นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และมหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวน 47 แห่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และวางแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในภารกิจการออกเสียงประชามติ ซึ่งจะมีการพิจารณาจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน
นายประวิช กล่าวว่า จะใช้นักศึกษาจากสถาบันราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชมงคล เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำประชามติ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ โดยจะทำหน้าที่ในการเผยแพร่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกต้อง เนื่องจากมีเครือข่ายของบรรดานักศึกษาอยู่แล้ว ก็จะเป็นการง่าย และขณะนี้ก็มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย กว่า 7,000 แห่ง ในทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้จัดส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ ครม.ในวันนี้ (29 ส.ค.) และครม. มีการแจ้งกกต.ให้เริ่มกระบวนการทำประชามติ ตามขั้นตอนเมื่อ กรธ.ส่งสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญมาให้กกต. ในวันที่ 13 เม.ย.นี้ 1 เดือนหลังจากนั้น จะมีการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญและทยอยเผยแพร่ โดยกกต. มั่นใจว่า จะสามารถเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ในช่วงเวลา 4 เดือน ก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยและเครือข่ายที่ทำการเผยแพร่ จะมีหน้าที่เพียงชี้แจงรายละเอียดของรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะไม่สามารถไปชี้นำให้ลงประชามติอย่างใดอย่างหนึ่งได้ โดยการไปเผยแพร่จะเป็นลักษณะของการไปพบปะตามบ้าน หรือชุมชน
"ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะออกมาได้กำหนดทิศทางให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม แต่ต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์หลักเกณฑ์ ไม่หยาบคาย ไม่บิดเบือน ไม่ปลุกระดม หรือข่มขู่"
นายประวิช ยังกล่าวถึง การจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่างรัฐธรรมนูญว่า จะไม่มีการจัดเวทีสด แต่ กกต.จะมีการออกระเบียบให้มีการขึ้นทะเบียนของกลุ่มที่สนับสนุน และคัดค้าน ร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะให้ มีการส่งผู้แทนมาแสดงความคิดเห็นผ่านวิธีการบันทึกเทป และ กกต.จะนำไปเผยแพร่ตามสื่อต่าง เบื้องต้นได้มีการกำหนดไว้ประมาณ 10 ประเด็น ทั้งนี้ ยอมรับว่า อยากจะเชิญผู้ที่เป็นแกนนำของฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายของฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. แกนนำ กปปส. มาร่วม เพราะเราอยากให้วิธีนี้สะท้อนความเห็น เพื่อให้ประชาชนได้ฟังในสิ่งที่ถูกต้องอย่างมีเหตุมีผล เนื่องจากหากไปดำเนินการกันเอง ก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายได้ และในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องให้คสช. ยกเลิกประกาศในเรื่องของการชุมนุม เพราะกรณีนี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่การชุมนุม
นายประวิช กล่าวว่า จะใช้นักศึกษาจากสถาบันราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชมงคล เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำประชามติ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ โดยจะทำหน้าที่ในการเผยแพร่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกต้อง เนื่องจากมีเครือข่ายของบรรดานักศึกษาอยู่แล้ว ก็จะเป็นการง่าย และขณะนี้ก็มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย กว่า 7,000 แห่ง ในทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้จัดส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ ครม.ในวันนี้ (29 ส.ค.) และครม. มีการแจ้งกกต.ให้เริ่มกระบวนการทำประชามติ ตามขั้นตอนเมื่อ กรธ.ส่งสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญมาให้กกต. ในวันที่ 13 เม.ย.นี้ 1 เดือนหลังจากนั้น จะมีการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญและทยอยเผยแพร่ โดยกกต. มั่นใจว่า จะสามารถเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ในช่วงเวลา 4 เดือน ก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยและเครือข่ายที่ทำการเผยแพร่ จะมีหน้าที่เพียงชี้แจงรายละเอียดของรัฐธรรมนูญเท่านั้น จะไม่สามารถไปชี้นำให้ลงประชามติอย่างใดอย่างหนึ่งได้ โดยการไปเผยแพร่จะเป็นลักษณะของการไปพบปะตามบ้าน หรือชุมชน
"ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะออกมาได้กำหนดทิศทางให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม แต่ต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์หลักเกณฑ์ ไม่หยาบคาย ไม่บิดเบือน ไม่ปลุกระดม หรือข่มขู่"
นายประวิช ยังกล่าวถึง การจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่างรัฐธรรมนูญว่า จะไม่มีการจัดเวทีสด แต่ กกต.จะมีการออกระเบียบให้มีการขึ้นทะเบียนของกลุ่มที่สนับสนุน และคัดค้าน ร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะให้ มีการส่งผู้แทนมาแสดงความคิดเห็นผ่านวิธีการบันทึกเทป และ กกต.จะนำไปเผยแพร่ตามสื่อต่าง เบื้องต้นได้มีการกำหนดไว้ประมาณ 10 ประเด็น ทั้งนี้ ยอมรับว่า อยากจะเชิญผู้ที่เป็นแกนนำของฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายของฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. แกนนำ กปปส. มาร่วม เพราะเราอยากให้วิธีนี้สะท้อนความเห็น เพื่อให้ประชาชนได้ฟังในสิ่งที่ถูกต้องอย่างมีเหตุมีผล เนื่องจากหากไปดำเนินการกันเอง ก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายได้ และในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องให้คสช. ยกเลิกประกาศในเรื่องของการชุมนุม เพราะกรณีนี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่การชุมนุม