xs
xsm
sm
md
lg

ทางหลุดพ้นมรดกบาป-ประยุทธ์ต้องกล้าเดินหน้าปฏิรูป !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้จะมีเสียงสาปแช่งประณามจากคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่มีจิตใจเป็นข้าทาสมหาอำนาจ หลังจากทางการสหรัฐอเมริกาประกาศคงอันดับประเทศไทยว่าอยู่ในระดับ “เทียร์ 3” หรือระดับต่ำสุดของประเทศ ไม่แก้ปัญหา หรือจัดการกับเรื่อง “การค้ามนุษย์” หรือที่เรียกว่า “การค้าทาสยุคใหม่” มองว่า เบื้องหลังของคำประกาศดังกล่าวแอบแฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมผลประโยชน์ระหว่างประเทศ มีเจตนาทำลายเศรษฐกิจของไทย มากกว่าการพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงแบบเต็มร้อย

เสียงวิจารณ์ด่าทอสหรัฐอเมริกาคราวนี้ ไม่ใช่มีแต่เสียงคนไทย (ที่ไม่มีจิตใจเป็นทาส) เท่านั้น แม้แต่คนในสหรัฐฯด้วยกันเอง ก็ยังมองเห็นถึงความผิดปกติในครั้งนี้ โดยเฉพาะนักการเมืองสายรีพับลิกันที่แม้ไม่ได้เอ่ยถึงไทยโดยตรง แต่ได้เปรียบเทียบให้เห็นถึงการยกระดับขึ้นมาของบางประเทศ ซึ่งไม่ว่ามองในมุมไหนก็ไม่มีผลงานดีขึ้นจากเดิมเลย แต่ด้วยผลประโยชน์ที่จะได้อยู่ตรงหน้าก็ต้อง “ตอบแทน” กันแบบ “ถึงขนาด” กันอย่างที่เห็น

อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันอีกด้านหนึ่ง เมื่อเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมา มันก็ย่อมถึงเวลาที่จะต้องมีการทบทวนอะไรบางอย่างขึ้นมาเหมือนกัน โดยเฉพาะการหันกลับมาสำรวจภายในของเราเองอย่างจริงจังเสียที ทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อไม่ให้เราไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง หรือลูกไล่ของมหาอำนาจอีกต่อไป

แต่ก่อนที่จะทำแบบนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมี “พลัง” พอ เราก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันภายในแบบ “ขนานใหญ่” และต้องทำด้วยความรวดเร็วทันที จะชักช้าอ้างโน่นอ้างนี่ไม่ได้อีกแล้ว เพราะถ้าพิจารณาจากข้อกล่าวหาหรือเหตุผลหนึ่งที่นำมาอ้างเพื่อกดไทยไปเป็นหนึ่งในประเทศป่าเถื่อนล้าหลังดังกล่าว ก็คือ ไทยยังมีปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ ค้าประเวณี และมีข้าราชการทุจริตอยู่เบื้องหลังขบวนการเถื่อนพวกนี้อยู่จำนวนมาก ซึ่งหากมองกันตามความเป็นจริงแล้ว “พูดอีกก็ถูกอีก” แต่ความหมายที่เรามองการให้คะแนนของสหรัฐฯครั้งนี้ หรือครั้งไหน ๆ ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องที่ว่าคือเรื่องการทุจริตของข้าราชการไทย เรื่องค้าประเวณี การค้ามนุษย์เอาเปรียบแรงงานต่างด้าวว่าไม่มีจริง เพียงแต่ว่าที่เราจับได้ว่ามันไม่ได้มาตรฐานเมื่อเปรียบเทียบกับบางประเทศที่ถูกเลื่อนอันดับขึ้นไปนั้น มีพฤติกรรมไม่ได้แตกต่างจากไทยต่างหาก หรือเลวร้ายกว่าด้วยซ้ำไป แต่เอาเถอะช่างมันในเมื่อเขาเป็นคนกำหนดก็ว่าไป

แต่สำหรับประเทศไทยหากต้องการหลุดพ้นจาก “มรดกบาป” ที่ว่านี้ นั่นคือ เป็นผลพวงมาจากรัฐบาลที่ผ่านมา ๆ ได้สร้างสิ่งเลวร้ายเอาไว้ และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาหมักหมมต่อเนื่องไปในอนาคต เราก็ต้องมีการแก้ไขกันอย่างขนานใหญ่ นั่นคือ การ “ปฏิรูปทุกด้าน” ที่สำคัญ ขึ้นอยู่กับว่าผู้นำในยุคปัจจุบันคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะมีความ “กล้าหาญ” และมุ่งมั่นในเรื่องดังกล่าวมากแค่ไหน

หากจำกันได้หลังการเกิดขึ้นของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศว่าจะ “ปฏิรูปทุกด้าน” ตามความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่า การปฏิรูประบบราชการจะต้องเกิดขึ้น และในจำนวนนั้นก็ต้องการให้มีการ “ปฏิรูปองค์กรตำรวจ” เป็นอันดับต้น ๆ หรือจะเรียกว่า “ต้องมาก่อน” ก็ว่าได้ แต่ที่ผ่านมาเขากลับมีท่าทีอิดออด ไม่ทำตามที่พูดเอาไว้ อ้างว่าไม่มีเวลา หรือถ้าดำเนินการปฏิรูปตำรวจแล้วจะไม่มีคนทำงานอะไรประมาณนั้น แล้วโยนให้เป็นภาระของรัฐบาลหน้า ซึ่งความหมายที่ตามมาก็คือ “ชาติหน้าก็ไม่มีทางปฏิรูปตำรวจ” ได้สำเร็จ เพราะหากรัฐบาลหน้าที่มาจากการเลือกตั้ง มาจากนักการเมืองก็ยิ่งดึงตำรวจมาใช้แสวงหาอำนาจ ขณะที่ตำรวจก็รับใช้นักการเมือง เป็นวงจรอุบาทว์จนกลายเป็นวิกฤตบ้านเมืองอย่างที่เคยเห็นมาแล้ว

หากให้กล่าวตรง ๆ ข้อกล่าวหาของสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า มีข้ราชการไทยทุจริตและอยู่เบื้องหลังขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งของการคงระดับเทียร์ 3 ความหมายก็คงเป็นถึงข้าราชการตำรวจ หรือทหารบางคน รวมอยู่ด้วยแน่นอน

แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะอ้างกำลังดำเนินการแก้ปัญหาตามโรดแมป มีปัญหาสะสมมานานจะแก้ด้วยความรวดเร็วชั่วข้ามคืนไม่ได้ แต่สิ่งที่จับต้องได้ และสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นหลักประกันในเรื่องความเป็นธรรม การบังคับใช้กฎหมายแบบไม่เลือกปฏิบัติ ในเรื่องการปฏิรูปตำรวจ และกระบวนการยุติธรรมต้นทางกลับไม่มีการขยับ และเขาก็ปล่อยวางเฉยไม่มีท่าทีชัดเจนขึ้นมาเลย อย่างไรก็ดี อาจโต้แย้งกลับมาว่าทุกอย่างกำลังอยู่ในสภาปฏิรูปฯ อยู่ในรัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่างกันอยู่ให้รอดูก่อน ก็อาจฟังได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคนขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น

ดังนั้น การที่มาบ่นน้อยใจว่าอุตส่าห์พูด “คืนความสุข ”ให้คนไทยทุกวันศุกร์ แต่ไม่มีใครอยากฟังชาวบ้านปิดทีวีหนี ก็ในเมื่อสิ่งที่ชาวบ้านสัมผัสได้ผ่านมาเป็นปีแล้วยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และที่บอกว่าจะปฏิรูปทุกด้าน โดยเฉพาะความหวังเรื่องการปฏิรูปตำรวจที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ทำเป็นอันดับแรกพร้อมกับเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง จนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่กับที่ แบบนี้มันก็ต้องทบทวนกันใหม่เหมือนกัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น