“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ความไม่สงบทุกมุมโลก เกิดจาก “คนโลภไม่รู้จักพอ” ทั้งสิ้น!
ตราบใดที่ “ผู้มีอำนาจ” ทางเศรษฐกิจระดับโลก ยังโลภไม่รู้จักพอ ย่อมทำให้การเมืองและการทหาร เดินหน้าไปสู่สงครามโลกอย่างแน่นอน
ชาติไทย -หลังเหตุการณ์ 2475 เป็นต้นมา ผู้นำยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือ จะมีทั้งมาจาก “เลือกตั้ง” และ “อาวุธ” สลับกัน แต่ผู้ยึดอำนาจรัฐผ่านการ “เลือกตั้ง” ได้เปรียบทางการเมืองเหนือผู้ยึดอำนาจรัฐด้วย “อาวุธ” มาตลอด
เพราะฝ่ายยึดอำนาจรัฐผ่านการ”เลือกตั้ง(สกปรก)” มีอเมริกาเป็นหัวโจกใหญ่ และมีชาติตะวันตกเป็นพันธมิตรสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ฯลฯ โดยเฉพาะมีสื่อมวลชนระดับโลกสนับสนุนเต็มที่ ฯลฯ
โดยชูระบอบ “ประชาธิปไตย (ทุนสามานย์)เลือกตั้ง” เป็นจุดสร้างความชอบธรรม เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ-การเคลื่อนไหว-การขยายอิทธิพล และก่อการล้มล้างระบอบการเมืองอื่น เพื่อเข้ายึดอำนาจรัฐชาติต่างๆอยู่ตลอดเวลา
ดังเหตุการณ์จริงทุกครั้งในชาติไทย ที่แม้ทหารจะใช้ “อาวุธ” ยึดอำนาจรัฐ จากรัฐบาล “เลือกตั้ง” ที่คอร์รัปชั่นโกงชาติ แต่สุดท้ายรัฐบาลของคณะรัฐประหาร ก็ต้องปล่อยวางอำนาจรัฐในกำมือลง ด้วยการจัดให้มีการ “เลือกตั้ง”
ทั้งๆที่ฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ รู้ทั้งรู้ล่วงหน้าว่า การเลือกตั้งจะต้องสกปรก จากการใช้เงินซื้อเสียงและโกงสารพัด! ชาติจะได้สมาชิกสภา-นายกรัฐมนตรี-ครม.หรือรัฐบาล ที่ไร้คุณภาพไร้คุณธรรมไร้ความซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ ที่เป็นเผด็จการรัฐสภาและรัฐบาลโกงชาติ!
ทั้งนี้ เพราะฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่เคยสรุปบทเรียนในสิ่งที่กระทำว่า-ผิด! และยังคงกระทำผิดกันแบบซ้ำๆซากๆ โดยไม่เคยคิดค้นหาหนทางไปสู่ความถูกต้อง เพราะผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยการรัฐประหาร ยังคงใช้การเขียนรัฐธรรมนูญกับการเลือกตั้งแก้ปัญหา-คนชั่ว! โดยไม่ได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง ผู้นำรัฐประหารจึงไม่เคยแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติได้เลย!
แถมยังกลายเป็นการสร้างและเพิ่ม ต้นเหตุปัญหาให้ชาติและประชาชนด้วยซ้ำไป!
ทำให้ “วงจรอุบาทว์” การเมืองทวีความชั่วร้าย เป็นภัยร้ายแรงต่อชาติและประชาชน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งนี้ เพราะผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธอยู่ในสภาพ..
หนึ่ง-ติดกับดักประชาธิปไตย(จอมปลอม)เลือกตั้ง(สกปรก)แบบตะวันตก
สอง-ไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริง ที่ยังไม่พร้อมทั้งประชาชนและสังคมไทยในหลายมิติ โดยไม่เคยสรุปบทเรียนและยังหลับหูหลับตาดันทุรัง ใช้ประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก เปิดช่องทางให้กลุ่มทุนสามานย์ใช้เงินและการโกง เข้ายึดอำนาจรัฐได้ครั้งแล้วครั้งเล่าดังที่ผ่านมา
สาม-ไม่เคยได้พัฒนาความรู้และค้นคว้า หาหนทางที่ถูกต้องสอดคล้อง กับ สภาพคนไทยและสังคมไทยอย่างจริงจัง เพื่อทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติ กับ กีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ
สี่-หัวใจสำคัญที่สุด คือ ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่ยอมแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ เพราะเกิดความโลภในอำนาจ-ลาภยศ-เงินทอง ฯลฯ และอยากสืบทอดอำนาจด้วยการเมืองแบบเดิมนั่นเอง
ดังนั้น ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธที่ผ่านมา จึงร้อนรนกับการมีรัฐธรรมนูญใหม่ และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเท่านั้น ทั้งๆที่ยังไม่ได้แก้ปัญหา “กลุ่มคนชั่ว” เข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้ง! ยังไม่ได้แก้ปัญหาการใช้เงินซื้อเสียงและการโกงเลือกตั้ง! ยังไม่ได้แก้ปัญหาการเป็นเผด็จการรัฐสภา! ยังไม่ได้แก้ปัญหารัฐบาลโกงชาติ!
ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธจึงไม่มีปัญญา แก้ปัญหา “วงจรอุบาทว์” ทางการเมืองไทย ให้หลุดพ้นจากการครอบงำอิทธิพลของทุนสามานย์ นั่นคือ หนึ่ง-มีการเลือกตั้งสกปรก สอง-ได้รัฐสภาฯเผด็จการทุนสามานย์ สาม-ได้นายกฯ-ครม.-รัฐบาลทุนสามานย์โกงชาติ สี่-ประชาชนต้องออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลชั่ว ห้า-นำไปสู่การ “ยุบสภา” หรือ “รัฐประหาร” ก่อนจะเริ่มนับหนึ่งด้วยการเลือกตั้งสกปรกอีกครั้ง
นั่นทำให้ชาติไทยตกอยู่ในสภาพ เป็นรัฐที่ล้มเหลวทางการเมืองโดยแท้! เพราะผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนจึงถูกกล่าวหาว่า กำลังพา “ชาติไทยถอยหลังลงคลอง” ทั้งๆที่ต้นเหตุการณ์รัฐประหารเกิดจาก รัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ ก็กำลังพา “ชาติเดินหน้าลงเหว” ต่อหน้าต่อตา!
อย่างไรก็ตาม..ทั้งสองฝ่ายไม่เคยสำนึกความผิด ในสิ่งที่พวกตนกระทำว่า เป็นเรื่องทำร้ายทำลายชาติอย่างมหันต์ เพราะเป็นการทำชั่วแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” นั่นเอง
ยิ่งฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่ลงโทษฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ที่ทำผิดต่อกฎหมายมากมายอย่างเด็ดขาด จึงทำให้ฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ยังคงร่วมมือกับชาติมหาอำนาจตะวันตก ทำการเรียกร้องกดดันให้ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยปืน ให้เร่งจัดการเลือกตั้งเพื่อเปิดทาง ให้กลุ่มทุนสามานย์ในไทยเข้ายึดอำนาจรัฐ โดยมีการเคลื่อนไหว-ทำลาย-โค่นล้ม รัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยวิธีรัฐประหารอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งรัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ มิได้ใช้สื่อมวลชนของรัฐและเอกชน ทำการเปิดโปงความชั่วของรัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ อย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ ที่ไม่ชอบธรรมในประเทศไทย กลายเป็นรัฐบาล “ประชาธิปไตย (จอมปลอม)” ที่ถูกเผด็จการทหารโค่นล้มลงโดยไร้ความผิด ในสายตาของชาติตะวันตกไปโดยปริยาย
ขณะนี้สังคมโลกอยู่ในสภาพไม่ปกติ มหาอำนาจโลกขัดแย้งกันอย่างรุนแรง กับการแย่งชิงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อันจะนำไปสู่การต่อสู้ทางการเมือง และความขัดแย้งอย่างรุนแรงทางการทหาร จนโลกเกิดสงครามรบพุ่งมากมาย และเกิดการก่อการร้ายขึ้นทั่วโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกก็เกิดวิกฤติยืดเยื้อ
ท่ามกลางสังคมทุนสามานย์โลก ที่เต็มไปด้วยกิเลสอยู่เหนือเหตุผล มีแต่การบริโภคที่ไม่รู้จักพอในทุกมิติ กำลังจะนำโลกไปสู่ความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ฯลฯ ซึ่งจะทำลายทั้งความสงบ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งโลก
ในชาติไทย..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระฯ ได้ทรงเสนอ “แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” ที่ยึดหลักเหตุผลและความพอดีพอเหมาะพอควร ฯลฯ ซึ่งเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความจริงในสังคมไทย จนพระองค์ทรงได้รับเสียงชื่นชมแซ่ซ้อง จากผู้นำของสหประชาชาติและผู้นำชาติต่างๆมากมาย
ทว่า น่าเสียดายยิ่งนัก ที่รัฐบาลไทยทั้งยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและด้วยปืน ไม่เคยนำไปปฏิบัติอย่างจริงใจและจริงจังเลย มีแต่การอ้างด้วยปากและโกหกครั้งแล้วครั้งเล่าว่า รัฐบาลนั้นรัฐบาลนี้ได้ปฏิบัติ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ทั้งๆที่กระทำกันเพียงฉาบฉวย ทำแบบ “ขอไปที” หรือ “ผักชีโรยหน้า” เท่านั้น
ส่วนรัฐบาลรัฐประหาร “บิ๊กตู่” นั้น ได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติอย่างเป็นระบบ-จริงจัง-ต่อเนื่องหรือไม่? “บิ๊กตู่” ไปพิจารณาไตร่ตรองด้วยตัวเองก็แล้วกัน!
วันนี้..นายกฯ “บิ๊กตู่” ก็ยังคงจมอยู่กับความเชื่อที่ว่า “รัฐธรรมนูญใหม่” จะป้องกัน-แก้สันดานและปราบนักเลือกตั้งขี้โกงได้
อีกทั้ง “บิ๊กตู่” ยังไม่ได้ทำให้ชาติมีหลักประกันใดๆ ว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปของไทย จะเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริงหรือโดยส่วนใหญ่ได้! แต่กำลังเดินหน้าตามเส้นทาง ประชาธิปไตยแบบตะวันตก โดยจะมีการจัดพิธีมอบ “อำนาจรัฐ” อย่าง “ถูกกฎหมาย” ให้ “กลุ่มทุนสามานย์ไทย” ผ่านการ “เลือกตั้ง” อีกตามเคย
ทำไม “บิ๊กตู่” ไม่ปฏิรูปตำรวจทันที? ทำไม “บิ๊กตู่” ไม่ปฏิรูปชาติในบางเรื่องโดยเร็ว-ก่อนเลือกตั้ง?
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ความไม่สงบทุกมุมโลก เกิดจาก “คนโลภไม่รู้จักพอ” ทั้งสิ้น!
ตราบใดที่ “ผู้มีอำนาจ” ทางเศรษฐกิจระดับโลก ยังโลภไม่รู้จักพอ ย่อมทำให้การเมืองและการทหาร เดินหน้าไปสู่สงครามโลกอย่างแน่นอน
ชาติไทย -หลังเหตุการณ์ 2475 เป็นต้นมา ผู้นำยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือ จะมีทั้งมาจาก “เลือกตั้ง” และ “อาวุธ” สลับกัน แต่ผู้ยึดอำนาจรัฐผ่านการ “เลือกตั้ง” ได้เปรียบทางการเมืองเหนือผู้ยึดอำนาจรัฐด้วย “อาวุธ” มาตลอด
เพราะฝ่ายยึดอำนาจรัฐผ่านการ”เลือกตั้ง(สกปรก)” มีอเมริกาเป็นหัวโจกใหญ่ และมีชาติตะวันตกเป็นพันธมิตรสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ฯลฯ โดยเฉพาะมีสื่อมวลชนระดับโลกสนับสนุนเต็มที่ ฯลฯ
โดยชูระบอบ “ประชาธิปไตย (ทุนสามานย์)เลือกตั้ง” เป็นจุดสร้างความชอบธรรม เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ-การเคลื่อนไหว-การขยายอิทธิพล และก่อการล้มล้างระบอบการเมืองอื่น เพื่อเข้ายึดอำนาจรัฐชาติต่างๆอยู่ตลอดเวลา
ดังเหตุการณ์จริงทุกครั้งในชาติไทย ที่แม้ทหารจะใช้ “อาวุธ” ยึดอำนาจรัฐ จากรัฐบาล “เลือกตั้ง” ที่คอร์รัปชั่นโกงชาติ แต่สุดท้ายรัฐบาลของคณะรัฐประหาร ก็ต้องปล่อยวางอำนาจรัฐในกำมือลง ด้วยการจัดให้มีการ “เลือกตั้ง”
ทั้งๆที่ฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ รู้ทั้งรู้ล่วงหน้าว่า การเลือกตั้งจะต้องสกปรก จากการใช้เงินซื้อเสียงและโกงสารพัด! ชาติจะได้สมาชิกสภา-นายกรัฐมนตรี-ครม.หรือรัฐบาล ที่ไร้คุณภาพไร้คุณธรรมไร้ความซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ ที่เป็นเผด็จการรัฐสภาและรัฐบาลโกงชาติ!
ทั้งนี้ เพราะฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่เคยสรุปบทเรียนในสิ่งที่กระทำว่า-ผิด! และยังคงกระทำผิดกันแบบซ้ำๆซากๆ โดยไม่เคยคิดค้นหาหนทางไปสู่ความถูกต้อง เพราะผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยการรัฐประหาร ยังคงใช้การเขียนรัฐธรรมนูญกับการเลือกตั้งแก้ปัญหา-คนชั่ว! โดยไม่ได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง ผู้นำรัฐประหารจึงไม่เคยแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติได้เลย!
แถมยังกลายเป็นการสร้างและเพิ่ม ต้นเหตุปัญหาให้ชาติและประชาชนด้วยซ้ำไป!
ทำให้ “วงจรอุบาทว์” การเมืองทวีความชั่วร้าย เป็นภัยร้ายแรงต่อชาติและประชาชน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งนี้ เพราะผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธอยู่ในสภาพ..
หนึ่ง-ติดกับดักประชาธิปไตย(จอมปลอม)เลือกตั้ง(สกปรก)แบบตะวันตก
สอง-ไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริง ที่ยังไม่พร้อมทั้งประชาชนและสังคมไทยในหลายมิติ โดยไม่เคยสรุปบทเรียนและยังหลับหูหลับตาดันทุรัง ใช้ประชาธิปไตยเลือกตั้งแบบตะวันตก เปิดช่องทางให้กลุ่มทุนสามานย์ใช้เงินและการโกง เข้ายึดอำนาจรัฐได้ครั้งแล้วครั้งเล่าดังที่ผ่านมา
สาม-ไม่เคยได้พัฒนาความรู้และค้นคว้า หาหนทางที่ถูกต้องสอดคล้อง กับ สภาพคนไทยและสังคมไทยอย่างจริงจัง เพื่อทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติ กับ กีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ
สี่-หัวใจสำคัญที่สุด คือ ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่ยอมแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ เพราะเกิดความโลภในอำนาจ-ลาภยศ-เงินทอง ฯลฯ และอยากสืบทอดอำนาจด้วยการเมืองแบบเดิมนั่นเอง
ดังนั้น ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธที่ผ่านมา จึงร้อนรนกับการมีรัฐธรรมนูญใหม่ และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเท่านั้น ทั้งๆที่ยังไม่ได้แก้ปัญหา “กลุ่มคนชั่ว” เข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้ง! ยังไม่ได้แก้ปัญหาการใช้เงินซื้อเสียงและการโกงเลือกตั้ง! ยังไม่ได้แก้ปัญหาการเป็นเผด็จการรัฐสภา! ยังไม่ได้แก้ปัญหารัฐบาลโกงชาติ!
ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธจึงไม่มีปัญญา แก้ปัญหา “วงจรอุบาทว์” ทางการเมืองไทย ให้หลุดพ้นจากการครอบงำอิทธิพลของทุนสามานย์ นั่นคือ หนึ่ง-มีการเลือกตั้งสกปรก สอง-ได้รัฐสภาฯเผด็จการทุนสามานย์ สาม-ได้นายกฯ-ครม.-รัฐบาลทุนสามานย์โกงชาติ สี่-ประชาชนต้องออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลชั่ว ห้า-นำไปสู่การ “ยุบสภา” หรือ “รัฐประหาร” ก่อนจะเริ่มนับหนึ่งด้วยการเลือกตั้งสกปรกอีกครั้ง
นั่นทำให้ชาติไทยตกอยู่ในสภาพ เป็นรัฐที่ล้มเหลวทางการเมืองโดยแท้! เพราะผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนจึงถูกกล่าวหาว่า กำลังพา “ชาติไทยถอยหลังลงคลอง” ทั้งๆที่ต้นเหตุการณ์รัฐประหารเกิดจาก รัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ ก็กำลังพา “ชาติเดินหน้าลงเหว” ต่อหน้าต่อตา!
อย่างไรก็ตาม..ทั้งสองฝ่ายไม่เคยสำนึกความผิด ในสิ่งที่พวกตนกระทำว่า เป็นเรื่องทำร้ายทำลายชาติอย่างมหันต์ เพราะเป็นการทำชั่วแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” นั่นเอง
ยิ่งฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ ไม่ลงโทษฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ที่ทำผิดต่อกฎหมายมากมายอย่างเด็ดขาด จึงทำให้ฝ่ายยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน ยังคงร่วมมือกับชาติมหาอำนาจตะวันตก ทำการเรียกร้องกดดันให้ผู้ยึดอำนาจรัฐด้วยปืน ให้เร่งจัดการเลือกตั้งเพื่อเปิดทาง ให้กลุ่มทุนสามานย์ในไทยเข้ายึดอำนาจรัฐ โดยมีการเคลื่อนไหว-ทำลาย-โค่นล้ม รัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยวิธีรัฐประหารอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งรัฐบาลยึดอำนาจรัฐด้วยอาวุธ มิได้ใช้สื่อมวลชนของรัฐและเอกชน ทำการเปิดโปงความชั่วของรัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ อย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ ที่ไม่ชอบธรรมในประเทศไทย กลายเป็นรัฐบาล “ประชาธิปไตย (จอมปลอม)” ที่ถูกเผด็จการทหารโค่นล้มลงโดยไร้ความผิด ในสายตาของชาติตะวันตกไปโดยปริยาย
ขณะนี้สังคมโลกอยู่ในสภาพไม่ปกติ มหาอำนาจโลกขัดแย้งกันอย่างรุนแรง กับการแย่งชิงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อันจะนำไปสู่การต่อสู้ทางการเมือง และความขัดแย้งอย่างรุนแรงทางการทหาร จนโลกเกิดสงครามรบพุ่งมากมาย และเกิดการก่อการร้ายขึ้นทั่วโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกก็เกิดวิกฤติยืดเยื้อ
ท่ามกลางสังคมทุนสามานย์โลก ที่เต็มไปด้วยกิเลสอยู่เหนือเหตุผล มีแต่การบริโภคที่ไม่รู้จักพอในทุกมิติ กำลังจะนำโลกไปสู่ความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมือง-การทหาร ฯลฯ ซึ่งจะทำลายทั้งความสงบ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งโลก
ในชาติไทย..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระฯ ได้ทรงเสนอ “แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” ที่ยึดหลักเหตุผลและความพอดีพอเหมาะพอควร ฯลฯ ซึ่งเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความจริงในสังคมไทย จนพระองค์ทรงได้รับเสียงชื่นชมแซ่ซ้อง จากผู้นำของสหประชาชาติและผู้นำชาติต่างๆมากมาย
ทว่า น่าเสียดายยิ่งนัก ที่รัฐบาลไทยทั้งยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและด้วยปืน ไม่เคยนำไปปฏิบัติอย่างจริงใจและจริงจังเลย มีแต่การอ้างด้วยปากและโกหกครั้งแล้วครั้งเล่าว่า รัฐบาลนั้นรัฐบาลนี้ได้ปฏิบัติ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ทั้งๆที่กระทำกันเพียงฉาบฉวย ทำแบบ “ขอไปที” หรือ “ผักชีโรยหน้า” เท่านั้น
ส่วนรัฐบาลรัฐประหาร “บิ๊กตู่” นั้น ได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติอย่างเป็นระบบ-จริงจัง-ต่อเนื่องหรือไม่? “บิ๊กตู่” ไปพิจารณาไตร่ตรองด้วยตัวเองก็แล้วกัน!
วันนี้..นายกฯ “บิ๊กตู่” ก็ยังคงจมอยู่กับความเชื่อที่ว่า “รัฐธรรมนูญใหม่” จะป้องกัน-แก้สันดานและปราบนักเลือกตั้งขี้โกงได้
อีกทั้ง “บิ๊กตู่” ยังไม่ได้ทำให้ชาติมีหลักประกันใดๆ ว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปของไทย จะเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริงหรือโดยส่วนใหญ่ได้! แต่กำลังเดินหน้าตามเส้นทาง ประชาธิปไตยแบบตะวันตก โดยจะมีการจัดพิธีมอบ “อำนาจรัฐ” อย่าง “ถูกกฎหมาย” ให้ “กลุ่มทุนสามานย์ไทย” ผ่านการ “เลือกตั้ง” อีกตามเคย
ทำไม “บิ๊กตู่” ไม่ปฏิรูปตำรวจทันที? ทำไม “บิ๊กตู่” ไม่ปฏิรูปชาติในบางเรื่องโดยเร็ว-ก่อนเลือกตั้ง?