิน แต่ประชาชนผู้ชมทั้งประเทศประเมินไปแล้ว
เรตติ้งระดับไหนไม่ต้องพูดกัน ต้องเตรียมกด “รีโมต” ปิดทีวีหนีหรือไม่ อย่าให้ต้องบอกกันเลย
เวลา 1 ชั่วโมงสำหรับจัดรายการทีวีหรือพูดวิทยุถือว่าเยอะมาก ถ้าพูดไม่เก่งจริงจัดรายการไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องพูดคนเดียวโดยไม่มีโฆษณาขั้นอีกด้วย
ความสามารถในการเดี่ยวไมโครโฟนของพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีปัญหา และต้องถือว่าเก่ง เพราะพูดคนเดียวโดยไม่สะดุด แถมยังพูดได้ทุกเรื่อง
แต่ทำไมจึงไม่ค่อยมีคนฟัง ทำไมจึงต้องปิดทีวีหนี นี่คือโจทย์ที่ต้องทบทวน
ปัญหาเรตติ้งรายการทีวีของ คสช.ตก เกี่ยวข้องโดยตรงกับผลงานของรัฐบาล เพราะถ้าสร้างผลงานดี แก้ปัญหาต่างๆ เข้าตาประชาชน ทำไมจะไม่ติดตามชมรายการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล
แต่เกือบจะ 2 ปีแล้ว มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้างล่ะ แก้ปัญหาอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้างล่ะ นอกจาก “ชกลม” ไปวันๆ
จะปรับรูปแบบรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” หรือจะเปลี่ยนโฉมรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ก็ไม่อาจเรียกเรตติ้งคนดูได้ ถ้าไม่ยกเครื่องครั้งใหญ่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
รายการที่ไม่มีคนดู ต้องตีบทให้แตกว่า ผู้ชมเบื่อรูปแบบหรือตัวแสดงในรายการ
